อ็กซ์พีเดีย (Expedia.co.th®) เว็บไซต์บริการด้านการท่องเที่ยวครบวงจรชั้นนำของโลก เผยข้อมูลการศึกษาของผู้ใช้บริการบนเครื่องบินและในโรงแรมประจำปี พ.ศ. 2561 (The 2018 Expedia Airplane and Hotel Etiquette Study) โดยทำการสำรวจข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมและมารยาทของนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานกว่า 18,000 คน ทั่วโลก รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยจำนวน 600 คน ข้าร่วมทำแบบสอบถามในครั้งนี้ ผลการศึกษาพบว่า คนไทยเดินทางท่องเที่ยวบ่อยที่สุดในโลกและมีเที่ยวบินสูงที่สุดโดยเฉลี่ย 10.1 เที่ยวบินต่อปี โดยมีญี่ปุ่นและอินเดียตามมาเป็นอันดับ 2 และ 3
การศึกษาข้อมูลของผู้ใช้บริการบนเครื่องบินและในโรงแรมประจำปีครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยบริษัท นอร์ธสตาร์ (Northstar) ในนามของเอ็กซ์พีเดีย เพื่อเป็นตัวช่วยเตือนว่าแม้การเดินทางจะเป็นที่น่าสนุก แต่การที่ต้องเผชิญกับพฤติกรรมที่น่ารำคาญตั้งแต่เริ่มต้นเดินทางนั้นก็สามารถทำลายความรู้สึกที่ดีได้อย่างรวดเร็ว การสำรวจนี้เป็นการทำแบบสอบถามทางออนไลน์ที่ทำขึ้นระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ถึง 19 มีนาคม 2561 ทั่วทวีปอเมริกาเหนือ ยุโรป อเมริกาใต้ และเอเชียแปซิฟิก โดยใช้กลุ่มสุ่มตัวอย่างที่ดีที่สุดจำนวน 18,229 คน ใน 23 ประเทศทั่วโลก
นักท่องเที่ยวชาวไทยเชี่ยวชาญการใช้เทคโนโลยีมากที่สุดในโลก
โดยเฉลี่ยนักท่องเที่ยวจะเดินทางแบบเที่ยวเดียว 5 เที่ยวต่อปี เป็นเที่ยวบินส่วนบุคคลร้อยละ 3.2 ต่อปี คิดเป็น 2 ใน 3อีกหนึ่งส่วนเป็นการเดินทางเพื่อธุรกิจ มีจำนวนร้อยละ 1.6 เที่ยวต่อปี ซึ่งประเทศที่มีการเดินทางเพื่อธุรกิจสูงมากเป็นพิเศษคือ ไทย (4.5 เที่ยว/ปี) ญี่ปุ่น (3.9 เที่ยว/ปี) และอินเดีย (3.6 เที่ยว/ปี) ส่วนการเดินทางท่องเที่ยวในชั้นประหยัดจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวส่วนบุคคลโดยเฉพาะ สำหรับนักเดินทางเพื่อธุรกิจชาวอเมริกันและไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะเดินทางในเที่ยวบินชั้นประหยัดแบบพรีเมียมหรือสูงกว่า
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังนิยมใช้บัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) แบบกระดาษ โดยมีจำนวนเกือบครึ่งหนึ่ง หรือ ร้อยละ 47 ที่ใช้แบบกระดาษเท่านั้น และมีจำนวน 1 ใน 3 หรือ ร้อยละ 32 ที่ใช้รวมกันทั้งแบบกระดาษและบัตรผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ขณะที่จำนวนมากกว่า 1 ใน 5 หรือ ร้อยละ 21 จะใช้ทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น โดยเป็น นักท่องเที่ยวชาวอเมริกัน ร้อยละ 28% และชาวอิตาเลียน ร้อยละ 27 โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในเอเชียอย่าง ไทย ร้อยละ 30 อินเดีย ร้อยละ 29 และเกาหลีใต้ ร้อยละ27 เป็นผู้นำที่นิยมใช้บัตรผ่านขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ทางโทรศัพท์มือถือเท่านั้น ส่วนชาวเบลเยียมและไต้หวัน ร้อยละ 13 มีแนวโน้มที่ต่อต้านการใช้บัตรบอร์ดดิ้งพาสทางมือถือมากที่สุด
เมื่อต้องปลุกให้คนนอนหลับตื่น ใครแพ้?
