xs
xsm
sm
md
lg

“บาวแดง” ผนึกญี่ปุ่น ทุ่ม 2.2 พันล้านผุดฐานผลิตใหม่เจาะตลาดโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน 360 - ชูกำลังหด “บาวแดง” ลุย “แคน” เจาะคนรุ่นใหม่ เร่งใช้งบ 100 ล้านบาทลุยครึ่งปีหลัง อัดงบอีก 2,200 ล้านบาทย้ายโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมมาที่ฉะเชิงเทรา ชูเป็นศูนย์การผลิตระดับโลก รวมลงทุนกว่า 8,700 ล้านบาท

นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ และ Chief Productions Officer (CPO) กลุ่มโรงงาน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ย้ายสายการผลิตทั้งหมดมารวมกันที่ศูนย์กลางผลิตแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ 180 ไร่ ประกอบด้วย โรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) โรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) และโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียม (ACM) ซึ่งเป็นการลงทุนกับบริษัท SHOWA DENKO Group จากญี่ปุ่น โดยใช้งบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาทก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋อง ทำให้คาราบาวกรุ๊ปมีกำลังการผลิตกระป๋องของตัวเองถึง 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี ซึ่งเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบกระป๋องเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ

“เดิมโรงงานผลิตกระป๋องมีอยู่แล้วที่บางบ่อ แต่ย้ายสายการผลิตทั้งหมดมาที่ศูนย์กลางผลิตแห่งใหม่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยในส่วนของไลน์ผลิตกระป๋องเป็นโรงงานใหม่สุด ซึ่งมีการย้ายไลน์ผลิตมาจากที่เดิมด้วย พื้นที่โรงงานแห่งนี้เดิมมีโรงงานผลิตอยู่แล้ว 2 โรง คือโรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) กำลังผลิต 640 ตัน/ปี และโรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) รูปแบบขวดกว่า 1,600 ล้านขวด/ปี ส่งออกไปจีนและพม่า และแบบกระป๋องส่งออกหมดปีละกว่า 1,500 ล้านกระป๋อง ซึ่งถ้ารวมทั้ง 3 โรงงานจะมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 8,700 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ซึ่งยังเหลือพื้นที่อีกหลายสิบไร่ที่จะต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ ได้อีก เช่น โรงผสมเฟเวอร์ เป็นต้น ศูนย์กลางการผลิตแห่งนี้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 2 ปี”

การมีโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมของคาราบาวเอ จะลดการพึ่งพิงกระป๋องอะลูมิเนียมที่จัดหาจากบุคคลภายนอก และสนับสนุนการเติบโตของเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวในต่างประเทศ ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรระยะยาว และหากมีกำลังการผลิตส่วนเกินจำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายอื่นตามคำสั่งซื้อ

นายกฤษณ์พงษ์ นิลวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด กล่าวต่อว่า แผนการตลาดปีนี้จะเน้นปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเทรนด์โลกที่พบว่าโลกกำลังขับเคลื่อนด้วยคนหนุ่มสาว ซึ่งกลุ่มนี้นิยมหันมาดื่มเอนเนอร์ยีดริงก์มากขึ้น ครึ่งปีหลังปี 2561 ใช้งบการตลาดกว่า 100 ล้านบาทจัดกิจกรรส่งเสริมการขายและโปรโมชันมากขึ้นในรายพื้นที่ รวมถึงทำการตลาดในช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีลงมาพบว่ามีอัตราการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้น 102%

รวมทั้งแผนขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คาราบาว แคน (กรีนแอปเปิล) ที่วางจำหน่ายเฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่น 3 เดือน จะครบกำหนดในเดือน ก.ย นี้ มีแผนที่จะขยายเวลาจำหน่ายเพิ่ม รวมถึงเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัลเทรด และปีหน้าจะเพิ่มรสชาติใหม่อีก 1-2 รสชาติ

ปัจจุบันพบว่าตลาดชูกำลังในรูปแบบกระป๋องมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท อันดับหนึ่งคือ เรดบูลเอ็กซ์ตร้า คาราบาวแดงเป็นอันดับสอง และอันดับสามคือ ชาร์ค

ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังครึ่งปีแรกตกลงเล็กน้อย ส่วนคาราบาวแดงมั่นใจว่าจะมีรายได้ตามที่วางไว้ ในไตรมาสสอง ผลประกอบการทำได้กว่า 7,047 ล้านบาท กำไร 390 ล้านบาท โต 47%

ผู้จัดการรายวัน 360 - ชูกำลังหด “บาวแดง” ลุย “แคน” เจาะคนรุ่นใหม่ เร่งใช้งบ 100 ล้านบาทลุยครึ่งปีหลัง อัดงบอีก 2,200 ล้านบาทย้ายโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมมาที่ฉะเชิงเทรา ชูเป็นศูนย์การผลิตระดับโลก รวมลงทุนกว่า 8,700 ล้านบาท

นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการ และ Chief Productions Officer (CPO) กลุ่มโรงงาน บริษัท คาราบาวกรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ย้ายสายการผลิตทั้งหมดมารวมกันที่ศูนย์กลางผลิตแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา พื้นที่ 180 ไร่ ประกอบด้วย โรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) โรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) และโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียม (ACM) ซึ่งเป็นการลงทุนกับบริษัท SHOWA DENKO Group จากญี่ปุ่น โดยใช้งบลงทุนกว่า 2,200 ล้านบาทก่อสร้างโรงงานผลิตกระป๋อง ทำให้คาราบาวกรุ๊ปมีกำลังการผลิตกระป๋องของตัวเองถึง 1,000 ล้านกระป๋องต่อปี ซึ่งเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์รูปแบบกระป๋องเพื่อการส่งออกโดยเฉพาะ

“เดิมโรงงานผลิตกระป๋องมีอยู่แล้วที่บางบ่อ แต่ย้ายสายการผลิตทั้งหมดมาที่ศูนย์กลางผลิตแห่งใหม่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยในส่วนของไลน์ผลิตกระป๋องเป็นโรงงานใหม่สุด ซึ่งมีการย้ายไลน์ผลิตมาจากที่เดิมด้วย พื้นที่โรงงานแห่งนี้เดิมมีโรงงานผลิตอยู่แล้ว 2 โรง คือโรงงานผลิตขวดแก้ว (APG) กำลังผลิต 640 ตัน/ปี และโรงงานบรรจุสินค้าเครื่องดื่มชูกำลัง (CBD) รูปแบบขวดกว่า 1,600 ล้านขวด/ปี ส่งออกไปจีนและพม่า และแบบกระป๋องส่งออกหมดปีละกว่า 1,500 ล้านกระป๋อง ซึ่งถ้ารวมทั้ง 3 โรงงานจะมีมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 8,700 ล้านบาท ไม่รวมที่ดิน ซึ่งยังเหลือพื้นที่อีกหลายสิบไร่ที่จะต่อยอดการลงทุนใหม่ๆ ได้อีก เช่น โรงผสมเฟเวอร์ เป็นต้น ศูนย์กลางการผลิตแห่งนี้รองรับกำลังการผลิตได้อีก 2 ปี”

การมีโรงงานผลิตกระป๋องอะลูมิเนียมของคาราบาวเอ จะลดการพึ่งพิงกระป๋องอะลูมิเนียมที่จัดหาจากบุคคลภายนอก และสนับสนุนการเติบโตของเครื่องดื่มบำรุงกำลังภายใต้เครื่องหมายการค้าคาราบาวในต่างประเทศ ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไรระยะยาว และหากมีกำลังการผลิตส่วนเกินจำหน่ายให้แก่ลูกค้ารายอื่นตามคำสั่งซื้อ

นายกฤษณ์พงษ์ นิลวงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท คาราบาวตะวันแดง จำกัด กล่าวต่อว่า แผนการตลาดปีนี้จะเน้นปรับภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น จากเทรนด์โลกที่พบว่าโลกกำลังขับเคลื่อนด้วยคนหนุ่มสาว ซึ่งกลุ่มนี้นิยมหันมาดื่มเอนเนอร์ยีดริงก์มากขึ้น ครึ่งปีหลังปี 2561 ใช้งบการตลาดกว่า 100 ล้านบาทจัดกิจกรรส่งเสริมการขายและโปรโมชันมากขึ้นในรายพื้นที่ รวมถึงทำการตลาดในช่องทางออนไลน์มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่อายุต่ำกว่า 40 ปีลงมาพบว่ามีอัตราการดื่มเครื่องดื่มชูกำลังเพิ่มขึ้น 102%

รวมทั้งแผนขยายช่องทางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ คาราบาว แคน (กรีนแอปเปิล) ที่วางจำหน่ายเฉพาะในเซเว่นอีเลฟเว่น 3 เดือน จะครบกำหนดในเดือน ก.ย นี้ มีแผนที่จะขยายเวลาจำหน่ายเพิ่ม รวมถึงเพิ่มช่องทางจำหน่ายใหม่ๆ ทั้งโมเดิร์นเทรด และเทรดิชันนัลเทรด และปีหน้าจะเพิ่มรสชาติใหม่อีก 1-2 รสชาติ

ปัจจุบันพบว่าตลาดชูกำลังในรูปแบบกระป๋องมีมูลค่า 1,000 ล้านบาท อันดับหนึ่งคือ เรดบูลเอ็กซ์ตร้า คาราบาวแดงเป็นอันดับสอง และอันดับสามคือ ชาร์ค

ภาพรวมตลาดเครื่องดื่มชูกำลังครึ่งปีแรกตกลงเล็กน้อย ส่วนคาราบาวแดงมั่นใจว่าจะมีรายได้ตามที่วางไว้ ในไตรมาสสอง ผลประกอบการทำได้กว่า 7,047 ล้านบาท กำไร 390 ล้านบาท โต 47%


กำลังโหลดความคิดเห็น