xs
xsm
sm
md
lg

“อินเด็กซ์” โหมจัดอีเวนต์กลุ่ม CLMV ตลาดรวมไทยฟื้นลุ้นโตสุดรอบ 10 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ผู้จัดการรายวัน  360 - “อินเด็กซ์” โหมหนักบุกตลาดต่างประเทศ ปูพรมอีเวนต์ที่จัดเองเพิ่มเกือบเท่าตัวในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ขณะที่ตลาดอีเวนต์ในไทยปีนี้เริ่มพลิกฟื้นดีขึ้น คาดทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 10-15% มากที่สุดในรอบ 10 ปี เหตุกำลังซื้อเริ่มฟื้น นโยบายรัฐมีต่อเนื่อง สินค้าเริ่มออกมาจัดอีเวนต์กระตุ้นยอดขาย เผยอีเวนต์นิชมาร์เก็ตบูม

นายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ผู้ดำเนินธุรกิจอีเวนต์รายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนที่จะขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้นจากเดิมโดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน หรือกลุ่มซีแอลเอ็มวี (CLMV) เป็นหลัก เพื่อเป็นการสร้างการเติบโตในแง่รายได้และผลงานรงมทั้งการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่องค์กรต่อเนื่อง

โดยธุรกิจที่บริษัทฯ มองไว้ คือ การเป็นผู้จัดงานแฟร์ต่างๆ เช่น ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ (พม่า) มีแผนที่จะเพิ่มการจัดงานเองอีก จากเดิมจัดเพียง 2 งาน มีแผนจะเพิ่มเป็น 4 งาน หรือในประเทศกัมพูชาก็มีแผนที่จะเพิ่มการจัดงานเองจาก 1 งาน เป็น 2-3 งานเช่นกัน จากการขยายงานดังกล่าวนี้เองส่งผลให้บริษัทจะมีจำนวนการจัดงานอีเวนต์ของตัวเองเพิ่มขึ้นจาก 10 งานเป็น 20 งาน หรือเท่าตัว

นายเกรียงไกรกล่าวอีกว่า งานอีเวนต์ที่เป็นของบริษัทฯ ดูแลและมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น คือ การจัดงานวิ่ง กิโลรัน หลังจากที่ได้มีการจัดงานผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง ที่กรุงเทพฯ และบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย พบว่าได้รับการยอมรับดีมากทำให้บริษัทมีแผนที่จะขยายการจัดงานดังกล่าวเพิ่มขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ในเมืองโอซากา ส่วนปี 2562 ยังมีแผนที่จะขยายงานดังกล่าวใน 10 เมือง ประกอบด้วย ประเทศไทย 3 เมือง คือ กรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 2 แห่ง, ประเทศญี่ปุ่น 3 เมือง,ไต้หวัน, เกาหลี, ฮ่องกง และสิงคโปร์

อย่างไรก็ตาม นอกจากการขยายธุรกิจในต่างประเทศแล้ว ในส่วนของตลาดประเทศไทยของเรานั้น อินเด็กซ์ยังเน้นเดินหน้าขยายธุรกิจต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะในปีนี้ (2561) ที่บริษัทฯ ประเมินว่าตลาดรวมอีเวนต์จะพลิกฟื้นกลับมาเติบโตได้อีกไม่ต่ำกว่า 10-15% ด้วยมูลค่าตลาดรวมอีเวนต์กว่า 14,000 ล้านบาท ซึ่งอาจจะเป็นอัตราการเติบโตที่สูงที่สุดในรอบ 10 ปีก็ว่าได้

เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ส่งผลดีต่อภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคดีขึ้นเช่นกัน นอกจากนั้น แผนการลงทุนของภาครัฐที่รวดเร็วและสามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ตามแนวทางของงานที่วางไว้ ตลอดจนนโยบายที่ออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับล่างก็มีความชัดเจนและคืบหน้ามากขึ้น เช่น บัตรคนจน จากสิ่งต่างๆเหล่านี้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของภาคเอกชน จึงทำให้เจ้าของธุรกิจสินค้าต่างๆ มีความเคลื่อนไหวในการทำตลาด เริ่มมีการเปิดตัวสินค้าใหม่ๆต่างๆ เริ่มออกมาเปิดตัวสินค้าใหม่และจัดงานอีเวนต์ขนาดกลางและขนาดเล็ก เพื่อกระตุ้นยอดขายมากขึ้น

ส่วนรูปแบบของการจัดอีเวนต์ที่ได้รับความนิยมในตลาดขณะนี้ คือ การจัดงานแบบนิชมาร์เกต (Niche Market) หรืออีเวนต์ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายโดยเฉพาะ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคปัจจุบันนี้เปลี่ยนแปลงไป ทำให้เจ้าของสินค้าต้องมีการปรับกลยุทธ์การตลาดเพื่อให้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าไปทำตลาดโดยเฉพาะมากขึ้น และอีเวนต์ที่ได้รับความสนใจมาก คือ อีเวนต์งานวิ่ง คอนเสิร์ต และการจัดงานแฟร์ เป็นต้น

“เราเริ่มเห็นสัญญานของเทรนด์การจัดนิชอีเวนต์มาประมาณ 2-3 ปีแล้ว เนื่องจากการจัดงานอีเวนต์เฉพาะกลุ่มสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า ซึ่งแนวโน้มที่เป็นอยู่นี้ทำให้การจัดอีเวนต์ขนาดใหญ่ในขณะนี้เริ่มมีน้อยลง เพราะใช้งบลงทุนสูง”


กำลังโหลดความคิดเห็น