บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) (CENTEL) มีรายได้รวม 5,191.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.2% เทียบปีก่อน จากผลการดำเนินงานของทั้งธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหาร มีกำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) จำนวน 924.2 ล้านบาท เติบโต 3.9% เทียบปีก่อน อย่างไรก็ดี บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 371.7 ล้านบาท ลดลง 26.6 ล้านบาท หรือ 6.7% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากรายการปรับปรุงภาษีเงินได้ทางบัญชีซึ่งส่งผลให้ภาษีเงินได้ในไตรมาส 2 ปี 2560 ลดลงจำนวน 28.8 ล้านบาท โดยหากไม่นับรวมรายการปรับปรุงภาษีเงินได้ที่เกิดขึ้นครั้งเดียวในไตรมาส 2 ปี 2560 ดังกล่าว บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีก่อนเล็กน้อย
ธุรกิจโรงแรมรายได้รวม 2,139.5 ล้านบาท เติบโต 5.6% เทียบปีที่ผ่านมา จากการเติบโตของกลุ่มโรงแรมเดิม รวมถึงการรับรู้รายได้ของโรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และโรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง บีช ที่เปิดดำเนินการในปลายปี 2560 โดยมี EBITDAจำนวน 528.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% เทียบปีก่อน
ธุรกิจอาหารรายได้รวม 3,051.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.1% เทียบปีก่อน เป็นผลจากการขยายสาขาจำนวนสุทธิ 84 สาขา หรือเติบโต 10.2% เทียบปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ อัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) เพิ่มขึ้น 10.0% ในขณะที่อัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSS) ทรงตัวเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ดี แบรนด์หลัก 3 แบรนด์ ได้แก่ มิสเตอร์โดนัท โอโตยะ และอานตี้แอนส์ มีอัตราการเติบโตจากสาขาเดิมเป็นบวกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี ขณะแบรนด์ เค เอฟ ซี ส่งสัญญาณการฟื้นตัวในเดือนมิถุนายน สืบเนื่องจากกิจกรรมส่งเสริมการขาย และการออกผลิตภัณฑ์ใหม่อย่างต่อเนื่อง สิ้นไตรมาส 2 ปี 2561 ธุรกิจอาหารมี EBITDA รวมจำนวน 396.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% เทียบปีก่อน
สำหรับ 6 เดือน ปี 2561 บริษัทฯ มีรายได้รวม 10,932.4 ล้านบาท เติบโต 7.8% เทียบปีก่อน กำไรก่อนค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย ดอกเบี้ยจ่าย และภาษีเงินได้ (EBITDA) รวม 2,511.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.5 ล้านบาท เติบโต 5.6% เทียบปีก่อน จากการเติบโตของธุรกิจโรงแรมเป็นสำคัญ กำไรสุทธิจำนวน 1,254.8 ล้านบาท หรือเติบโต 6.2% เทียบปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ หากไม่รวมผลของรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ได้แก่ รายได้จากประกันน้ำท่วมโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์บีชรีสอร์ทภูเก็ตจำนวน 35.9ล้านบาทในไตรมาส 1 ปี 2560 และรายการปรับปรุงภาษีเงินได้สำหรับ 6 เดือน ปี 2560 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานสำหรับ 6 เดือน 2561 เติบโต 10.1% เทียบปีก่อน
บริษัทฯ ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานทั้งธุรกิจโรงแรม และธุรกิจอาหารยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2561 อย่างไรก็ดี เนื่องจากผลการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมที่อ่อนตัวกว่าที่คาดในไตรมาส 2/2561 จึงปรับประมาณการการเติบโตของRevPar ของกลุ่มโรงแรมเดิมลงเล็กน้อยอยู่ที่ 2-3% เทียบปีก่อน ทั้งนี้ รายได้จากโรงแรมใหม่ 2 โรงแรม คือ โรงแรมเซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ และโรงแรมโคซี่ สมุย เฉวง บีช จะช่วยสร้างรายได้ธุรกิจโรงแรมเพิ่มขึ้นอีก 3-4% จากรายได้ของกลุ่มโรงแรมเดิม
สำหรับธุรกิจอาหาร เนื่องจากผลการดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกอัตราการเติบโตจากสาขาเดิม (SSS) อ่อนตัวกว่าที่คาด จึงปรับประมาณการ SSS ลดลงเล็กน้อยเติบโตในช่วง 1-2% อย่างไรก็ดี แบรนด์เค เอฟ ซี ซึ่งเป็นแบรนด์หลักส่งสัญญาณการฟื้นตัวในเดือน มิถุนายน และผลการดำเนินงานของ 3 แบรนด์หลัก ได้แก่ มิสเตอร์โดนัท โอโตยะ และอานตี้แอนส์ มีการปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา รวมถึงการขยายสาขาที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 9% เทียบปีก่อน จึงปรับประมาณการอัตราการเติบโตของยอดขายรวมทุกสาขา (TSS) เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 8-9% เทียบปีก่อน
ข้อมูลบริษัท ณ ปัจจุบัน
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 CENTEL มีโรงแรมภายใต้การบริหารทั้งสิ้นจำนวน 60 โรงแรม (12,216 ห้อง) โดยเป็นโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 38 โรงแรม (7,293 ห้อง) และเป็นโรงแรมที่กำลังพัฒนา 22 โรงแรม (4,923 ห้อง) ในส่วน 38 โรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้วนั้น 17 โรงแรม (4,179 ห้อง) เป็นโรงแรมที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ และ 21 โรงแรม (3,114 ห้อง) เป็นโรงแรมที่อยู่ภายใต้สัญญาบริหาร สำหรับธุรกิจอาหาร CENTEL มีจำนวนร้านอาหารที่เปิดดำเนินการรวม 908 สาขา ดังนี้ 1. เคเอฟซี (247) 2. มิสเตอร์โดนัท (338) 3. โอโตยะ (43) 4. อานตี้แอนส์ (151) 5. เปบเปอร์ลันช์ (35) 6. ชาบูตง ราเมน (18) 7. โคลด์สโตน ครีมเมอรี่ (19) 8. โยชิโนยะ (18) 9. เดอะ เทอเรส (9) 10. เทนยะ (7) 11. คัตสึยะ (23)