“นมมะพร้าว-นมอัลมอนด์” คึกคัก ค่ายใหญ่แห่ลงบูมตลาดอิงเฮลตี้

เทรนด์ใหม่สำหรับตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ เมื่อ “น้ำนมมะพร้าวพร้อมดื่ม” กับ “นมอัลมอนด์” กลายเป็นตลาดเซกเมนต์ใหม่ที่เริ่มเป็นกระแสขึ้นมา เพื่อเป็นการสร้างทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ

แม้ว่ามูลค่าตลาดน้ำนมมะพร้าวพร้อมดื่มยังไม่มากเท่าไรนักเมื่อเทียบกับตลาดนมพร้อมดื่มที่มีมูลค่ามากกว่า 50,000 ล้านบาท หรือเครื่องดื่มอื่นๆ แต่ก็ถือว่าเป็นตลาดที่มีแนวโน้มและโอกาสที่ดีในอนาคตได้อีกมาก สังเกตได้จากการทุ่มเทการทำตลาดของผู้ประกอบการรายใหญ่ๆ ทั้งหลายที่เข้าสู่สมรภูมินมมะพร้าวกับนมอัลมอนด์นี้ ซึ่งส่วนใหญ่ที่ผ่านมาน้ำนมมะพร้าวจะเน้นการทำตลาดต่างประเทศ โดยมีจีนเป็นตลาดใหญ่สุด แต่ขณะนี้ผู้ประกอบการต่างก็หันมามุ่งเน้นทำตลาดในไทยมากขึ้นเช่นกัน ส่วนนมอัลมอนด์ก็เริ่มมีความเคลื่อนไหวมากขึ้น

*** แบรนด์ไทยปั้นนมมะพร้าวรุกไทย
นายณัฐพล วิสุทธิไกรสีห์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ผู้ผลิตมะพร้าวแปรรูปแบรนด์ “โคโค่แม็ก”, “อัมพวา” และอื่นๆ ของไทย กล่าวถึงตลาดรวมน้ำนมมะพร้าวพร้อมดื่มว่า ถือเป็นตลาดที่เกิดใหม่และเป็นเทรนด์ที่มีโอกาสเติบโตสูง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในตลาดเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและผู้บริโภคที่แพ้นมวัวด้วย นอกเหนือจาก นมถั่วเหลือง นมข้าวโพด น้ำนมข้าว และนมอัลมอนด์

ที่ผ่านมาการพัฒนาน้ำนมมะพร้าวแบรนด์ มิลค์กี้ โคโค่ ที่มีส่วนผสมของน้ำและเนื้อมะพร้าวของบริษัทฯ ได้รับการตอบรับอย่างดีทั้งในไทยและในต่างประเทศ แต่ส่วนใหญ่จะทำตลาดต่างประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ จากนี้ไปจะเน้นตลาดในไทยเพิ่มด้วย โดยครึ่งหลังปี 2561 บริษัทฯ มีแผนที่จะเปิดตัวน้ำนมมะพร้าวอีก 3 รสชาติใหม่ คือ รสชาติลิ้นจี่, ลาเต้ และมันม่วง

นางสาวชัญญา ธนศักดิ์ภัทร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยโคโคนัท จำกัด ผู้ผลิตมะพร้าวแปรรูปแบรนด์ “โคโคนัท” ของไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ วางแผนที่จะหันมาเน้นทำตลาดในไทยมากขึ้นด้วย สำหรับผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ทำมาจากมะพร้าวเป็นหลักของบริษัทฯ จากเดิมจะเน้นตลาดส่งออกไปยังต่างประเทศเป็นหลัก โดยสัดส่วนยอดขายที่ผ่านมาจะมาจากตลาดต่างประเทศและการรับจ้างผลิตหรือโออีเอ็มให้กับแบรนด์อื่นมากถึง 95% ส่วนอีก 5% เป็นรายได้ที่มาจากในประเทศ

“ส่วนใหญ่แล้วสินค้าเราไปขายและเติบโตในต่างประเทศมาก ก่อนหน้านี้ก็เน้นยุโรป แล้วหลังจากนั้นเราก็เริ่มขยายตลาดจากยุโรปเข้ามารุกในเอเชียมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายจากต่างประเทศมีสัดส่วน ตลาดอเมริกา 50%, ยุโรป 30% และเอเชีย 10% อย่างไรก็ตาม จากนี้ไปตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนในเอเซียเป็น 20-30% ภายใน 3 ปี โดยมีจีนเป็นตลาดหลัก”

