“สอน.” ประสานโรงงานน้ำตาลใกล้ชิดเพื่อช่วยเหลือชาวไร่อ้อยหลังฝนตกหนักทั่วประเทศกระทบการตัดอ้อย ทั้งให้โรงงานบางแห่งเลื่อนปิดหีบ โดยแห่งสุดท้ายจะปิด 15 พ.ค. และให้รับซื้ออ้อยที่ตัดไม่ได้จากน้ำท่วมกับชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญาเพื่อให้อ้อยค้างไร่น้อยที่สุด ขณะที่ 4 องค์กรชาวไร่เตรียมหารือ 8 พ.ค.ประเมินสถานการณ์ฤดูผลิตใหม่ที่แนวโน้มไม่สดใส
นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เปิดเผยว่า จากกรณีที่ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้ฝนตกทั่วประทเศในขณะนี้จนกระทบต่อการตัดอ้อยในหลายพื้นที่ สอน.จึงได้ประสานงานกับโรงงานน้ำตาลใกล้ชิดโดยเฉพาะชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญาโรงงานจะต้องรับซื้ออ้อยให้หมดเพื่อให้อ้อยค้างไร่เหลือน้อยที่สุด ซึ่งจากการประเมินในเบื้องต้นล่าสุดยังคงเหลืออ้อยค้างหีบอีกประมาณกว่า 2 ล้านตัน โดยโรงงานน้ำตาลจะปิดหีบโรงสุดท้ายในวันที่ 15 พ.ค.นี้ คาดว่าจะมีอ้อยเข้าหีบฤดูการผลิตปี 2560/61 ประมาณ 134 ล้านตัน
“โรงงานก็ให้ความร่วมมือ บางโรงกำหนดจะปิดแล้วก็เลื่อนการปิดออกไปบ้าง หลังจากที่ฝนตกทำให้ตัดอ้อยไม่ได้ทำให้โรงงานขณะนี้ปิดหีบแล้ว 29 แห่ง ที่เหลือประมาณ 25 แห่งยังเปิดอยู่ และโรงสุดท้ายจะปิด 15 พ.ค.นี้ เราก็มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดในการประสานกับโรงงานที่จะช่วยเหลือชาวไร่และก็ต้องแก้ไขเป็นกรณีๆ ไป เช่น กรณี จ.สระแก้วก็มีปัญหาว่าได้ผ่อนผันให้ใช้แรงงานต่างด้าวมาตัดอ้อยถึง 30 เม.ย. แต่ปรากฏว่าอ้อยมากต้องขอให้ผ่อนผันต่อไปอีก ทางจังหวัดก็ดำเนินการแก้ไขกันแล้ว เป็นต้น” นางวรวรรณกล่าว
นายนราธิป อนันตสุข หัวหน้าสำนักงานสหพันธ์ชาวไร่อ้อยแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ยอมรับว่าฝนตกทั่วประเทศกระทบต่อการตัดอ้อยของชาวไร่บางส่วนทำให้ได้รับความเสียหาย แต่กรณีชาวไร่อ้อยที่เป็นคู่สัญญาทางโรงงานจะรับซื้อทั้งหมดก็จะทำให้ผลกระทบน้อยลง อย่างไรก็ตาม วันที่ 8 พ.ค.นี้ 4 องค์กรชาวไร่อ้อยจะหารือถึงสถานการณ์การหีบอ้อยฤดูผลิตปี 2560/61 ที่ยอมรับว่าผลผลิตมากกว่าที่ประเมินไว้ค่อนข้างสูง และเป็นกังวลในปี 2561/62 ทั้งราคาน้ำตาลตลาดโลกที่ยังทรงตัวระดับต่ำจะกระทบต่อราคาอ้อยขั้นต้น แล้วหากพิจารณาถึงฐานะกองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย (กท.) ก็ดูจะลำบากคงจะต้องประเมินไว้เพื่อหาแนวทางรับมือตั้งแต่แรก
“ปีนี้เราก็พบปัญหาจากที่ไม่เคยเจอเพราะอ้อยเยอะมาก ฝนมาช่วงยังไม่ปิดหีบในขณะนี้ แล้วการขนส่งอ้อยเราก็ถูกควบคุมน้ำหนักอย่างมากเป็นประสบการณ์ที่ต้องเตรียมไว้ว่าฤดูหน้าควรทำอย่างไร และถ้าราคาน้ำตาลตลาดโลกเฉลี่ย 11 เซ็นต์ต่อปอนด์ราคาขั้นต้นคงไม่ถึง 700 บาทต่อตันแน่ กองทุนฯ เคยกู้มาเพิ่มได้ก็จะทำไม่ได้เราจะทำอย่างไรปีหน้าน่าจะเผาจริง” นายนราธิปกล่าว
สำหรับราคาอ้อยขั้นต้นฤดูผลิตปี 60/61 ที่รัฐประกาศอยู่เฉลี่ยที่ 880 บาทต่อตัน แต่คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เห็นชอบให้ช่วยเหลือเพิ่มจากกองทุนอ้อยฯ วงเงิน 6,285 บาท เฉลี่ยชาวไร่อ้อยจะได้รับค่าอ้อยเพิ่มตามระบบแบ่งปันผลประโยชน์ ชาวไร่และโรงงาน 70:30 คาดว่าชาวไร่จะได้รับเพิ่มเฉลี่ยตันละ 31-32 บาท