ผู้จัดการรายวัน 360 - “ฟรุตต้า” ลงทุนเพิ่มอีก 80 ล้านบาทขยายกำลังผลิตเครื่องดื่มผลไม้ รองรับขยายตลาดต่างประเทศเติบโต และรุกตลาดไทยปีนี้
นายรักชัย เร่งสมบูรณ์ กรรมการบริหาร บริษัท ฟรุตต้า เนเชอรัล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มฟรุตต้า สมูทตี้ผลไม้ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ จะลงทุนเพิ่มอีก 80 ล้านบาท หลังจากที่ลงทุนไปแล้ว 120 ล้านบาท ในการผลิตเครื่องดื่มฟรุตต้า เพื่อขยายกำลังผลิตเพิ่มอีก 6 ล้านขวดต่อเดือน จากเดิมมี 2 ล้านขวดต่อเดือนที่โรงงานเดิม บางไทร อยุธยา ขณะที่โรงงานสามโคก ปทุมธานีจะผลิตแพกเกจจิ้งที่เป็นขวด
การขยายกำลังผลิตเพื่อรองรับตลาดต่างประเทศที่บริษัทฯ ทำตลาดมานาน 6 ปีแล้ว และได้รับการตอบรับอย่างดีจะมีการขยายตลาดต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน เพื่อรองรับการขยายตลาดเข้าสู่ประเทศไทยอย่างจริงจังในปีนี้อีกด้วย หลังจากที่เริ่มทดลองมาแล้วระยะหนึ่ง
ในต่างประเทศจะขยายจุดจำหน่ายและขยายตลาดเพิ่มอีกในหลายประเทศ เช่น สเปน จากเดิมมีหลายที่ เช่น จีน อเมริกา เช็ก โปแลนด์ อังกฤษ เกาหลีใต้ สิงคโปร์ ฮ่องกง เป็นต้น มีประมาณ 15,000 จุดจำหน่ายแล้ว ตามช่องทางหลัก เช่น วัตสัน เจดี เป็นต้น โดยมีเป้าหมายเพิ่มเป็น 30,000 จุดจำหน่ายในปีหน้าใน 15 ประเทศ และเพิ่มเป็น 50,000 จุดจำหน่ายใน 20 ประเทศ ภายในปี 2562 ซึ่งจีนถือเป็นตลาดหลักมีสัดส่วนยอดขายประมาณ 50% จากยอดขายในต่างประเทศทั้งหมด
ส่วนตลาดในใทยเริ่มขายพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก ขณะนี้เริ่มกลับมาทำตลาดใหม่อีกครั้ง โดยให้บริษัท สหพัฒนพิบูลย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดจำหน่าย เริ่มจำหน่ายแล้วที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ประมาณ 1,000 กว่าสาขา และจะขยายต่อเนื่อง และเตรียมเข้าจำหน่ายในร้านวัตสัน ร้านแฟมิลี่มาร์ท ร้านเทสโก้โลตัส เป็นต้น โดยตั้งเป้าหมายมีจุดจำหน่ายในไทยสิ้นปีนี้รวม 10,000 จุดจำหน่าย จากปัจจุบันมีประมาณ 4,500 จุดจำหน่ายแล้ว อีกทั้งยังร่วมมือกับทางตระกูลจิราธิวัฒน์ในการเปิด ฟรุตต้าโกลบอลเทสติ้งคาเฟ่ด้วย เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในไทยไว้ที่ 40 ล้านบาทต่อเดือน และตั้งเป้าหมายเข้าตลาด MAI ภายในปี 2563 ด้วย
ทั้งนี้ ในต่างประเทศยังคงเป็นตลาดหลัก เนื่องจากตลาดใหญ่กว่า และราคาจำหน่ายสูงกว่า เช่น ที่จีนราคาเฉลี่ย 50-60 บาทต่อขวด ที่ยุโรปเฉลี่ย 70-80 บาทต่อขวด ที่อเมริกา เฉลี่ย 100 บาทต่อขวด ด้วยสัดส่วนยอดขายกว่า 90% ส่วนอีก 10% เป็นยอดขายในไทย ซึ่งมีราคาขายเพียง 25 บาท กับ 30 บาท โดยมีผลิตภัณฑ์รวม 6 เอสเคยู
“แม้ว่าตลาดเครื่องดื่มผลไม้ในไทยจะมีมากถึง 30,000 ล้านบาท โดยเป็นส่วนของน้ำผลไม้ 100% มูลค่า 19,000 ล้านบาทก็ตาม แต่การแข่งขันสูงมาก แต่เราก็ต้องมีฐานตลาดในไทยเช่นเดียวกับมีฐานผลิตอยู่แล้ว โดยตั้งงบการตลาดปีนี้ไว้ที่ 15 ล้านบาท โดยใช้พรีเซ็นเตอร์ 2 คน เปิดตัวคนแรกก่อนคือ “เป๊ก-ผลิตโชค” เป็นพรีเซ็นเตอร์ พร้อมกันทั่ว 12 ประเทศในตลาดเอเชียแปซิฟิก และอีกคนคือ “นน-ชานน สันตินธรกุล” นายรักชัยกล่าว