เครื่องดื่ม “โค้ก” โดยกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทย เปิดตัว “โค้ก พลัส คอฟฟี่” นำเสนอความลงตัวของความซ่าสดชื่นและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มโค้ก ผสานกาแฟโรบัสต้าแท้ ชวนกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่น นักศึกษา วัยทำงานพักเบรคจากอาการเหนื่อยล้า คลายง่วงยามบ่าย สร้างสีสันช่วงเวลายามบ่ายให้ได้อร่อยซ่า สดชื่น พร้อมเพลิดเพลินด้วยรสชาติเข้มหอมจากกาแฟโรบัสต้า ให้สดชื่นสดใสกันได้ทั้งวัน เตรียมกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบครบวงจรทั้งออฟไลน์และออนไลน์ วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ ‘เซเว่น-อีเลฟเว่น’ มิถุนายนนี้ (ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าปลีกทั่วประเทศ สิงหาคมนี้)
น.ส.คลาวเดีย นาวาร์โร ผู้อำนวยการการตลาด บริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “นอกจากความชื่นชอบในเครื่องดื่มโค้กแล้ว เราพบว่าผู้บริโภคชาวไทยยังรักการดื่มกาแฟอีกด้วย เนื่องจากช่วยเติมความสดชื่นได้ในเวลาที่ต้องการ โดยเฉพาะในยามบ่าย ดิฉันเองเป็นคนทำงาน และยังมีบทบาทเป็นแม่เมื่ออยู่ที่บ้าน จึงทราบดีว่าในแต่ละวัน คนเรามักจะมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย การได้ลิ้มลองรสชาติซ่าสดชื่นของเครื่องดื่มโค้ก ที่ผสานกับรสเข้มของกาแฟโรบัสต้าแท้ในยามบ่าย ช่วยเติมเต็มความสดชื่นในยามที่รู้สึกเหนื่อยล้าได้เป็นอย่างดี ข้อดีอีกประการ คือ ‘โค้ก พลัส คอฟฟี่’ ยังมีปริมาณน้ำตาลต่ำ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เลือกดื่ม”
“เรามั่นใจว่าจะได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีทั้งจากแฟนเครื่องดื่มโค้ก รวมไปถึงคอกาแฟอีกด้วย” น.ส.คลาวเดียกล่าว
ตลอดเวลาที่ผ่านมา โค้กไม่เคยหยุดนิ่งในการสร้างสรรค์นวัตกรรมทางการตลาดและคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ สำหรับ “โค้ก พลัส คอฟฟี่” ถือว่าเป็นนวัตกรรมล่าสุดในรอบสิบกว่าปีในประเทศไทย นับตั้งแต่การเปิดตัวโค้กซีโร่ครั้งแรกเมื่อต้นปี 2550 ที่ผ่านมา ซึ่งโค้ก พลัส คอฟฟี่ ถูกคิดค้นและผลิตออกมาเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภค ให้ได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์ความอร่อยซ่า สดชื่น และเป็นทางเลือกใหม่ให้กับผู้ที่ชื่นชอบการดื่มน้ำอัดลม ส่งผลให้โค้กเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมที่ครองใจผู้บริโภคไทยและทั่วโลกมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
“โค้ก พลัส คอฟฟี่ ยังได้รับการรับรองตราสัญลักษณ์โภชนาการทางเลือกสุขภาพ (Healthier Choice) จากมูลนิธิส่งเสริมโภชนาการ สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยปริมาณน้ำตาลที่น้อยลง 50% จึงให้แคลอรี่ที่ลดลงกว่ารสชาติปกติ เราจึงมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้นำเสนออีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องดื่มโค้ก เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่มองหาเครื่องดื่มเพื่อเติมความซ่าสดชื่นได้ทุกวัน” น.ส.คลาวเดีย กล่าวเสริม
นายกิติศักดิ์ มโนรัตนา ผู้จัดการการตลาดผลิตภัณฑ์น้ำอัดลม ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “เราให้ความสำคัญต่อความต้องการของผู้บริโภค เมื่อทราบว่าผู้บริโภคชื่นชอบในความสดชื่น และรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มโค้ก ในขณะเดียวกันก็เพลิดเพลินไปกับรสชาติและกลิ่นหอมเข้มพิเศษของกาแฟ เราจึงนำมาผสานรวมกันเป็นหนึ่งเดียว”
“เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ ‘โค้ก พลัส คอฟฟี่’ เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เราเตรียมกิจกรรมสื่อสารการตลาดอย่างครบวงจร เพื่อมอบความสดชื่นคลายง่วงเพิ่มชีวิตชีวาให้กับช่วงกลางวัน และเน้นการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค เราจึงมีแผนการจัดกิจกรรมแจกโค้ก พลัส คอฟฟี่ให้กับผู้บริโภค สร้างความสดชื่นในช่วงบ่าย นอกจากนี้เรายังปูพรมการสื่อสารทุกรูปแบบทั้งออนไลน์และออฟไลน์ นำโดยภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เสริมทัพด้วยสื่อ out-of-home สื่อ ณ จุดขาย และในร้านค้า เน้นสร้างการรับรู้ทุกช่องทาง เพื่อช่วยกระตุ้นและสร้างความสดชื่นภายใต้แนวคิด ‘โค้ก... ดื่มด่ำทุกความรู้สึก’ ซึ่งโค้กได้ทำการสื่อสารมาอย่างต่อเนื่อง” นายกิติศักดิ์กล่าวสรุป
“มูลค่าตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมในประเทศไทยอยู่ที่ 51,000 ล้านบาท กลุ่มธุรกิจโคคา-โคลา ในประเทศไทยเป็นผู้นำตลาด และมียอดขายเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งรวม 51%” [*ข้อมูลจากการวิจัยในช่วงเวลา 3 ปี นับตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2557 - 31 มกราคม 2560 ของบริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จำกัด]
“โค้ก พลัส คอฟฟี่” ผสานกาแฟโรบัสต้าแท้ ในรูปแบบกระป๋องขนาด 240 มล. ราคา 15 บาท หาซื้อได้ตั้งแต่มิถุนายนนี้เฉพาะที่ 7-11 (สำหรับร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้าต่างๆ ทั่วประเทศ เริ่มสิงหาคมเป็นต้นไป)