แผนรุกตลาดในไทยปี 2561 นี้ บริษัทฯ จะใช้งบการตลาดประมาณ 20 ล้านบาท เพื่อเน้นการสร้างแบรนด์ของผลิตภัณฑ์ เน้นในสื่อออนไลน์เป็นหลัก พร้อมกับแผนการขยายช่องทางจำหน่ายสินค้าต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็นการสร้างโอกาสทางการตลาดและการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้นด้วย จากปัจจุบันที่มีช่องทางจำหน่ายใน บิ๊กซี สยามดิสคัฟเวอรี่ และดิเอ็มโพเรียม เท่านั้น

รวมไปถึงแผนการเปิดขายแฟรนไชส์รูปแบบคีออสก์หรือร้านเล็กๆ ที่จำหน่ายเครื่องดื่มกาแฟที่มีส่วนผสมมะพร้าว เครื่องดื่มจากมะพร้าวทั้งชงสดและใส่บรรจุภัณฑ์ภายในห้าง เพื่อเป็นอีกช่องทางในการนำสินค้าทั้งหมดในเครือไปวางจำหน่าย และสร้างการรู้จักได้เร็วขึ้น และเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะนำสินค้าใหม่ๆ ไปวางตลาดเพื่อให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสทดลองด้วย โดยมีแผนจะมุ่งแตกไลน์สินค้าด้วยนวัตกรรม เช่น วิปปิ้งครีม นมข้นหวานจากมะพร้าว เป็นต้น

นางสาวชัญญากล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายภายในสิ้นปี 2561 นี้จะมีสัดส่วนยอดขายในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายใน 3 ปี จากขณะนี้มีสัดส่วนเพียง 5% โดยตั้งเป้าหมายยอดขายรวมปีนี้ไว้ประมาณ 3,000 ล้านบาท ผลิตภัณฑ์หลักๆ คือ น้ำมะพร้าวสด กะทิ พุดดิ้ง น้ำนมมะพร้าว เป็นต้น

นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร ผู้จัดการฝ่ายการตลาดต่างประเทศ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ทำตลาดต่างประเทศของแบรนด์ ชาวเกาะ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ได้วางตลาดรสชาติใหม่ของผลิตภัณฑ์กะทิพร้อมดื่มชาวเกาะอีก 3 รสชาติ คือรสชาติ (งาดำ, มันม่วง และเมลอน) โดยเปิดตัวในงานไทยเฟ็กซ์ที่ผ่านมาเพื่อเข้ามาเสริมพอร์ตโฟลิโอทั้งกะทิพร้อมดื่มและสินค้าทั้งหมดด้วย

นายรัตนะ ภารสำอาง ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ บริษัทไทย อกริ ฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ผุ้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำมาจากมะพร้าวของไทย แบรนด์ “กะทิอร่อยดี” เปิดเผยว่า ตลาดใหญ่ที่ผู้ประกอบการแบรนด์ไทยส่งผลิตภัณฑ์แปรรูปจากมะพร้าว ทั้งกะทิ น้ำมะพร้าว น้ำนมมะพร้าว มะพร้าวอบแห้งกรอบ เป็นต้น ไปจำหน่ายคือ จีน เพราะคนจีนชอบบริโภคกะทิและน้ำนมมะพร้าวมาก แต่ไทยก็เป็นอีกตลาดที่จะเติบโตดีเช่นกัน

*** “นมอัลมอนด์” ตลาดบูมตามมาติดๆ
นายวิทวัส พลไพศาล รองประธานกรรมการ เครือเฮอริเทจ กล่าวว่า ปัจจุบันนมอัลมอนด์ และนมอื่นๆ อย่าง นมข้าว นมข้าวโพด เป็นต้น ในไทยยังมีสัดส่วนตลาดน้อยมากไม่ถึง 1% ของตลาดนมทั้งหมด ขณะที่ในอเมริกานมอัลมอนด์มีส่วนแบ่งใหญ่อยู่ในตลาดประมาณ 35% ของตลาดนมในประเทศ

สาเหตุหลักเพราะนมอัลมอนด์ในตลาดไทยนั้นยังใหม่และผู้บริโภคยังไม่ทราบถึงคุณประโยชน์ทั้งหมดของนมอัลมอนด์ และราคาที่สูงเพราะวัตถุดิบต้องนำเข้า ทำให้นมอัลมอนด์ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใหม่สำหรับตลาดไทยอยู่ อย่างไรก็ตาม คาดว่าปี 2561 นี้การบริโภคนมอัลมอนด์จะเติบโตและเพิ่มเป็น 2% ของตลาดนมในประเทศ ด้วยมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ตลาดนมอัลมอนด์มีแนวโน้มเติบโตสูงต่อเนื่องทุกปี เพราะกระแสการรักสุขภาพที่มีแนวโน้มสูงขึ้น

