xs
xsm
sm
md
lg

ครม.ไฟเขียว ทอท.แก้สัญญาครัวการบิน เพิ่มบริการที่ “ดอนเมือง-อู่ตะเภา”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
ครม.เห็นชอบ แก้สัญญาสัมปทานครัวการบินที่สุวรรณภูมิ ระหว่าง ทอท.กับบริษัท ครัวการบินกรุงเทพ และแอลเอสจี สกายเชฟส์ เพื่อขยายการบริการไปอู่ตะเภา และดอนเมืองได้ รองรับการเติบโตของผู้โดยสารของสนามบิน 2 แห่ง

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (5 มิ.ย.) มีมติเห็นชอบร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาโครงการครัวการบิน (Catering Services) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระหว่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กับบริษัท ครัวการบินกรุงเทพ จำกัด (BAC) และร่างสัญญาแก้ไขเพิ่มเติมสัญญาโครงการครัวการบิน (Catering Services) ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กับบริษัท แอลเอสจี สกายเชฟส์ (ประเทศไทย) (LSG) จำกัด โดยให้ผู้ประกอบการที่ทั้ง 2 รายสามารถให้บริการครัวการบินแก่สายการบิน ณ ท่าอากาศยานอื่น นอกเหนือจากสุวรรณภูมิได้

ปัจจุบัน ทอท.มีคู่สัญญาให้บริการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวน 3 ราย ได้แก่ BAC, LSG และ บกท. (บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)) สำหรับ BAC ได้แจ้งความประสงค์ขอเป็นผู้ให้บริการครัวการบินแก่สายการบินที่เป็นลูกค้าของตนเอง ณ ท่าอากาศยานแห่งอื่น เช่น ท่าอากาศยานหัวหิน ท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นต้น เนื่องจากท่าอากาศยานดังกล่าวไม่มีผู้ให้บริการครัวการบินที่ได้มาตรฐาน และเพื่อเป็นการสนับสนุนกิจกรรมการบินของประเทศ

ส่วน LSG ได้แจ้งความประสงค์ขอให้บริการครัวการบินแก่สายการบินลูกค้าประเภทเช่าเหมาลำที่เปิดให้บริการ ณ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา หลักการคือให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 รายใช้ การดำเนินการดังกล่าวจะสนับสนุนให้ท่าอากาศยานอู่ตะเภามีศักยภาพเป็นท่าอากาศยานเชิงพาณิชย์แห่งที่ 3 ได้อย่างสมบูรณ์ต่อไป

“ทั้ง 2 บริษัทยังมีกำลังการผลิตเหลือ ดังนั้นจึงอนุญาตให้ไปบริการลูกค้าของตัวเองที่ให้บริการที่สนามบินดอนเมืองและอู่ตะเภา ประกอบกับที่อู่ตะเภายังไม่มีผู้ให้บริการครัวการบินที่ได้มาตรฐานและได้รับอนุญาตมาตรฐานของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหากอู่ตะเภาขยายขีดรองรับผู้โดยสาร เป็น 1.5 ล้านคน และ 3 ล้านคนต่อปี และขยายในอนาคตถึง 30-60 ล้านคนต่อปี อาจจะคุ้มค่าในการลงทุนครัวการบินเอง” นายอาคมกล่าว

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.กล่าวว่า ทอท.จะลงนามเพื่อแก้ไขสัญญาเพิ่มเติมกับผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.การให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2556 เร็วๆ นี้ โดยจะเป็นการแก้เงื่อนไขการอนุญาตจากใช้ฐานการผลิตที่สุวรรณภูมิบริการที่สนามบินอื่นได้ ซึ่งการให้บริการดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการให้บริการครัวการบิน ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแต่อย่างใด เนื่องจาก BAC มีกำลังการผลิตที่เหลือ 7,467 มื้อ/วัน (ร้อยละ 21) และ LSG มีกำลังการผลิตที่เหลือ 12,624 มื้อ/วัน (ร้อยละ 50.5)

โดย ทอท.ได้ทำสัญญากับ BAC, LSG เป็นผู้ให้บริการครัวการบินที่สุวรรณภูมิรายที่ 2 และ 3 อายุสัญญา 20 ปี (2549-2569) มีส่วนแบ่งรายได้ที่ 12% ต่อปี หรือประกันรายได้ขั้นต่ำของสัญญา (Minimum Guarantee) เลือกอย่างที่สูงกว่า

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทอท.ได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการทั้ง 2 ราย ให้บริการครัวการบินที่ดอนเมือง และอู่ตะเภาไปก่อนตั้งแต่ ก.พ. 2560 โดยทำเป็นเอ็มโอยู ถึงปัจจุบัน ทอท.มีรายได้จากส่วนแบ่งรายได้เพิ่มประมาณ 25.4 ล้านบาท


ครัวการบินไทยรับมอบเกียรติบัตร Thai SELECT
ครัวการบินไทยรับมอบเกียรติบัตร Thai SELECT
ครัวการบินไทยรับมอบเกียรติบัตร Thai SELECT นางวรางคณา ลือโรจน์วงศ์ (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการฝ่ายครัวการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)รับมอบเกียรติบัตร Thai SELECT จากนายสุพพัต อ่องแสงคุณ (ขวา) ที่ปรึกษาการพาณิชย์และรองอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ในงานแสดงสินค้า THAIFEX - World of Food Asia 2018 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยผลิตภัณฑ์น้ำแกงสำเร็จรูปตราเอื้องหลวง ได้รับตรา Thai SELECT ซึ่งเป็นตราที่มอบให้แก่ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ และผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป เพื่อยกระดับร้านอาหารไทย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป ให้เป็นที่ยอมรับและรู้จักมากขึ้น และยังส่งเสริมให้ร้านอาหารไทยและผู้ผลิตอาหารไทยพัฒนาและรักษามาตรฐานคุณภาพอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น