ผู้จัดการรายวัน360 – “โก๋แก่” สลัดคราบเก่าแก่ ปรับทิศ มุ่งขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ เพิ่มงบตลาดออนไลน์ ดิจิทัลมาร์เก็ตติง แตกไลน์สินค้าไม่ใช่ถั่วอย่างเดียว แต่ใช้ถั่วเป็นวัตถุดิบหลักผลิต ลุยนมถั่วอัลมอนด์ ขยายโก๋ชอป ดันรายได้โต 10%
นายอัครวัฒน์ เชื่อมสุวรรณ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานแม่รวย จำกัด ผู้ผลิตผู้ผลิตถั่วลิสงกรอบเคลือบกะทิภายใต้แบรนด์ “โก๋แก่” เปิดเผยว่า บริษัทฯปรับกลยุทธ์เพื่อให้เข้ากับยุคดิจิทัล ขณะที่องค์กรของเราตั้งมานานกว่า 40 ปี โดยจากนี้จะหันมาให้ความสำคัญกับทางด้านสื่อออนไลน์และดิจิทัลมาร์เก็ตติงมากขึ้น โดยปีนี้ใช้งบการตลาดรวมเท่าเดิม 80 ล้านบาท แต่จะปรับมาใช้กับสื่อออนบไลน์และดิจิทัลมาร์เก็ตติงสัดส่วนมากถึง 40% จากเดิมปีที่แล้วสัดส่วนเพียง 20% โดยจะทำพวกไวรัลมาร์เก็ตติง และทีวีออนไลน์ เพื่อขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้นด้วย
“กลุ่มเป้าหมายหลักเดิมของโก๋แก่ที่ผ่านมาจะเป็นคนกลุ่มวัย 35-40 ปีขึ้นไป เพราะเป็นแบรนด์ที่อยู่ในท้องตลาดมานาน ดังนั้น จึงต้องปรับตัวขยายสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่เพื่อให้รู้จักแบรนด์โก๋แก่มากขึ้น การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยทำให้เราเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ” นายอัครวัฒน์ กล่าว
นอกจากนั้นเพื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น บริษัทฯยังมีแผนที่จะขยายร้านโก๋ช็อป เพิ่มอีกด้วย ซึ่งถือเป็นธุรกิจรีเทลของเราที่เพิ่งเริ่มดำเนินการไม่นาน จากปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 10 สาขา เน้นตามแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก คือ เอเชียทีค ,จตุจักร, โชว์ ดีซี, กฤษดาดอย จังหวัดชลบุรี, เขาชีจรรย์, เมญ่า, ธิงค์ปาร์ค, ยู นิมมาน, เซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และตลาดอนุสาร อย่างไรก็ตาม ในปีนี้(2561)จะขยายไปทำเลใหม่ๆ เช่น ตามสถานศึกษาเอกชนในกรุงเทพฯเป็นหลัก
สำหรับเป้าหมายของการเปิดร้านค้าปลีก โก๋ชอป นี้ ก็เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ และเป็นที่จำหน่ายสินค้าของบริษัทฯและสินค้าในกลุ่มของพรีเมี่ยมด้วย ทั้ง ตัวโมเดลสุดโก๋ กระเป๋าสุดเก๋ เสื้อยืดสุดเก๋า และของสะสมสุดแนวต่างๆ ซึ่งที่ผ่านมาจึงได้เน้นการเปิดสาขาตามทำเลท่องเที่ยวเป็นหลัก เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนต่างประเทศ โดยเฉพาะตลาดจีน เนื่องจากกลุ่มนี้ชื่นชอบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับถั่ว
นายอัครวัฒน์ กล่าวด้วยว่า การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ก็ยังเป็นอีกแนวทางสำคัญในการปรับตัวเพื่อขยายฐานกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย ไม่ใช่มีสินค้าที่เกี่ยวกับถั่วเดียวเท่านั้น ซึ่งช่วงที่ผ่านมา ได้ขยายไปยังกลุ่มสแน็กบ้างแล้ว แบรนด์ เนลี่ เป็นแครกเกอร์มันฝรั่ง และขยายกลุ่มเครื่องดื่ม โดยที่ยังคงใช้ถั่วเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิต ซึ่งในปี 2561นี้ บริษัทฯเตรียมที่จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มเครื่องดื่มหรือนมอัลมอนด์ โดยใช้แบรนด์โก๋แก่ ทำตลาดเช่นเดิม หลังจากที่ได้เคยทำตลาดเครื่องดื่มน้ำนมถั่วลิสงพร้อมดื่มตราโก๋แก่ มาแล้ว ปีหน้าคาดว่าจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ยูเอชทีเข้าทำตลาดเพิ่มเติม จากปัจจุบันเป็นเครื่องดื่มพาสเจอร์ไรส์
ส่วนตลาดต่างประเทศฯนั้น ปัจจุบันบริษัทฯมีสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศประมาณ 20% จากรายได้รวม โดยมีจีน เป็นตลาดหลักและกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งปี 2560 ที่ผ่านมา ตลาดของการส่งออกเติบโต 10% ดีกว่าในประเทศที่ค่อนข้างจะทรงตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับภาพรวมตลาดขนมขบเคี้ยว บริษัทฯคาดว่าปีนี้จะเติบโต 5-10% เพราะการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากปีที่แล้วมียอดขายรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท