ผู้จัดการรายวัน 360 - ชอปปิ้งออนไลน์ทะลุ 1.7 แสนล้านในอีก 4 ปี ปีนี้เฉียดแสนล้าน หลังพบยอดสั่งซื้อสูงถึง 8,000 บาท/คน/ปี “ช้อปปี้” ชี้ขาดอนาคตชอปปิ้งออนไลน์ไทยยังโตได้อีกมาก ล่าสุดส่งแคมเปญ “Shopee 9.9 Super ShoppingDay” ลดกระหน่ำ 90% ปลายเดือน ส.คนี้ มั่นใจยอดขายทะลัก 3-4 เท่าตัวจากเวลาปกติ
นายเทอเรนซ์ แพง ประธานฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดชอปปิ้งออนไลน์ในไทยยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก เพราะปัจจุบันยังถือว่ามีขนาดเล็กอยู่ สินค้าที่นิยมซื้อยังกระจุกตัวอยู่ ซึ่งยังมีสินค้าอีกหลายประเภทที่สามารถซื้อขายได้บนออนไลน์ อีกทั้งกลุ่มลูกค้าที่ชอปปิ้งออนไลน์ส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนรุ่นใหม่เป็นหลัก ซึ่งสามารถขยายกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มขึ้นได้
ในส่วนของช้อปปี้ให้บริการทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งมีผู้ใช้บริการประมาณ 160 ล้านคนทั่วทั้งภูมิภาค ขณะที่ในไตรมาสสองปี 2561 นี้พบว่ามียอดขายไปแล้วกว่า 2,200 พันล้านยูเอส และเฉพาะตลาดไทยมียอดสั่งซื้อกว่า 120 ล้านออเดอร์ ไทยจึงเป็นตลาดที่สำคัญของช้อปปี้ ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการให้เพิ่มมากขึ้นเป็นหลัก จากปัจจุบันมียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันและใช้งานกว่า 23 ล้านคน และมีร้านค้ากว่า 800,000 ร้าน รวมถึงแบรนด์ชั้นนำอีกกว่า 1,000 แบรนด์
ล่าสุดปี 2561 นี้ช้อปปี้จัดแคมเปญ "Shopee 9.9 Super ShoppingDay" ตั้งแต่ 29 ส.ค.-9 ก.ย. 61 กับร้านค้า 800,000 ร้าน แบรนด์สินค้าชั้นนำและแบรนด์พันธมิตร 60 แบรนด์ ในการนำสินค้ามาลดราคาสูงสุด 90% นอกจากนี้ยังจับมือกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดโอกาสให้ธุรกิจรายย่อยร่วมขายสินค้าในครั้งนี้ ภายใต้โครงการพิเศษ "Thailand 9.9 Selected SME Online" พบกับสินค้า SMEs 99 ชนิด มั่นใจว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัวจากช่วงเวลาปกติ
นายศิวกร ภานุพงษ์ หัวหน้าฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเสริมว่า ปัจจุบันคนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตแล้ว 70% หรือกว่า 41.7 ล้านคน และมีมือถือใช้งานกว่า 37.06 ล้านคน ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้อี-คอมเมิร์ชเติบโตมากขึ้น โดยพบว่าปีนี้มีผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์กว่า 12.1 ล้านคน เฉลี่ยใช้จ่ายอยู่ที่ 8,000 บาทต่อคน/ปี หรือปีนี้มูลค่าการซื้อสินค้าออนไลน์สูงถึง 96,800 ล้านบาท และในปี 2564 คาดว่าจะมีผู้บริโภคซื้อสินค้าออนไลน์เพิ่มเป็น 13.9 ล้านคน และมียอดการใช้จ่ายเพิ่มเป็น 12,700 บาทต่อคน/ปี หรือคาดว่าในอีก 4 ปีข้างหน้ามูลค่าการซื้อขายออนไลน์จะเพิ่มเป็น 176,530 ล้านบาท
ขณะที่พฤติกรรมการชอปปิ้งออนไลน์มาจากมือถือ 67.3% และจากเว็บไซต์(คอมพิวเตอร์) 10.5% และทั้งจาก 2 ช่องทางมี 22.2% โดยกลุ่มสินค้าที่นิยมซื้อออนไลน์มากสุด คือ 1. สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ 41,800 ล้านบาท 2. แฟชั่น และบิวตี้ 17,700 ล้านบาท ส่วนช้อปปี้เองนั้น พบว่าสินค้าที่ขายดีมีอยู่ 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มมือถือและแก็ดเจ็ต โดยเฉพาะเพาเวอร์แบงก์ 2. กลุ่มเฮลท์ และบิวตี้ โดยเฉพาะอาหารเสริมด้านความสวยความงาม และ 3. กลุ่มแฟชั่น อย่างเช่น กระเป๋าสะพายข้าง
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ ผู้บริโภคยังเชื่อในตัวอินฟลูเอนเซอร์อย่างมาก โดยพบว่า 71% ต้องหาข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์ก่อนการซื้อ และอีกกว่า 74% ของการหาข้อมูลจากอินฟลูเอนเซอร์ ดูแล้วจึงตัดสินใจซื้อสินค้า ขณะที่ปัจจัยสำคัญที่จะซื้อสินค้าออนไลน์มีอยู่ 4 ข้อ เช่น เหตุผลในการซื้อ ราคา และการที่มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย การส่งสินค้าฟรี และเลือกจ่ายได้หลายรูปแบบ
