สนข.สรุปฟื้นตอม่อเกษตร-นวมินทร์ สร้างทางด่วน N2 ซ้อนรถไฟฟ้าสีน้ำตาล แก้จราจร แนวตะวันออก-ตะวันตก สรุปการศึกษา มิ.ย.นี้ “ไพรินทร์” เร่งเสนอ ครม.ในปีนี้ คาดวงเงินลงทุนรวม 8 หมื่นล้าน ด้าน ม.เกษตรฯ หนุนรถไฟฟ้า ยังค้านทางด่วน เชื่อไม่คุ้มค่า แม้เบี่ยงแนวไปคลองบางบัว ชี้ยังแก้จราจรไม่ได้ แนะสร้างสะพานข้ามแยกแทน
นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 (การสรุปผลการพิจารณารูปแบบทางเลือกของโครงการ) งานศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) ว่า จากที่คณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ได้มอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) โดยพิจารณาโครงข่ายการขนส่งและจราจรในภาพรวมและเชื่อมต่อต่างๆ เพื่อพัฒนาโครงข่ายระบบทางพิเศษระหว่างพื้นที่ด้านตะวันออกและตะวันตกของกรุงเทพมหานคร และการใช้ประโยชน์เสาตอม่อทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ให้มากที่สุด ซึ่งได้สรุปแนวทางที่ 4 คือ การพัฒนารถไฟฟ้าและทางด่วนบนสายทางเดียวกัน จะมีความเหมาะสมที่จะสามารถรองรับการเดินทางได้ดีที่สุด อีกทั้งยังสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมการเดินทางด้วยระบบขนส่งมวลชนทางราง
ทั้งนี้ รูปแบบการมีทั้งระบบรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลและทางด่วนค่อนข้างชัดเจนและได้รับการยอมรับมากขึ้น จากการเปิดรับฟังความคิดเห็นที่ผ่านมา ซึ่งสีน้ำตาลจะเป็นรถไฟฟ้าสายที่ 11 คาดวงเงินลงทุนประมาณ 5 หมื่นล้านบาทเศษ ส่วนทางด่วน N2 และต่อขยายเชื่อมมอเตอร์เวย์ และปรับแนว N1 มาทางลาดปลาเค้า ผ่านคลองบางบัว คลองบางเขน ขนานวิภาวดีรังสิตและเชื่อมกับทางด่วนศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ได้ วงเงินลงทุนประมาณ 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทำให้เชื่อมการเดินทางของกรุงเทพฯ ด้านตะวันออกและตะวันตกสมบูรณ์ ขณะที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ต้องการรถไฟฟ้า
ซึ่งจะต้องสรุปหลักการและเสนอขออนุมัติภายในปีนี้ ขณะที่ส่วนต่อขยายของทางด่วนไปทางลาดปลาเค้านั้นจะมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) เพิ่มเติม รวมถึงกรณีจะมีการระดมเงินจากกองทุน TFF สำหรับก่อสร้างทางด่วนเชื่อว่าไม่มีผลกระทบใด สามารถดำเนินการคู่ขนานไปได้
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า เบื้องต้นผลการศึกษาชี้ว่าบนแนวทางนี้ควรมีทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า ซึ่งกรณีรถไฟฟ้าสีน้ำตาลนั้น เมื่อสรุปผลการศึกษาจะมีรายละเอียดว่าจะใช้ระบบใด เป็นโมโนเรลหรือไลต์เรล เริ่มก่อสร้างเมื่อใด รูปแบบลงทุนเป็นอย่างไร โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จะเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งสายสีน้ำตาลจะฟีดเดอร์เชื่อมกับรถไฟฟ้าสีแดง, สีเขียว, สีม่วง, สีชมพู ส่วนทางด่วนนั้น เมื่อปรับแนวมาทางลาดปลาเค้าเชื่อมด้านตะวันตก ซึ่งปริมาณจราจรบนถนนประเสริฐมนูกิจวันละ 154,265 คัน โดยประมาณ 60% เป็นการเดินทางแนวตะวันออก-ตะวันตก
