xs
xsm
sm
md
lg

“นารายา”ทุ่ม2พันล.รุกหนักรอบ29ปี ลุยออนไลน์-ตปท.-ปั้น6แบรนด์ใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

จอร์จ ฮาร์เทล , วาสนา และ พศิน  รุ่งแสนทอง ลาทูรัส (นารายา)
ผู้จัดการรายวัน360 – “นารายา” เคลื่อนพลบุกหนักรอบ 29 ปี ทุ่มงบลงทุนสูงสุด 2 ปี 2,000 ล้านบาท ผุดคลังสินค้าใหม่ ปีนี้ขยาย 13 สาขา พร้อมเปิดแพลทฟอร์มอี-คอมเมิร์ซ ทั้งในไทยและจีน ตั้งฝ่ายตลาดเป็นครั้งแรกรุกหนัก ปั้นแบรด์ใหม่อีก 4 ซุ่มเปิดตัวอีก 2 แบรนด์ใหม่ปลายปี ตั้งเป้าปีนี้รายได้โต 10%

นางวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายณ์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แบรนด์นารายา เปิดเผยว่า ในช่วง2ปีนี้(2560-2561) ถือเป็นปีที่มีการลงทุนและขยายตัวมากที่สุดของ แบรนด์นารายา ในรอบ29ปีที่ก่อตั้งธุรกิจมาก็ว่าได้ โดยลงทุนมากกว่า 2,000 ล้านบาท ในการขยายธุรกิจ ทั้งการขยายสาขา การขยายช่องทางจำหน่าย การเพิ่มศักยภาพทางการผลิต การสร้างคลังสินค้า การทำตลาด
วาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส (นารายา)
ปีนี้เป็นปีแรกอีกเช่นกันที่มีการจัดตั้งทีมฝ่ายการตลาดขึ้นมาดูแลทางดานการตลาดโดยเฉพาะ จากเดิมที่ผ่านมาไม่เคยมีฝ่ายตลาดและไม่เคยมีการทำตลาดเป็นรูปธรรมมาเลย โดยมี นายพศิน ลาทูรัส ซึ่งเป็นลูกชาย และนาย จอร์จ ฮาร์เทล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ เป็นผู้รับผิดชอบ

ทั้งนี้ปีที่แล้วลงทุนไปแล้ว 1,000 ล้านบาท ในการสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่ ที่ใกล้ออฟฟิศเดิม ด้วยการซื้อที่ดินกว่า 20 ไร่ เป็นคลังสินค้าที่ทันสมัยใช้เทคโนโลยี ในการจัดการ ซึ่งแล้วเสร็จเปิดใช้งานได้ในปีนี้
สินค้าของนารายา
ส่วนปี2561นี้ได้ลงทุนต่อเนื่องอีก 1,000 ล้านบาท รวมทั้งการเปิดตัวสินค้าแบรนด์ใหม่ถึง 4 แบรนด์ คือ 1. แบรนด์ นารา (NARA) ซึ่งทดลองทำตลาดมาประมาณ 3 ปีแล้ว ก่อนหน้านี้จำหน่ายได้เฉพาะที่สยามพารากอนแห่งเดียวเท่านั้น ขณะนี้เริ่มขยายช่องทางอื่นแล้ว เป็นแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้ชาย โดยเฉพาะ, 2.แบรนด์แอพโพรไดท์ ( phrodite ) เป็นกระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้หญิง ยกระดับมาจากแบรนด์นารายาเดิม มีความเป็นพรีเมียมกว่า , 3. แบรนด์ลาลามะ (LaLaMa) เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน ก่อนหน้านี้เปิดร้านแห่งแรกที่สยามสแควร์วันแล้ว 1 แห่ง และ 4.แบรนด์ อีแวนเจลิซ่า (Evangelisa) เป็นเสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผ้าไหมไทยร่วมสมัย