นายวิทวัสกล่าวด้วยว่า ในส่วนของนมอัลมอนด์ บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ ในไตรมาสแรกปี 2561 นี้มียอดขายเป็นอันดับ 1 คิดเป็น 48% ของตลาดนมอัลมอนด์ในเมืองไทย โดยอ้างอิงจากรายงานวิจัยตลาด บริษัท นีลเส็น ประเทศไทย ปัจจุบัน บลูไดมอนด์ โกรเวอร์ส ผลิตและจัดหน่ายไปยังมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก โดยส่งออกไปยังทุกประเทศในอาเซียนแล้ว

บลูไดมอนด์ อัลมอนด์ บรีซ ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มนมอัลมอนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในสหรัฐอเมริกาเพิ่งลงตลาดในไทยเมื่อ 1 ปีที่แล้ว โดยดำเนินการผลิตและจำหน่ายในประเทศไทย โดยเครือเฮอริเทจเริ่มต้นจากการสร้างตลาดจากนิชมาร์เกต ต่อมาเริ่มเจาะและขยายตลาดเป็นแมสมาร์เกต เน้นร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านค้าทั่วไปให้มากขึ้น ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อโปรโมตให้ผู้บริโภคลองชิมรสชาติพร้อมทำวิจัยตลาด ทั้งยังเน้นและตอกย้ำจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ที่ได้จากการดื่มนมอัลมอนด์ ในเรื่องของนมที่มีคุณประโยชน์ครบครัน

ปัจจุบันมี 6 รสชาติ คือ รสออริจินัล, สูตรไม่เติมน้ำตาล, รสวานิลลา และรสช็อกโกแลต และรสชาติใหม่ที่เพิ่งวางตลาดเมื่อเมษายน คือ รสมัทฉะ และ รสลาเต้ ขนาด 180 มิลลิลิตร ในราคากล่องละ 20 บาท และขนาดใหญ่ 946 มิลลิลิตร ราคา 99 บาท และวางแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ขึ้นอีกภายในเร็วๆ นี้ เพื่อเข้ามาเสริมทัพพร้อมรองรับการขยายตลาดของกลุ่มลูกค้าและเป้าหมายในอนาคต

นางสาวอาศยา ทรัพย์มนู ประธานบริหาร บริษัท บัตเตอร์ฟลาย ออร์แกนิก จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย นม-โยเกิร์ต นมอัลมอนด์ ออร์แกนิก แบรนด์ “บัตเตอร์ฟลาย” ของไทย กล่าวว่า บริษัทฯ วางตลาดนมอัลมอนด์บัตเตอร์ฟลาย ขนาด 180 มล. ราคาขวดละ 35 บาท ได้ปีเศษ วางจำหน่ายที่ร้านบัตเตอร์ฟลายออร์แกนิกเพลซ สุขุมวิท36, ฟู้ดแลนด์, ท็อปส์ และวิลลามาร์เก็ต เป็นต้น พบว่าตลาดให้การตอบรับดี แต่ก็ยังเป็นตลาดที่เล็กมาก แต่มีแนวโน้มเติบโตดี ปีนี้จะรุกตลาดเต็มที่พร้อมกับนม-โยเกิร์ตของบริษัทฯ เน้นจัดกิจกรรม โรดโชว์ แจกทดลองชิมฟรี และการโฆษณาผ่านสื่อออนไลน์

นายอัครวัฒน์ เชื่อมสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ผู้ผลิตผู้จำหน่ายถั่วลิสงกรอบเคลือบกะทิยี่ห้อ “โก๋แก่” กล่าวว่า บริษัทฯ จะขยายธุรกิจด้วยการออกสินค้าใหม่ที่ยังคงมีถั่วเป็นวัตถุดิบในการผลิตเป็นหลัก เช่น เครื่องดื่มนมอัลมอนด์ แบรนด์ โก๋แก่ เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มเป้าหมายสู่อายุ 18 ปีขึ้นไป จากเดิมลูกค้าหลักอายุ 35-40 ปี ซึ่งที่ผ่านมาได้แตกไลน์สินค้าใหม่กลุ่มเครื่องดื่มนมถั่วบรรจุภัณฑ์ถุงและขนมขึ้นรูปที่ใช้ถั่วเป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตแล้ว ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายปี 2561 นี้ได้ 2,100 ล้านบาท หรือโต 5-10% ตามเป้าหมาย.