“ไพรินทร์” ตรวจท่าเรือระนองเตรียมพร้อมรับ “นายกฯ” 20 ส.ค.นี้ลงพื้นที่ประชุม ครม.สัญจร ดันแผนสร้างรถไฟเชื่อม “ชุมพร-ระนอง” หนุนการขนส่งท่าเรือระนอง ศูนย์การขนส่งเชื่อมการค้าทางฝั่งทะเลอันดามันกลุ่ม BIMSTEC
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการดำเนินงานท่าเรือระนอง (ทรน.) ว่า ท่าเรือระนองเป็นท่าเรือที่มีศักยภาพ มีขีดความสามารถในการเป็นศูนย์กลางขนถ่ายสินค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม BIMSTEC ได้แก่ บังกลาเทศ อินเดีย พม่า และศรีลังกา ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจในพื้นที่ให้ดีขึ้นและสามารถขนถ่ายสินค้าได้สะดวก นอกจากนี้ การพัฒนา ทรน.ให้มีศักยภาพอย่างเต็มขีดความสามารถจะต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านคมนาคมต่างๆ ให้สามารถเชื่อมต่อกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบรางมายังฝั่งอันดามันจะต้องคำนึงถึงความสำคัญทางด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะต้องส่งผลกระทบให้น้อยที่สุด
รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัญจร จ.ระนอง และชุมพร วันที่ 20-21 ส.ค.นี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปตรวจเยี่ยมท่าเรือระนองในวันที่ 20 ส.ค. ซึ่งท่าเรือระนองถือว่าเป็นท่าเรือที่เชื่อมโยงเส้นทางการค้าทางฝั่งทะเลอันดามัน กลุ่ม BIMSTEC แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จเนื่องจากมีอุปสรรคในด้านโครงสร้างพื้นฐานเข้าสู่ท่าเรือ โดยปัจจุบันกรมทางหลวงอยู่ระหว่างก่อสร้างเป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ (4 ช่องจราจร) ถนนจาก ทล.4 สาย แยกปฐมพร จังหวัดชุมพร เพื่อให้การขนส่งเข้าสู่ท่าเรือสะดวกมากขึ้น นอกจากนี้ จะต้องมีการพัฒนารถไฟเส้นทางรถไฟชุมพร-ทะเลน้ำลึกระนอง ระยะทาง 108 กม. วงเงินลงทุน 45,300 ล้านบาท โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เป็นผู้ศึกษา คาดว่ารัฐบาลจะพิจารณาการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนท่าเรือระนองต่อไป
ปัจจุบันท่าเรือระนองมีท่าเทียบเรืออเนกประสงค์ รองรับสินค้าทั่วไป เรือขนาด 500 ตันกรอส ท่าเทียบเรือตู้สินค้า รองรับ 12,000 เดทเวทตัน โรงพักสินค้าร้านวางสินค้าทั่วไป เครื่องชั่งน้ำหนักรถบรรทุก เป็นต้น โดยส่วนใหญ่เป็นสินค้าขาออก ส่วนสินค้าขาเข้ามีน้อย สำหรับผลการดำเนินงานของ ทรน. ระหว่างเดือนตุลาคม 2560-มิถุนายน 2561 มีเรือผ่านท่าจำนวน 233 เที่ยว มีสินค้าผ่านท่าจำนวน 65,753 เมตริกตัน มีตู้สินค้าผ่านท่าจำนวน 765 ทีอียู และมียานพาหนะผ่านท่าจำนวน 8,132 คัน