ผู้จัดการรายวัน 360 - “มัลลิการ์” เปิดแผนรุกตลาดอาหาร แตกแบรนด์ใหม่-ขายแฟรนไชส์เย็นตาโฟเครื่องทรงไปต่างประเทศ สร้างการเติบโตให้องค์กร ดันรายได้ให้เติบโตตามแผน 20%
นายชยพล หลีระพันธ์ กรรมการบริหารและผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจองค์กร บริษัท มัลลิการ์ อินเตอร์ฟู๊ด จำกัด ผู้บริหารร้านอาหารในเครือมัลลิการ์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนในการขยายธุรกิจทั้งการเปิดแบรนด์ใหม่เพื่อสร้างความหลากหลาย การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศในรูปแบบการขายแฟรนไชส์มากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างองค์กรให้เติบโต และลดความเสี่ยงจากการที่มีแบรนด์น้อยและทำตลาดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น
“ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไม่ค่อยดี โดยเฉพาะในภาคอีสาน ซึ่งประชาชนผู้บริโภคที่ได้รับผลกระทบมาจากนโยบายการรับจำนำข้าว ทำให้กำลังซื้อหายไปมาก ยอดขายในภาคอีสานหายไปมาก สาขาของบริษัทฯ โดยเฉพาะร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงที่เปิดในภาคอีสานต้องปิดสาขาไปบ้าง เช่น สาขาที่บุรีรัมย์ปิดไปแล้ว สาขาที่อยุธยาปิดไปแล้ว ส่วนที่อุดรธานีมี 2 สาขายอดขายก็ตกลง ส่วนที่บุรีรัมย์ถ้าช่วงไหนมีการแข่งขันฟุตบอลลูกค้าก็เยอะ ที่โคราชก็มี 2 สาขายอดขายก็ตกลงบ้าง แต่ก็เป็นไปตามสภาพเศรษฐกิจโดยรวม”
ทั้งนี้ บริษัทฯ วางเป้าหมายการเติบโตด้านรายได้เฉลี่ยไว้ที่ 15-20% ทุกปี แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเติบโตน้อยกว่าเป้าหมายบ้าง โดยปีที่แล้ว (2560) ทำได้ 80% ของเป้าหมาย ส่วนครึ่งปีแรกปีนี้ (2561) ยังต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม จากนี้บริษัทฯ มองว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มจะดีขึ้นแล้ว กำลังซื้อเริ่มกลับมาแล้ว อีกทั้งการท่องเที่ยวก็เติบโตดี
บริษัทฯ วางแผนขยายแบรนด์ใหม่ต่อเนื่องด้วยการพัฒนาแบรนด์เอง รวมทั้งการปรับภาพลักษณ์แบรนด์เก่าที่เปิดไปแล้วด้วย ขณะเดียวกัน จะเปิดการขายแฟรนไชส์ไปต่างประเทศมากขึ้น ตั้งเป้าหมายเปิดสัดส่วนรายได้จากแฟรนไชส์จากต่างประเทศไว้ที่ 20-30% ภายใน 5 ปีจากนี้ ซึ่งปีนี้จะใช้งบลงทุนรวมประมาณ 20-30 ล้านบาท ทั้งการเปิดสาขาและการปรับปรุง
ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมเปิดแบรนด์ใหม่คือร้านของชอบ เป็นร้านขายของฝากของมัลลิการ์ทั้งหมด จะเปิดสาขาแรกที่มอเตอร์เวย์ขาเข้าในเดือนหน้า และอยู่ระหว่างการเจรจากับทางเดอะมอลล์ที่จะเปิดอีก 3 สาขา, ส่วนแบรนด์ที่เป็นเรือธงทำรายได้หลักกว่า 70% คือ เย็นตาโฟเครื่องทรง ปีนี้จะเปิดเอง 2 สาขา และแฟรนไชส์เปิดอีก 3 สาขา จากปัจจุบันมีเปิดแล้วรวม 35 สาขา ซึ่งในต่างประเทศกลุ่มไมเนอร์ฯ ที่ได้รับสิทธิ์เปิดแฟรนไชส์ร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงที่สิงคโปร์นาน 3 ปี ผ่านไปแล้ว 2 ปี แต่ขณะนี้ได้ปิดร้านไปแล้ว 3 สาขาเป็นการชั่วคราวเนื่องจากต้นทุนสูง แต่อยู่ระหว่างการหาทำเลใหม่เพื่อเปิดร้านต่อ ซึ่งที่ผ่านมาก็ขายดี
ส่วนแบรนด์ปังยิ้ม มี 1 สาขา ที่เกษตร-นวมินทร์ได้ปรับกลยุทธ์เป็นการทำตลาดแคเทอริ่งเป็นหลัก, แบรนด์คุ้มกะตังก์ มี 1 สาขาที่ปั๊ม ปตท.แจ้งวัฒนะ อยู่ระหว่างการปรับรูปแบบการลงทุนให้ต่ำลงเพื่อให้จูงใจต่อผู้ซื้อแฟรนไชส์ซึ่งจะเน้นเปิดในปั๊ม ปตท.เป็นหลัก, ส่วนร้านปาป้าปอนด์ มี 2 สาขา ที่เอสพลานาด แคราย กับเกษตรนวมินทร์ ไม่ได้ขยายมากนัก
นอกจากนั้น แบรนด์อาจารย์มัลลิการ์มี 2 สาขา ที่เกษตร-นวมินทร์ กับ ลาว กำลังปรับเพื่อให้ได้ดาวมิชลินในปีหน้า โดยมีกลุ่มทุนจากสิงคโปร์กับเวียดนามสนใจที่จะซื้อแฟรนไชส์ไปเปิดบริการ ส่วนร้านเรือนมัลลิการ์ มี 2 สาขา ที่สุขุมวิท 22 กับซีดีซี
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จัดแคมเปญใหญ่ฉลองครบรอบ 20 ปีของแบรนด์ร้านเย็นตาโฟเครื่องทรงในเดือนสิงหาคมนี้ “20 ปีเย็นตาโฟเครื่องทรง อร่อยสุดฟิน ลุ้นกินฟรีตลอดปี” โดยมอบความสุขให้ผู้บริโภค 3 ชั้น จากเซตเมนูอาหารชุดอิ่มสุดฟิน มี 4 เมนูยอดฮิต คือ เย็นตาโฟเครื่องทรง เกี๊ยวกุ้งกรอบ ไอติมมะม่วง น้ำเก๊กฮวย
โดยสุขชั้นที่ 1 มอบส่วนลดจากเซตอิ่มสุดฟิน 20% จากราคาปกติ 275 บาท เหลือ 220 บาท สุขชั้นที่ 2 รับสิทธิ์ในการลุ้นโชครับประทานเย็นตาโฟฟรี สูงสุด 365 ชาม หรือ 180 ชาม 90 ชาม และ 30 ชาม รวมทั้งสิ้น 33 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 150,000 บาท และสุขชั้นที่ 3 ได้ร่วมบริจาคเงินจากเซตอิ่มฟินทุกเซต เซตละ 20 บาท เพื่อนำไปเป็นทุนสำหรับซื้อเตียงให้เคมีบำบัดสำหรับเด็ก จำนวน 8 เตียง มูลค่ารวม 560,000 บาท มอบแก่กองทุนอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษามหาราชินี มูลนิธิโรงพยายาลเด็ก สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี