xs
xsm
sm
md
lg

“ADYIM”ชี้“บิ๊กดาต้า”เฟื่องโต10เท่า สินค้าคอนซูเมอร์เร่งใช้เสริมแกร่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง แอดยิ้ม บริษัท วายดีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
ผู้จัดการรายวัน360- "แอดยิ้ม" ผุดแผนก”Digital Data Analysis” เป็นขาที่6 ขับเคลื่อนธุรกิจ ชี้ “บิ๊กดาต้า” กุญแจไขอนาคต ทุกองค์กรต้องพึ่งพา ขณะที่ไทยอยู่ในช่วงตื่นตัว สอดคล้องตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งปีนี้ทะลุ 14,330 ล้านบาทโต 15% จากปีก่อน แอดยิ้มฟันเละ ปีนี้ขอ 500 ล้านบาท โตพรวดเกือบ 50% จากปีก่อน

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง "แอดยิ้ม" บริษัท วายดีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า กระแสเรื่องของบิ๊กดาต้ามีการพูดถึงมาได้ 2-3 ปีแล้ว แต่ปีนี้เริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น ที่บริษัทและองค์กรต่างๆเริ่มเห็นถึงความสำคัญและนำบิ๊กดาต้ามาต่อยอดการบริหารจัดการและขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มของดีพาร์ทเม้นท์สโตร์

ในส่วนของแอดยิ้มปีนี้ได้ตั้งแผนก Digital Data Analysis เพื่อช่วยลูกค้าทำ Big Data ที่สามารถเอามาใช้จริงในการทำตลาดปัจจุบัน ถือเป็นธุรกิจกลุ่มที่6 ของแอดยิ้ม จากเดิมมีอยู่ 5 กลุ่ม คือ Online Strategic Planning, Digital Production, Social Media, Digital Media และ Digital Innovation โดยที่ Digital Data Analysis เป็นส่วนหนึ่งของ Online Strategic Planning และแยกตัวออกมา ขณะที่ Social Media ถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่เติบโตสุงสุด

ปีนี้บริษัทจะเน้นเรื่องของเทคโนโลยี เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทสตาร์ทอัพใหม่ๆทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำแพลตฟอร์มใหม่ๆเข้ามาใช้ ทั้ง Ad Technology, Blockchain และAI เพื่อก้าวข้ามวิธีการทำการตลาดแบบเดิมๆสู่ยุค 4.0 ที่มีเทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจ มั่นใจว่าสิ้นปีนี้จะมีรายได้ 500 ล้านบาท หรือโต 50% จากปีก่อนที่ทำได้ 320 ล้านบาท โดยยังคงวางเป้าหมายรายได้ที่ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ SET ในปี2563
ธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหาร และผู้ก่อตั้ง แอดยิ้ม บริษัท วายดีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
ขณะที่ภาพรวมตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งปี2561นี้คาดว่าจะมีมูลค่า 14,330 ล้านบาท โตขึ้น 15% จากปีก่อนมีมูลค่า 12,402 ล้านบาท มาจากการที่ลูกค้าใช้งบกับสื่อมีเดียเป็นหลัก

นายธนพล กล่าวต่อว่า จากกระแสของบิ๊กดาต้าที่กำลังมาแรง ส่งผลให้เอเจนซี่มีการพูดถึงและให้บริการดูแลบิ๊กดาต้าให้กับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งบริการนี้ไม่ใช่สิ่งที่เอเจนซี่ถนัด แต่สำหรับแอดยิ้มถือเป็นบริการที่อยู่ในสายงานธุรกิจที่ดำเนินการมาตั้งแต่ต้น จึงเป็นจุดแข็งที่มั่นใจว่าสามารถแข่งขันกับรายอื่นๆได้ และมีแผนที่จะร่วมทุนกับธุรกิจสื่อในกลุ่มสิ่งพิมพ์ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วย เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง จากปัจจุบันแอดยิ้มเป็นเพียงผู้ให้บริการด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งและไม่มีสื่อเป็นของตัวเอง

ปัจจุบันภาพรวมการใช้บิ๊กดาต้าของประเทศไทย อยู่ในช่วงของการรวมรวมข้อมูล และเริ่มนำไปต่อยอดวางแผนบริหารจัดการต่างๆ เช่นในเรื่องของการทำCRM และกำลังมีผลชัดเจนในเรื่องของรายได้และการลดต้นทุน

โดยมองว่ากลุ่มธุรกิจที่ต้องพึ่งพาบิ๊กดาต้ามาที่สุดในเวลานี้ คือ สถาบันการเงิน, ประกันภัย อสังหาริมทรัพย์ อีคอมเมิร์ช และวงการสื่อ ส่วนกลุ่มสินค้าที่ยังไม่เคยเก็บข้อมูลบิ๊กดาต้าเลย ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ชาเขียว ครีมบำรุงผิว เป็นต้น ขณะที่เม็ดเงินเบื้องต้นสำหรับนำมาใช้ในเรื่องของบิ๊กดาต้าอยู่ที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยมองว่าปีนี้ความต้องการในการใช้บริการเรื่องบิ๊กดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่าตัวเมื่อเทียบกับ 2-3ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่สามารถสรุปออกมาเป็นมูลค่าได้


กำลังโหลดความคิดเห็น