“ภายในเดือนตุลาคมนี้ บริษัทฯเตรียมเปิดตัวสินค้าใหม่อีก 2 แบรนด์ด้วย ส่งผลให้ถึงสิ้นปีนี้จะมีสินค้าแบรนด์ใหม่ที่เปิดตัวปีนี้ 6 แบรนด์และรวมแบรนด์คือ นารายา ด้วยจะเป็น 7 แบรนด์” นางวาสนา กล่าว
สินค้าอีก 4 แบรนด์ใหม่ของนารายา
ส่วนแผนการขยายช่องทางจำหน่ายปีนี้จะเปิดเพิ่มอีกประมาณ 13 สาขา ลงทุยเฉลี่ย 15-20 ล้านบาทต่อสาขาปรกติ ซึ่งต้นปีเปิดไปแล้ว เช่น บิ๊กซีราชดำริ เซ็นทรัลเวิลด์ และเตรียมเปิดที่จังซีลอน เร็วๆนี้ ปลายปีจะมีสาขาขนาดใหญ่อีกแห่งที่ไอคอนสยามด้วย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีสาขารวม 38 แห่ง จากปัจจุบันที่มีประมาณ 27 แห่ง ซึ่งล่าสุดที่เซ็นทรัลเวิลด์ ถือเป็นแฟลกชิบสโตร์แห่งใหม่ ลงทุนมากกว่า 50 ล้านบาท ไม่รวมค่าสินค้า พื้นที่ประมาณ 420 ตารางมเมตร ซึ่งถือว่าใหญ่มาก เปิดบริการแล้ว ซึ่งสาขานี้จะมีสินค้าแบรนด์ใหม่ที่จำหน่ายด้วย และเป็นร้านต้นแบบในการนำเทคโนโลยีเข้ามาบริการ คือ เมจิก มิเร่อร์ (Magic Mirror) แห่งแรกในไทย เป็นนวัตกรรมสร้างสรรค์ที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้านค้าปลีกกับเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน ส่วนสาขาใหม่ๆที่เริ่มเปิดจะมีแบรนด์ใหม่ขายเช่นกันแต่ขึ้นอยู่กับทำเลและความเหมาะสมกับแบรนด์ใดบ้าง

ส่วนทางด้านการผลิตสินค้านั้น ยังคงมีความสามารถในการผลิตรองรับได้อีกระยะหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ยังผลิตไม่เต็มกำลังการผลิต จากโรงงาน 4 แห่ง คือ ที่ขอนแก่น, โคราช และ บุรีรัมย์(2โรงงาน) รวมกำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 12 ล้านชิ้นต่อปี อีกทั้งยังมีพันธมิตรที่เป็นครอบครัวชาวบ้านอีกมากกว่า 2,000 ครอบครัว ซึ่งสินค้าของนารายาเป็นสินค้าแฮนด์เมด มีมากกว่า 10,000 เอสเคยู
พศิน รุ่งแสนทอง ลาทูรัส (นารายา)
นายพศิน ลาทูรัส ผู้ช่วยประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า นอกจากช่องทางขยายที่เป็นชอปนารายาแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯยังได้ขยายช่องทางออนไลน์และตลาดอี-คอมเมิร์ซเพิ่มด้วย ถือเป็นการปรับตัวเพื่อให้สอดคล้องกับไลฟ์สสไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมทั้งการเจาะตลาดต่างประเทศด้วย โดยในไทยได้ร่วมมือกับทาง ลาซาด้า ชอปปี้ และ เจดีดอทคอม ส่วนในต่างประเทศเช่น จีน ได้ร่วมมือกับทาง ยุนจี และ วีไอพีดอทคอม เป็นต้น
วาสนา และ พสิน รุ่งแสนทอง ลาทูรัส (นารายา)
ตลาดต่างประเทศปัจจุบัน บริษัทฯมีการขยายธุรกิจด้วยการเปิดชอปแล้ว 5 ประเทศ รวมเป็น 12 สาขา คือ ฮ่องกง ซึ่งเป็นของบริษัทฯลงทุนเอง ส่วนอีก 4 ประเทศ คือ มาเลเซีย กัมพูชา เวียดนาม ไต้หวัน เป็นระบบดิสทริบิวเตอร์คือ แต่ละพื้นที่มี 1 ราย กับโซลดิสทริบิวเตอร์ คือรายเดียวทำทั้งประเทศ ขณะเดียวกันมีแผนที่จะขยายตลาดไปยังภาคพื้นยุโรปเพิ่มขึ้นด้วย เช่น อาจจะร่วมมือกับทางอะเมซอนดอทคอม เป็นต้น
ปีนี้เราจะรุกทำการตลาดมากขึ้นอย่างจริงจัง ที่ผ่านมาไม่ค่อยได้เน้นทำตลาด มีแต่เน้นการผลิต การขยายสาขา การพัฒนาสินค้า เพราะสินค้าจำหน่ายได้ด้วยตัวเอง เป็นสินค้ามีคุณภาพ ราคาไม่สูงเกินไป
นางวาสนา กล่าวด้วยว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้เติบโตที่ 10% จากรายได้รวมปีที่แล้วประมาณ 1,700 ล้านบาท โดยเป็นลูกค้าคนไทย 20% และต่างชาติ 80% ในต่างชาตินี้ส่วนใหญ่เป็นจีนมากที่สุด นอกนั้นก็คือ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น ไทย เป็นต้น


กำลังโหลดความคิดเห็น