ทั้งนี้ สนข.ได้ว่าจ้างที่ปรึกษาศึกษารูปแบบการดำเนินงานโครงการคมนาคมขนส่งที่เหมาะสมและใช้ประโยชน์เสาตอม่อ โครงการระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตั้งแต่ 10 เม.ย. 60-9 มิ.ย. 61 รวม 14 เดือน ใน 4 รูปแบบ คือ 1. การพัฒนาด้วยระบบขนส่งมวลชน (รถไฟฟ้า) 2. การพัฒนาด้วยระบบทางพิเศษ (ทางด่วน) ขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และ E-W Corridor (เชื่อมทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9) 3. การพัฒนาด้วยระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และส่วนต่อขยายกับแนวโครงข่ายทดแทน N1 แนวคลองบางบัวและคลองบางเขน และ 4. การพัฒนารถไฟฟ้า และระบบทางด่วนบนแนวสายทางเดียวกัน
***ม.เกษตรฯ หนุนรถไฟฟ้า ค้านทางด่วนยืด 7 กม.เบี่ยงแนวเชื่อไม่คุ้ม แนะสร้างสะพานข้ามแยกก็พอ
รายงานข่าวแจ้งว่า รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมีระยะทาง 22 กม. มีประมาณ 18-20 สถานี โดยจะซ้อนทับไปกับแนวทางด่วน N2 ประมาณ 7.4 กม. จะต้องมีการเวนคืนที่ดินบางส่วน รวมถึงบริเวณทางพิเศษฉลองรัฐ ประมาณ 71,000 ไร่ หรือ 44.3 ไร่เพื่อก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง ส่วนทางด่วน N2 ประมาณ 12 กม.คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งเดิมการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะระดมทุนจาก RFF ดำเนินการ แต่เมื่อรวมกับส่วนทดแทน N1 มาทางคลองบางบัว คลองบางเขน อีก 7 กม. เงินลงทุนเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่ง กทพ.จะต้องพิจารณาเพิ่มเติม
ด้านผู้แทนมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์กล่าวว่า ม.เกษตรฯ สนับสนุนรถไฟฟ้าสีน้ำตาล เต็มที่ ส่วนทางด่วนนั้น ก่อนตัดสินใจขอให้ สนข.คิดให้มากกว่านี้เพราะอาจไม่คุ้มค่าและไม่ได้แก้จราจรได้จริง แนวเส้นทางนี้รถติดในเวลาเร่งด่วน ปัญหาอยู่ที่ไฟแดงซึ่งทำสะพานข้ามแยกน่าจะเพียงพอ การมีทางด่วนจะทำให้เกิดปัญหาทางลงไม่ได้ เพราะข้างล่างติด ม.เกษตรฯ ค้านทางด่วนในเชิงคุณภาพชีวิต ทางด่วนอยู่ด้านบนก่อปัญหา ขนรถข้ามเมืองแต่คนที่อยู่ระหว่างทางรับภาระฝุ่นละอองอย่างหนัก
สำหรับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) จะเริ่มต้นจากแยกแคราย มุ่งหน้าไปทางทิศตะวันออกตามแนวถนนงามวงศ์วาน จุดตัดทางพิเศษศรีรัช แยกพงษ์เพชร แยกบางเขน แยกเกษตร ต่อเนื่องไปตามแนวถนนประเสริฐมนูกิจ ผ่านจุดตัดถนนลาดปลาเค้า แยกเสนา จุดตัดถนนสุคนธสวัสดิ์ จุดตัดทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) จุดตัดทางหลวง 350 จุดตัดถนนนวมินทร์ เลี้ยวขวาไปทางทิศใต้ ตามแนวถนนนวมินทร์ ผ่านแยกโพธิ์แก้ว แยกศรีบูรพา แยกแฮปปี้แลนด์ แยกบางกะปิ สิ้นสุดที่จุดตัดถนนพ่วงศิริและถนนรามคำแหง
ในส่วนของระบบทางด่วนจะเป็นการต่อขยายแนวระบบทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และส่วนต่อขยาย ไปยังถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก เชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัช-ถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันตกส่วนต่อขยายที่ทางแยกต่างระดับรัชวิภา โดยแนวเส้นทางแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ 1. ช่วงแนวทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ตอน N2 และส่วนต่อขยายไปยังถนนวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก ระยะทางประมาณ 12 กิโลเมตร และ 2. ช่วงทดแทน ตอน N1 แนวคลองบางบัว คลองบางเขน และเลียบขนานดอนเมืองโทลล์เวย์ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร