“หลู่เยว่” ในเครือซีทริป ยักษ์ใหญ่ท่องเที่ยวจีน เปิดตัวรุกธุรกิจโรงแรมในไทยเต็มพิกัด จัดเวทีประกาศความพร้อมเสริมทัพแบบมืออาชีพ ทั้งซื้อ-เช่า-แฟรนไชส์ ครบทุกมิติ ชูจุดแข็ง “บิ๊กดาต้า” เสิร์ฟทุกความต้องการของลูกค้า
เมื่อเร็วๆ นี้ ภายในงาน "โอกาสของอินเทอร์เน็ต+ธุรกิจโรงแรม" ซึ่งจัดโดยหลู่เยว่(LUYUE) บริษัทในเครือของซีทริป (Ctrip) ธุรกิจให้บริการด้านการท่องเที่ยวรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้จัดงาน "โอกาสของอินเทอร์เน็ต-ธุรกิจโรงแรม" โดยมี มร.เคน เฉา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ มร.สตีเฟน เซี่ยง ผู้ถือหุ้นใหญ่ ร่วมงาน พร้อมด้วยทีมพัฒนาธุรกิจต่างประเทศ มีนักธุรกิจและเจ้าของโรงแรมในไทยสนใจเข้าร่วมงานกว่า 50 ราย
มร.เคน เฉา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หลู่เยว่ กล่าวว่า ซีทริปก่อตั้งขึ้นในปี 1999 ดำเนินธุรกิจให้บริการด้านการท่องเที่ยว ซึ่งธุรกิจได้พัฒนาและเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2016 ได้จัดตั้ง หลู่เยว่ (LUYUE) บริษัทในเครือเพื่อดำเนินกิจการที่เกี่ยวข้องกับโรงแรมโดยเฉพาะ ซึ่งให้ความสำคัญต่อในตลาดโรงแรมต่างประเทศ ปัจจุบันมีโรงแรมในเครือทั้งหมด 25 แห่ง ในเกาหลีใต้ มาเลเซีย และไทย ซึ่งในไทยมีอยู่ 3 แห่ง คือ ริเวอร์ไซด์ ฟลอรัล อินน์ เชียงใหม่ (Riverside Floral Inn Chiang Mai) ฟลอรัล ทามาริน่า บีช เกาะสมุย (Floral Tamarina Beach Koh Samui) และฟลอรัล พูล วิลล่า เกาะสมุย (Floral Pool Villa Koh Samui)
"โรงแรมริเวอร์ไซด์ ฟลอรัล อินน์ เชียงใหม่ เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10พฤษภาคม 2560 มีอัตราการเข้าพักรายเดือน (Occupancy rate) เฉลี่ยสูงถึง 92% เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนที่กลุ่มหลู่เยว่จะเข้ามาดำเนินกิจการ ค่า ADR ตัวชี้วัดความสามารถในการทำกำไรอยู่ที่ 2.4 เท่า มีมูลค่าเพิ่มเฉลี่ย 260 หยวน โดยแผนทางธุรกิจของหลู่เยว่ ในการดำเนินกิจการโรงแรมมี 3 รูปแบบ คือ เช่าซื้อ การร่วมทุน และโรงแรมแฟรนไชส์" มร.เคนกล่าว
มร.เคนกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาไทยถึง 8.7 ล้านคน ซึ่งใช้บริการผ่านซีทริปถึง 5 ล้านคน ถือเป็นจุดแข็งที่ช่วยส่งเสริมการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยของหลู่เยว่ โดยเฉพาะในตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีน นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการยังสามารถแจ้งความต้องการและปัญหาได้ผ่านช่องทางวีแชต (WeChat) ซึ่งจะมีพนักงานคอยตอบคำถามและแก้ไขปัญหาในทันที
มร.สตีเฟน เซี่ยง ผู้ถือหุ้นใหญ่ของหลู่เยว่ กล่าวว่า หลู่เยว่มีจุดเด่นทางด้านข้อมูล (Big data) เป็นผู้เชี่ยวชาญในการจองโรงแรม การจองห้องพัก สามารถรับรองได้ว่าถ้าลูกค้าจองห้องพักผ่านซีทริป ด้วยข้อมูล Big data ทำให้สามารถเลือกสรรโรงแรมที่เหมาะสมกับลูกค้าได้มากที่สุด ทั้งนี้ ซีทริปยังเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตมานานหลายปี มีข้อมูลของลูกค้าจำนวนมากของซีทริปจะเป็นจุดแข็งที่ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของหลู่เยว่ ที่สามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด รวมไปถึงการบริหารจัดการ และการบริการที่เป็นมืออาชีพ
ภายในปี 2018 หลู่เยว่ตั้งเป้าเปิดโรงแรมในไทย 80 แห่ง ทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ 260 แห่ง รวมทั่วโลก 500 แห่ง ชูจุดเด่นของธุรกิจโรงแรมที่จะเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหลู่เยว่ด้วย ซึ่งผู้บริหารและพนักงานจะผ่านการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพจากมหาวิทยาลัยหลู่เยว่ก่อนจะส่งไปบริหารและทำงานในเครือข่ายต่างๆ ทั่วโลก
"อยากให้มั่นใจว่าไม่เพียงแต่ลูกค้าจากตลาดจีนเท่านั้น แต่เป็นลูกค้าทั่วโลก และโรงแรมที่เข้าร่วมกับเราจะได้เปรียบในเรื่องของต้นทุนด้วย เพราะหลู่เยว่มีซัปพลายเออร์อยู่ในมือทุกประเทศ ทำให้มั่นใจได้ว่าการจัดซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในโรงแรมจะไม่มีปัญหาด้านคุณภาพอย่างแน่นอน" มร.สตีเฟนกล่าว