ร.ฟ.ท.เตรียมจ้างที่ปรึกษาศึกษาออกแบบรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ต่อขยายจากอู่ตะเภา-ระยอง-ตราด โดยเร่งเฟสแรกถึงระยอง เพื่อเจรจากับผู้ได้งาน 3 สนามบินรับก่อสร้างต่อเนื่อง
นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ รฟม.เตรียมจัดจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อให้ทำการศึกษาโครงการรถไฟความเร็วสูง เพื่อต่อขยายจากช่วงอู่ตะเภา-ระยอง-จันทบุรี และตราด โดยจะเร่งให้สรุปรายละเอียด การศึกษา และการออกแบบรายละเอียดในช่วงอู่ตะเภา-ระยองก่อน ทั้งนี้เพื่อนำไปเจรจากับเอกชนที่ชนะการประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน “ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา” เพื่อให้การดำเนินการมีความต่อเนื่องได้
ทั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้านี้รถไฟความเร็วสูงสายตะวันออก มีเส้นทางจากกรุงเทพฯ-ระยอง แต่เนื่องจากช่วงจากสนามบินอู่ตะเภา-ระยอง ซึ่งแนวเส้นทางจะผ่านช่วงนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดยังไม่ผ่านการพิจารณาด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งอาจจะทำให้กระทบต่อการดำเนินโครงการในส่วนของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินล่าช้า จึงกำหนดจุดสิ้นสุดไว้ที่สนามบินอู่ตะเภาก่อน
นายสุชีพ สุขสว่าง วิศวกรใหญ่ฝ่ายโครงการพิเศษและก่อสร้าง ร.ฟ.ท.กล่าวว่า อยู่ระหว่างจัดทำทีโออาร์เพื่อคัดเลือกที่ปรึกษา การศึกษา ออกแบบรายละเอียดตามหลักจะใช้เวลาประมาณ 12 เดือน โดยจะเร่งรัดในช่วงอู่ตะเภา-ระยองก่อน เพื่อนำไปเจรจากับผู้บริหารรถไฟความเร็งสูงเชื่อม 3 สนามบินเพื่อให้ลงทุน แต่หากเอกชนไม่รับรัฐอาจต้องลงทุนส่วนนี้เอง และให้เอกชนเช่าใช้รางในการเดินรถไปถึงจังหวัดระยอง อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเอกชนจะลงทุนส่วนนี้ต่อไปถึงระยองเพราะจะทำให้เป็นเส้นทางที่สมบูรณ์
รายงานข่าวแจ้งว่า โครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วง กรุงเทพ-ระยอง ตามการศึกษาเดิม มี ระยะทาง 193.5กม. วงเงินลงทุนประมาณ 152,528 ล้านบาท โดยหลังจากปรับแผนโครงการเป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปรับการก่อสร้างเป็นช่วงกรุงเทพ-สนามบินอู่ตะเภา ระยะทางประมาณ 160 กม. โดยการศึกษาจะมีการปรับแนวเส้นทางใหม่ ในบางช่วง เพื่อเลี่ยงพื้นที่ในนิคมมาบตาพุดซึ่งเป็นเขตควบคุมสิ่งแวดล้อม ที่อาจจะมีปัญหาด้าน EIA