สำนักงานเจ้าท่า ภูเก็ต ประสานคลังน้ำมันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต เตรียมทุ่นกักน้ำมันและสารลดแรงตึงผิวสำหรับขจัดคราบน้ำมันแล้ว ป้องกันคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลจากเรือฟีนิกซ์ กระทบต่อแนวปะการังและพื้นที่คุ้มครองและอนุรักษ์บริเวณใกล้เคียง พร้อมระดมเรือ 17 ลำ อากาศยาน 6 ลำ และนักประดาน้ำ 70 คน ค้นหาและกู้ภัย
สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ตได้ประสานคลังน้ำมันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต ขอความร่วมมือสนับสนุนในการเตรียมทุ่นกักน้ำมันและสารลดแรงตึงผิวสำหรับขจัดคราบน้ำมัน เพื่อป้องกันกรณีเกิดคราบน้ำมันที่อาจรั่วไหลจากเรือฟีนิกซ์
พร้อมทั้งได้ประสานกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเพื่อดูผลกระทบต่อแนวปะการังและพื้นที่คุ้มครองและอนุรักษ์บริเวณใกล้เคียง ทั้งนี้ ทันทีที่เรือทั้งสองลำถูกกู้ขึ้นสู่ผิวน้ำ กรมเจ้าท่าเตรียมส่งทีมตรวจสอบเข้าทำการตรวจสอบตัวเรือเพื่อเก็บข้อมูลหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริง ทั้งนี้ กรมเจ้าท่าได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเพื่อสอบสวนการปฏิบัติงานขณะเกิดเหตุของเรือที่เกิดเหตุ และนำมาประกอบการหามาตรการในการป้องกันและแก้ไขไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะเดียวกันต่อไป ทั้งนี้ การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้มีการบูรณการหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม 26 หน่วยงาน และผู้ปฏิบัติงานมากกว่า 800 คน
สำหรับการนำร่างผู้ประสบภัยออกจากเรือฟีนิกซ์อยู่ระหว่างการหารือร่วมกันระหว่างสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาภูเก็ต เจ้าของเรือ และประกันภัย เพื่อพิจารณาข้อเสนอในการเจาะตัวเรือ เนื่องจากอาจมีผลกระทบต่อการวิเคราะห์หาสาเหตุการจมและผลต่อการดำเนินคดีและการชดเชยค่าสินไหมทดแทนสำหรับการกู้เรือเซเลนาตา ได้ข้อสรุปใช้วิธีการลากเรือมายังบริเวณเกาะตะเภาและเกยหาดไว้ก่อน เพราะเรือยังมีกำลังลอยและสภาพอากาศเหมาะสมสามารถดำเนินการได้
ด้านความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายสถานการณ์เรือฟีนิกซ์ล่ม กรมเจ้าท่า จังหวัดภูเก็ต ได้รายงานเมื่อเวลา 12.00 น. ดังนี้
เรือฟีนิกซ์ที่ประสบเหตุจมอยู่ทางด้านใต้ ห่างจากเกาะเฮ ทีมสำรวจและค้นหายังอยู่ในระหว่างภารกิจการค้นหาและกู้ภัยผู้สูญหายทั้ง 23 ราย ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจังหวัดภูเก็ตมีแผนการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยผู้สูญหายโดยการบูรณาการร่วมกันระหว่างภาครัฐกับเอกชน การค้นหาและกู้ภัยใช้เรือจำนวน 17 ลำ อากาศยาน 6 ลำ และนักประดาน้ำ 70 คน ซึ่งได้เตรียมความพร้อมรถพยาบาลฉุกเฉินและรถเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตบริเวณอ่าวฉลอง และฐานทัพเรือภาคที่ 3 แหลมพันวา
สำหรับผู้บาดเจ็บที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อย จำนวน 14 ราย และได้มอบหมายให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตดูแลแผนการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตทั้ง 33 ราย