ขสมก.เตรียมเสนอ ครม.รื้อแผนจัดหารถ 3,183 คัน 1.3 หมื่นล้าน เป็น 3,000 คัน วงเงิน 1.2 หมื่นล้าน เร่งล็อตแรก 700 คัน โดยวิธีเช่ารถ NGV 300 คัน และไฮบริด 400 คัน สัญญา 7 ปี ส่วนรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน เล็งเปิดประมูลปลายปี 62 ขณะที่แผนลดพนักงาน 3,000 คนเพื่อลดค่าใช้จ่ายหลัก ขณะที่ยังตรึงค่าโดยสารไปจนกว่าจะมีรถใหม่และบริการมีคุณภาพมากขึ้น
นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ( ขสมก.) กล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก.แล้ว ขณะนี้ ขสมก.ได้จัดทำแผนการจัดหารถโดยสารใหม่เพื่อทดแทนรถเก่า ซึ่งบอร์ด ขสมก.เห็นชอบแล้ว อยู่ในขั้นตอนสอบถามความเห็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เสนอ ครม.ขอทบทวนแผนจัดหารถเดิม จาก 3,183 คัน วงเงิน 1.3 หมื่นล้านบาท เป็น 3,000 คัน วงเงิน1.2 หมื่นล้านบาท
พร้อมกันนี้ จะทำแผนรายละเอียดการบริหารจัดการหนี้กว่า 1.07 แสนล้านบาทเพื่อเสนอ ครม.ต่อไปด้วย โดยจะแยกหนี้ที่เกิดจากนโยบายและรัฐ และหนี้ที่เกิดจากการดำเนินงานให้ชัดเจน ซึ่งหลักการจะเสนอขอให้รัฐรับหนี้ในส่วนที่เกิดจากนโยบายของรัฐ เช่น การถูกควบคุมค่าโดยสาร การให้บริการรถเมล์ฟรี และภาระดอกเบี้ยที่เกิดจากนโยบายภาครัฐ ซึ่งมีสัดส่วน 80% ของหนี้ทั้งหมด ซึ่งรัฐอาจพิจารณาตั้งงบประมาณรายปี ทยอยใช้หนี้ให้สอดคล้องกับหนี้ที่ครบกำหนดชำระ
“การมีรถใหม่ที่ใช้พลังงานที่ถูกลงจะยกระดับการให้บริการที่มีคุณภาพมากขึ้น แต่ในส่วนของการลดต้นทุนดำเนินงานนั้นจะยังไม่เห็นในช่วงแรกเพราะมีภาระค่าลงทุนและค่าเสื่อม แต่คาดว่าในปี 2562 เป็นต้นไปจะเริ่มลดค่าใช้จ่ายด้านพนักงานลงได้ ซึ่งได้ตั้งแผนโครงการเกษียณก่อนอายุ หรือ early retire ซึ่งอยู่ระหว่างพิจารณา โดยจากการสำรวจความเห็นพนักงานสนใจเข้าร่วมโครงการประมาณ 700-800 คน โดยปี 2562 เตรียมตั้งงบรองรับพนักงานโครงการเออร์ลีฯ ประมาณ 300-400 คน ส่วนปี 2563 คาดว่าจะเพิ่มเกือบ 2,000 คน แต่ทั้งนี้ขึ้นกับความสมัครใจ ซึ่ง ขสมก.กำลังทำแผนเงื่อนไขการจ่ายผลตอบแทน ซึ่งรวมแล้วไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือน โดยประเมินจากกฎหมายแรงงานที่กำหนดต้องจ่ายที่ 10 เท่าของเงินเดือนพิจารณารวมกับผลประโยชน์อื่นๆ และให้นำเงื่อนไขของรัฐวิสาหกิจอื่นมาเปรียบเทียบด้วย โดยให้เสนอบอร์ด ขสมก.พิจารณาในเดือน ต.ค.นี้ และเสนอ ครม.เพื่อขอตั้งงบประมาณต่อไป”
นายณัฐชาติกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีนโยบายในการปรับค่าโดยสารจนกว่าจะมีรถใหม่ และมีบริการที่ดีขึ้น ซึ่งแนวทางการเสนอปรับค่าโดยสารจะต้องสอดคล้องกับต้นทุนจริงภายใต้การบริหารที่มีประสิทธิภาพ และ ขสมก.มี Ebitda เป็นบวก ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงปลายปี 2562-2563 ที่มีรถใหม่เข้ามาจำนวนหนึ่งจึงจะเริ่มหารือ ปัจจุบันรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) ค่าโดยสาร 6.50 บาท ขณะที่ต้นทุนจริงอยู่ที่ 11-12 บาท ส่วนจะปรับเท่าไรนั้นขึ้นกับรัฐบาลที่จะสนับสนุนประชาชนที่ใช้บริการรถเมล์อย่างไรด้วย
***เตรียมเสนอ ครม.รื้อแผนจัดหารถ 3,183 คันเป็น 3,000 คัน เร่งล็อตแรกเช่า 700 คัน ก่อน
ด้าน นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ และรักษาการผู้อำนวยการ ขสมก.กล่าวว่า ขณะนี้แผนฟื้นฟู ขสมก.ในส่วนของการจัดหารถโดยสารใหม่ ได้ส่งเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคมเพื่อขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งอยู่ในขั้นตอนส่งเรื่องให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) จากนั้นจะเป็นการสอบถามความเห็นจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนเสนอ ครม.พิจารณาต่อไป
การจัดหารถเมล์ใหม่ตามมติ ครม.เดิมอนุมัติการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 3,183 คัน วงเงิน 13,162 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลชุดปัจจุบัน ที่มี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้เร่งรัดให้จัดซื้อรถเมล์ NGV จำนวน 489 คันก่อน ดังนั้น ขสมก.ได้มีการทบทวนในส่วนที่เหลือซึ่งได้มีการปรับแผนจัดหารถใหม่ให้สอดคล้องกับแผน ฟื้นฟูจากรถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน เป็นรถจำนวน 3,000 คัน วงเงินกว่า 12,000 ล้านบาท โดยเป็นการจัดหามาทดแทนรถ 2,674 คันในปัจจุบันที่จะทยอยปลดระวางภายใน 4 ปี
สำหรับรถ 3,000 คัน ประกอบด้วย รถเมล์ NGV โดยเป็นการจัดซื้อจำนวน 489 คัน (ได้ประมูลจัดหาเสร็จแล้ว), การเช่ารถ NGV 300 คัน, ระบบดีเซลและไฟฟ้า (Hybrid) โดยวิธีการเช่าจำนวน 400 คัน และวิธีซื้อจำนวน 1,453 คัน รถเมล์ไฟฟ้า (EV) จำนวน 35 คัน ใช้วิธีจัดซื้อ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงรถเก่า จำนวน 323 คัน ซึ่งส่วนนี้จะใช้งบประมาณดำเนินการประมาณ 162 ล้านบาท หรือเฉลี่ยคันละ 4.2 แสนบาท ซึ่งเป็นการนำรถปรับอากาศ NGV ยี่ห้อฮีโน่ ที่เคยมีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์เป็น NGV เมื่อ 5 ปีที่แล้วมาดำเนินการปรับปรุงตัวถังรถ ทาสีใหม่ และปรับปรุงภายใน เบาะที่นั่งให้มีสภาพใหม่ โดยจะเริ่มปรับปรุงปลายปีนี้ ปี 2562 จะทยอยส่งมอบให้ ขสมก.ประมาณเดือนละ 30 คัน
นายประยูรกล่าวว่า คาดว่า ครม.จะเห็นชอบการทบทวนจัดหารถใหม่ในเดือน ต.ค.-พ.ย.นี้ โดย ขสมก.จะเริ่มดำเนินการในส่วนของการเช่าก่อนจำนวน 700 คัน ได้แก่ รถ NGV 300 คัน และไฮบริด 400 คัน มีระยะเวลา 7 ปี และจัดซื้อรถเมล์ไฟฟ้า 35 คัน คาดจะเปิดประมูลได้ปลายปี 2562 โดยวางแผนทยอยประมูล 3 ล็อต คือ 10 คัน, 10 คัน และ 15 คัน
ทั้งนี้ สาเหตุที่จัดหารถ 700 คันด้วยการเช่าเนื่องจากต้องการให้สอดรับกับแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่จะแล้วเสร็จ ซึ่งกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) จะมีการปฏิรูปรถเมล์ 269 เส้นทาง ปัจจุบัน ขสมก.มีอยู่ 137 เส้นทาง เมื่อระบบรถไฟฟ้าเสร็จสมบูรณ์จะปรับเส้นทางรถเมล์ใหม่ สามารถปรับลดหรือยกเลิกการเช่ารถเหล่านี้ได้ ขณะที่ ขสมก.จะมีข้อมูลพื้นฐานในการเปรียบเทียบเรื่องความคุ้มค่า เพื่อตัดสินใจสำหรับวิธีการเช่า หรือซื้อ โดยขณะนี้ ขสมก.ได้ร่างทีโออาร์ และทำราคากลางคู่ขนานไปด้วยเพื่อให้พร้อมเปิดประมูลในปลายปีนี้