“LINE TV” ตั้งเป้าผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์วิดีโอ จับมือพันธมิตร 160 ราย ชูออริจินัลคอนเทนต์สู่เป้าสิ้นปีเพิ่มเท่าตัว ผู้ใช้งานมากกว่า 20 ล้านคน
นายกวิน ตั้งอุทัยศักดิ์ ผู้อำนวยการธุรกิจคอนเทนต์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนส่วนใหญ่ใช้เวลาดูวิดีโอบนโทรศัพท์มือถือมากถึง 90% (ข้อมูลจาก TNS, The Connected Life 2017) ซึ่งสอดคล้องกับธุรกิจของ LINE TV ที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องสู่การเป็นผู้นำแพลตฟอร์มออนไลน์วิดีโอในประเทศไทย ในช่วงเวลาเพียง 3 ปี LINE TV มียอดดาวน์โหลดจากผู้ใช้งานไปแล้วกว่า 20 ล้านครั้ง โดยผู้ชม LINE TV ยังใช้เวลาเฉลี่ย 176 นาทีต่อวัน คิดเป็น 2 ใน 3 ส่วนของการรับชมทีวีทั่วไป (ข้อมูลจาก Nielsen) นอกจากนี้แล้ว LINE TV ยังได้ขยายความร่วมมือกับพันธมิตรรวมทั้งสิ้นกว่า 161 ราย เพิ่มขึ้น 90% จากปี 2016
โดยในจำนวนนี้มีทั้งช่องทีวี ผู้ผลิตรายการ ค่ายเพลง หนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ทำให้เม็ดเงินโฆษณาบน LINE TV เติบโตขึ้นกว่า 100% ทั้งนี้ ด้วยความแข็งแกร่งทางด้านพันธมิตรกับช่องทีวีต่างๆ LINE TV จึงได้รับการโหวตให้เป็นแพลตฟอร์มดูทีวีย้อนหลังอันดับ 1 ในประเทศไทย (ข้อมูลจาก Nielsen) ที่ได้รับสิทธิ์ในการฉายละครไพรม์ไทม์ รายการทีวีชั้นนำ และรายการบันเทิงย้อนหลังแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
สำหรับก้าวต่อไปของ LINE TV ตั้งเป้าในการเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์วิดีโออันดับหนึ่งของประเทศไทย โดย LINE TV เน้นกลยุทธ์การสร้างคอนเทนต์ที่แข็งแรงและร่วมมือกับพันธมิตรที่มีความชำนาญในด้านต่างๆ เพื่อพัฒนาบริการให้เข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น มุ่งมั่นในการนำเสนอและสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่มีคุณภาพเพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการรับชมรายการหรือละครย้อนหลังก่อนใคร และคอนเทนต์ที่มีบน LINE TV ที่เดียวเท่านั้น
ล่าสุด LINE TV ได้จับมือกับช่องทีวีอย่างช่อง 3 เวิร์คพอยท์ และช่อง 8 เพื่อนำเสนอละครย้อนหลัง นอกจากนี้ยังมีพันธมิตรอย่างช่อง one31 และ GMM TV สำหรับการรับชมคอนเทนต์ย้อนหลังก่อนแพลตฟอร์มอื่นๆ
นอกจากนี้ ในปีนี้ยังได้จับมือกับหลากหลายพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์คอนเทนต์ 2 รูปแบบ คือ 1. ออริจินัลคอนเทนต์รายการ และ 2. ออริจินัลคอนเทนต์ซีรีส์ ที่ร่วมมือกับบริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน), บริษัท เจเอสแอล โกลบอล มีเดีย จำกัด, Bear Cave บริษัท โนแมดิค โปรดักชั่น จำกัด, บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด และบริษัท กันตนา กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
ส่วนคอนเทนต์ที่จะได้เห็นในปีนี้ เช่น Together With Me : The Next Chapter, GGEZ, It’s Complicated, Hipster or Loser, The Deadline และรายการต่างๆ อย่าง Dance Dance Dance, The Hidden Songs, Food Tribe, ก็กูทำไม่เป็น และ Drag Race Thailand” ถึงสิ้นปีมั่นใจว่าทั้งในแง่รายได้และจำนวนผู้ใช้บริการจะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว