NCH รุกขยายฐานธุรกิจให้บริการบำรุงรักษาในประเทศไทย เจาะกลุ่มอุตสาหกรรม-บริการป้อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่อีอีซี เดินเครื่องขยายโรงงานเพิ่ม พัฒนาผลิตภัณฑ์บำรุงรักษา รับการขยายตัวของการลงทุนทั้งจากกลุ่มอุตสาหกรรมเก่า-อุตสาหกรรมใหม่ มั่นใจเติบโตต่อเนื่อง คาดรายได้โต 25% ในปี 2562
นายร้อด เอเรลยาโน ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศ บริษัท เอ็นซีเอช (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NCH (THAILAND) CO., LTD. ผู้นำการให้บริการด้านผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อการบำรุงรักษาเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรมแบบครบวงจร จากสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า จากความเชี่ยวชาญด้านการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 40 ปี บริษัทเตรียมแผนรุกตลาดโซลูชันเพื่อการบำรุงรักษาในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าที่จะขยายฐานลูกค้าใหม่ในพื้นที่อีอีซีเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่มีอยู่ 70% และจะมีการให้บริการกลุ่มอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นในปี 2561 เป็น 85% และคาดว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า จะเติบโตเพิ่มขึ้นเป็น 100% จากการขยายตัวของอุตสาหกรรมและบริการใน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลในด้านการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี ใน 3 จังหวัด ประกอบด้วย ระยอง-ชลบุรี-ฉะเชิงเทรา
“ศักยภาพการลงทุนของประเทศไทยในขณะนี้ เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในอาเซียน นับว่ามีความพร้อมด้วยยุทธศาสตร์การเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาค จากนโยบายด้านการส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาระบบการขนส่งและลอจิสติกส์ที่ทันสมัยในพื้นที่อีอีซี ซึ่งบริษัทได้ติดตามนโยบายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องตลอดระยะ 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้เห็นโอกาสการขยายธุรกิจที่จะส่งผลให้บริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น ดังนั้นบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนบุคลากรทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและระดับปฏิบัติการ เพื่อรองรับการเติบโตของโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซีต่อไป”
นายร้อดกล่าวว่า การให้บริการของบริษัทนับว่าเป็นส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศไทยที่สามารถช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทั้งในด้านประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนการผลิตของอุตสาหกรรมและบริการ ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมให้กับสถานประกอบการต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ด้วยการบริการของหน่วยธุรกิจและผลิตภัณฑ์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่
กลุ่มการบำรุงรักษา กลุ่มผลิตภัณฑ์หล่อลื่น กลุ่มดูแลระบบน้ำครบวงจร กลุ่มวิทยาศาสตร์ชีวภาพ กลุ่มความปลอดภัยของกระบวนการผลิตอาหาร และกลุ่มบำบัดน้ำเสีย ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การดูแลรักษาระบบความร้อน ระบบความเย็นและการระบายอากาศ (HVAC) ผลิตภัณฑ์หล่อลื่น การทำความสะอาดภายในโรงงานอุตสาหกรรม และชิ้นส่วนอะไหล่จนถึงการปรับปรุงคุณภาพน้ำ และการบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม บริษัทได้มีการลงทุนขยายโรงงานเพิ่มเติมเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมาเพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงงานที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยระดับโลก และเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียนของกลุ่ม NCH เพื่อรองรับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี ทั้งจากอุตสาหกรรมเก่าและอุตสาหกรรมใหม่ที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรมการให้บริการในธุรกิจการท่องเที่ยว และนโยบายการส่งเสริมทางการแพทย์ของประเทศไทย ทำให้บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 2562 เติบโตที่ 25% หรือเพิ่มขึ้นเป็น 200 ล้านบาท