เมื่อต้องการเดินผ่านผู้โดยสารที่นอนหลับ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะปลุกพวกเขาให้ตื่นและขอร้องให้ขยับ จำนวนร้อยละ 42 มีจำนวน 1 ใน 3 หรือร้อยละ 20 ที่จะปีนข้ามผู้โดยสารที่นอนหลับ และร้อยละ 15 กลับไปเผชิญหน้ากับพวกเขา ขณะที่จำนวนเกือบ 1 ใน 4 หรือร้อยละ 23 จะรอจนกว่าพวกเขาจะตื่น
นักท่องเที่ยวในเอเชียมีแนวโน้มที่จะปลุกให้ผู้โดยสารที่หลับตื่นขึ้น นำโดยชาวฮ่องกง ร้อยละ 60 ไทย ร้อยละ 59 และ สิงคโปร์ ร้อยละ 58
เมื่อถึงเวลาคาดเข็มขัดก่อนเครื่องบินขึ้น คนไทยก็ยังคงสวมรองเท้าไว้
เกือบ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 30 ของจำนวนผู้โดยสารบอกว่าพวกเขาจะถอดรองเท้าออกแต่ยังสวมถุงเท้าก่อนที่เครื่องบิน จะบินขึ้น มีเพียงร้อยละ 7 ที่เปลือยเดินเท้าเปล่าบนเครื่องบิน โดยชาวญี่ปุ่นเป็นพวกที่ชอบเปลือยเท้าเปล่ามากที่สุด จำนวนร้อยละ 16 ขณะที่นักเดินทางชาวสวิสร้อยละ 48 และชาวอังกฤษร้อยละ 43 มักจะถอดรองเท้าแต่ยังคงสวมถุง เท้าไว้ ส่วนนักท่องเที่ยวที่บอกว่าควรสวมรองเท้าไว้ตลอดเวลา ได้แก่ ชาวเม็กซิกัน ร้อยละ 85 ชาวไทย ร้อยละ 81 ชาวอิตาเลียน ร้อยละ 80 ชาวอินเดียและชาวสเปน ร้อยละ 77
สิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยหงุดหงิดรำคาญใจเมื่อใช้บริการบนเครื่องบินและในโรงแรม
แม้ในแต่ละทวีปจะมีความแตกต่างกัน แต่เมื่อพูดถึงพฤติกรรมและสิ่งที่น่ารำคาญมากที่สุดบนเครื่องบินสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยนั้นไม่ค่อยแตกต่างจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ จากข้อมูลการสำรวจนักท่องเที่ยวทั่วโลกลงความเห็นว่าพฤติกรรมที่สร้างความรำคาญที่เลวร้ายที่สุดคือพวกที่ชอบเตะ/ชน/ดึง ที่นั่ง มีจำนวนมากถึงร้อยละ 51 (ไทย ร้อยละ 37) พวกที่กลิ่นตัวแรง (ทั่วโลก ร้อยละ 43 vs ไทย ร้อยละ 42) ผู้ปกครองที่ไม่เอาใจใส่ลูกๆ (ทั่วโลก ร้อย ละ 39 vs ไทย ร้อยละ 34) พวกชอบละเมิดพื้นที่ส่วนบุคคล (ทั่วโลก ร้อยละ 34 vs ไทย ร้อยละ 43) และพวกที่ตื่น ตระหนกกับเสียง (ทั่วโลก ร้อยละ 29 vs ไทย ร้อยละ 31)
เมื่อเช็คอินเข้าพักในโรงแรม สิ่งที่ทำให้แขกรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุด คือ พบพวกแมลงต่างๆ บนเตียงนอน (ทั่วโลก ร้อย ละ 61 vs ไทย ร้อยละ 34) พบถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว (ทั่วโลก ร้อยละ 55 vs ไทย ร้อยละ 52 ) มีกลิ่นสูบบุหรี่หรือกลิ่น เหม็น (ทั่วโลก ร้อยละ 46 vs ไทย ร้อยละ 59)
รวมถึงพฤติกรรมของแขกที่น่ารำคาญมากที่สุด ได้แก่ พวกผู้ปกครองที่ไม่เอาใจใส่ลูกๆ (ทั่วโลก ร้อยละ 45 vs ไทย ร้อยละ 40) รองลงมาคือพวกชอบส่งเสียงเอะอะตามทางเดิน (ทั่วโลก ร้อยละ 41 vs ไทยน้อยกว่า ร้อยละ 30) และ พวกสำมะเลเทเมาในห้อง (ทั่วโลก ร้อยละ 41 vs ไทย ร้อยละ 40)
การตัดสินใจเดินทาง
นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ให้ความสำคัญระหว่างเรื่องการจองเที่ยวบินและโรงแรมในสัดส่วนใกล้เคียงกัน พวกที่จองตั๋วเครื่องบินก่อนแล้วจึงจองโรงแรมมีจำนวนร้อยละ 43 เมื่อเทียบกับการซื้อแพ็คเกจท่องเที่ยวที่รวมตั๋วเครื่องบินและโรงแรมด้วยมีจำนวนร้อยละ 38 ในขณะที่กลุ่มที่จองโรงแรมก่อนหรือว่าจองตั๋วเครื่องบินก่อนอย่างใดอย่างหนึ่ง มีค่อนข้างน้อยเพียงร้อยละ 9 สำหรับนักท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มที่ทำการจองตั๋วเครื่องบินก่อน เป็นชาวสิงคโปร์และชาวมาเลเซียมีจำนวนเท่ากัน คือ ร้อยละ 64% รองลงมาคือ ชาวเกาหลีใต้ ร้อยละ 63%และคนไทย ร้อยละ 37
โรงแรมในเครือใหญ่หลายแห่งครองส่วนแบ่งตลาดที่ถูกเลือกจองมากที่สุดเป็นอันดับ 1 และ 2 (ทั่วโลกร้อยละ 69 และไทย ร้อยละ 52) โดยเป็นโรงแรมบูติค ร้อยละ 51 (ไทย ร้อยละ 44) และการเช่าห้องพักในวันหยุดมีจำนวนร้อยละ 34 (ไทย ร้อยละ 33) เป็นตัวเลือกที่นิยมมากที่สุด
สัญญาณการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (Wi-Fi) ในโรงแรมเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก และเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวไทยให้ความเป็นอันดับสูงสุด ถึงร้อยละ 71 ตามด้วยอภินันทนาการอุปกรณ์ในห้องน้ำมีจำนวนร้อยละ 34 จากทั่วโลก (ไทย ร้อยละ 46) ตู้เย็นในห้องพักร้อยละ 34 (ไทย ร้อยละ 45) พร้อมกับพวกของฟรีต่างๆ เช่น บริการสปา อาหารและเครื่องดื่ม (ไทย ร้อยละ 47)
"ไม่ต้องสงสัยเลยว่านักท่องเที่ยวชาวไทยที่เดินทางท่องเที่ยวอยู่เป็นประจำนั้น รักที่จะติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและครอบครัวของพวกเขาที่อยู่ที่บ้าน ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูง (Wi-Fi) กลายเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่สำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ที่พวกเขาจะตัดสินใจเลือกโรงแรมมากกว่าคำนึงถึงราคาหรือทำเลที่ตั้ง” ลาวิเนีย ราชราม ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารประจำภูมิภาค (Regional Head of Communications) เอ็กซ์พีเดีย เอเชีย กล่าว
แม้จะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ราคาเป็นเรื่องสำคัญในการเดินทาง แต่ก็น่าแปลกที่ข้อมูลระบุว่ามีนักเดินทางชาวไทยเพียงร้อยละ 38 ที่ทำการจองเที่ยวบินและโรงแรมเป็นแพ็กเกจ "การจองแพ็กเกจยังคงเป็นวิธีเดียวที่ง่ายที่สุดสำหรับนักเดินทางที่จะประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยการจองเที่ยวบินและโรงแรมด้วยกันนั้น จะทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถประหยัดค่าเดินทางได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาและต้องการจองแพ็คเกจการเดินทางของคุณไปยังจุดหมายปลายทางใกล้ๆ นั้น ไม่เกิน 358 ดอลล่าร์ต่อคน คุณก็สามารถมีช่วงเวลาที่ดีสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูร้อนได้ " ลาวิเนีย ราชราม กล่าวเสริม