แบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยเชื่อมั่นศักยภาพ ‘ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ’ ระดมสร้างไฮไลต์รับการเปิดตัวไตรมาส 4 ปีนี้อย่างคึกคัก นำร่องด้วย 6 แบรนด์ดัง ‘บิ๊กซี-โฮมโปร-เดอะ พาวเวอร์ ไลฟ์-เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์-ฟันเฟสต้า-บิวเทรี่ยม’ ทุ่มงบแบบเบรกเรกคอร์ด หวังกวาดกำลังซื้อคุณภาพย่านบางซื่อสุดตัว
นายณภัทร เจริญกุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มรีเทล บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ กำหนดเปิดตัว ‘ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ’ ภายในไตรมาส 4 ของปีนี้ โดยโครงการดังกล่าวใช้งบการลงทุนกว่า 4,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นโครงการที่มีความพร้อมมากที่สุดโครงการหนึ่งของกลุ่มแอสเสท เวิรด์ รีเทล ทั้งด้านการออกแบบ การวางคอนเซ็ปต์ ตลอดจนได้รับความร่วมมือและกระแสตอบรับจากแบรนด์ยักษ์ใหญ่ที่มากประสบการณ์ในกลุ่มธุรกิจต่างๆ เช่น ค้าปลีก, โรงภาพยนตร์มาตรฐานระดับโลก, โมเดิร์นเทรดวัสดุและของตกแต่งบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี, สวนสนุกและสนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่รับไลฟ์สไตล์ยุค 4.0, แบรนด์แฟชั่นและร้านอาหารชั้นนำมากมาย ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดกำลังซื้อให้เข้ามาจับจ่ายและใช้บริการภายในศูนย์ฯ เพื่อผลักดันให้ ‘ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ’ กลายเป็นศูนย์กลางด้านความบันเทิงและการบริการอย่างครบวงจรในย่านบางซื่อและละแวกใกล้เคียงได้อย่างแน่นอน
“ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ ถูกพัฒนาขึ้นจากการหล่อหลอมประสบการณ์ด้านธุรกิจรีเทลของบริษัทฯ และเป็นศูนย์การค้าที่มีความพร้อมและครบวงจรมากที่สุดในด้านการบริการ ตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านคมนาคม ซึ่งเป็นจุดผ่านของรถไฟฟ้าสายสีม่วง และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ปัจจัยหลักที่เอื้อต่อการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการ โดยย่านดังกล่าวถือเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยที่มีความหนาแน่นของประชากรที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการใช้บริการอีกด้วย” นายณภัทร เจริญกุล กล่าว
ด้านนางวิภาดา ดวงรัตน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี กล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อศักยภาพของ ‘ศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ’ ว่า ความแข็งแกร่งของศูนย์การค้าเกตเวย์ แอท บางซื่อ คือความสะดวกด้านคมนาคม และการเป็นศูนย์กลางของแหล่งชุมชนที่มีการผสมผสานระหว่างกลุ่มชุมชนดั้งเดิมกับกลุ่มผู้ที่เข้ามาอาศัยใหม่จากการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งเสริมความมั่นใจในกำลังซื้อที่จะเกิดขึ้น โดยบิ๊กซีจะนำเสนอซูเปอร์มาร์เกตในแพลตฟอร์มใหม่ภายใต้ชื่อ “Big C Foodplace” ด้วยแนวคิด Your Food Destination เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย ทันสมัย และส่งเสริมด้านสุขภาพเป็นสำคัญ โดยจะชูจุดเด่นในเรื่องของการคัดสรรอาหารพร้อมรับประทานสดใหม่ (Ready meal) พร้อมทั้งวัตถุดิบที่ใช้ประกอบอาหารที่มีคุณภาพ คำนึงถึงความปลอดภัย มั่นใจถึงข้อมูลและแหล่งที่มาของสินค้า โดยใส่ใจในทุกรายละเอียด เช่น สินค้าวงจรคุณภาพ BQL (Big C Quality Line) และสินค้าออร์แกนิก (Organic Food) เป็นต้น โดยการพัฒนาสาขาภายใต้แนวคิดใหม่ในครั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ครบทุกความต้องการกับการใช้ชีวิตของผู้บริโภค เพื่อตอกย้ำความเป็นห้างคนไทยหัวใจคือลูกค้าได้อย่างตรงจุด
ด้านยักษ์ใหญ่กลุ่มธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับบ้าน และที่อยู่อาศัยในประเทศไทย โดย นายวทัญญู วิสุทธิโกศล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ กลุ่มพัฒนาธุรกิจ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า โฮมโปรได้นำโมเดลธุรกิจ HomePro S มาให้บริการที่ศูนย์การค้าแห่งนี้เพื่อให้ใกล้ชิดลูกค้ามากกว่าเดิม ด้วยการเปิดสาขาขนาดเล็กในศูนย์การค้า และคอมมูนิตีมอลล์ใกล้ย่านชุมชน ให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายในการจับจ่ายสินค้าภายในบ้าน โดยเราคัดเลือกสินค้าที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ และให้ลูกค้าสนุกกับการสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ครบครันเหมือนสาขาขนาดใหญ่ ผ่านเคาน์เตอร์ออนไลน์ที่มีบริการภายในร้าน ภายใต้แนวคิด 3S - Smart, Select และ Service “SMART” สะดวก ชอปง่าย สบาย ใกล้บ้าน เพราะตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าใกล้บ้าน “SELECT” คัดสรรสินค้าที่ตรงความต้องการของลูกค้าในการปรับปรุง ซ่อมแซม ดูแลรักษา “SERVICE” ครบครันทุกบริการเพื่อคนรักบ้าน เหมือนสโตร์ใหญ่ รวมถึงการชอปออนไลน์รูปแบบใหม่ ที่เรียกว่า Click & Collect ซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ ลูกค้าสามารถกำหนดช่วงเวลา พร้อมเลือกวันรับสินค้า และจุดรับสินค้าได้ที่โฮมโปรทุกสาขาทั่วประเทศตามความต้องการ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสนุกกับการสั่งซื้อสินค้าอื่นๆ ได้ครบครันเหมือนสาขาขนาดใหญ่ ตลอดจน The Power Life ศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ครบครัน และทันสมัยมากที่สุด ให้กลุ่มลูกค้าได้เลือกซื้อได้ครบทุกอย่างแบบจบในที่เดียว โดยแนวทางดังกล่าวจะสามารถตอบโจทย์ ตลอดจนรองรับความสะดวกสบายให้กลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าเกี่ยวกับบ้านได้ง่ายขึ้น
ในขณะที่ นายอภิชาติ คงชัย รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายธุรกิจโรงภาพยนตร์ บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จํากัด (มหาชน) กล่าวแสดงความมั่นใจต่อการลงทุนครั้งใหม่ในครั้งนี้ว่า เกตเวย์ แอท บางซื่อเป็นศูนย์การค้าที่มีความน่าสนใจ ตั้งอยู่บนทำเลที่รายล้อมไปด้วยที่อยู่อาศัย, ออฟฟิศ, สถานที่ราชการ และสถานศึกษาชั้นนำ ซึ่งถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ โดยการเดินทางที่สะดวกสบายเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการได้ง่ายยิ่งขึ้น สำหรับโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ จะมีจำนวน 6 โรง รวม 1,400 ที่นั่ง ซึ่งจะสามารถรองรับกลุ่มลูกค้าที่จะมาใช้บริการได้อย่างแน่นอน เบื้องต้นได้ตั้งเป้าผู้ใช้บริการประมาณ 600,000 คนต่อปี
ในส่วนของ นายภูวนาถ บางพาน ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพัฒนาธุรกิจ บริษัท แฟมมิลี่ อะมิวส์เม้นท์ จำกัด เปิดเผยว่า ฟันเฟสต้า (FUNfesta) สวนสนุกในร่มที่จะเปิดตัวในครั้งนี้นั้นมีพื้นที่กว่า 700 ตารางเมตร ออกแบบในสไตล์ลอฟต์ (Loft) ที่พร้อมจะสร้างความตื่นตาตื่นใจด้วยไฮไลต์ใหม่คือถ้ำคริสตัล ตกแต่งด้วยผลึกอัญมณี และชิ้นส่วนของคริสตัล ซึ่งถือเป็นแห่งแรกของฟันเฟสต้า (FUNfesta) กับการออกแบบในสไตล์ดังกล่าว พร้อมความสนุกที่เป็นเอกลักษณ์สำหรับทุกคนในครอบครัว ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ศูนย์รวมของเครื่องเล่นที่ครบครันและทันสมัยที่สุด เช่น Sport Zone เอาใจคอกีฬา และเน้นการออกกำลัง ทั้งชกมวย, Air Hockey, บาสเกตบอล, Action Zone เครื่องเล่นที่ทันสมัยเอาใจผู้ที่ชอบความตื่นเต้นเร้าใจกับเครื่องเล่นยิงปืน และแข่งรถ Kid Zone เอาใจน้องๆ หนูๆ กลุ่มอายุ 3-12 ปี เพื่อช่วยเสริมสร้างพัฒนาการ โดยการบริการที่เกิดขึ้นนั้นจะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี
ปิดท้ายด้วย นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด ผู้นำศูนย์รวมด้านผลิตภัณฑ์ความงามที่รวบรวมแบรนด์และบริการระดับโลก กล่าวว่า บิวเทรี่ยมได้เปิดสาขาและร่วมงานกับ บริษัท แอสเสท เวิรด์ รีเทล จำกัด มาแล้วทั้ง 2 สาขา ที่เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ และเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ซึ่งได้รับความนิยมและการตอบรับจากลูกค้าทุกเพศทุกวัยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งได้รับคำแนะนำที่ดีจากทางศูนย์การค้า พอมาที่เกตเวย์ แอท บางซื่อ เราพร้อมที่จะสร้างเซอร์ไพรส์ครั้งใหม่ให้กลุ่มลูกค้าที่มาใช้บริการ ตั้งแต่การออกแบบร้านที่ใช้นักออกแบบมืออาชีพเพื่อเปลี่ยนลุคใหม่ทั้งร้านให้เห็นความแตกต่างจากสาขาอื่นๆ ทั้งการตกแต่งภายใน, ชั้นวางของ รวมไปถึงกิจกรรมทางการตลาดสุดพิเศษที่นำมามอบให้ลูกค้าในย่านนั้นแบบไม่เหมือนใคร ซึ่งมั่นใจได้ว่าจะโดนใจกลุ่มลูกค้า และได้รับกระแสตอบรับที่ดี ตลอดจนเลือกเข้ามาใช้บริการอย่างเนืองแน่น