“ไมย์เออร์” ชูโกลบอลแพลตฟอร์มออนไลน์

ผู้จัดการรายวัน 360 - “ไมย์เออร์” ปรับแผนรุกตลาดช่องทางออนไลน์ ชูโกลบอลแพลตฟอร์มเดียวใช้ทั่วโลก ดึงทีมงานจาก 6 ประเทศตลาดหลักร่วมวางระบบ มั่นใจปีนี้ตลาดรวมในไทยดีขึ้น โต 7% ส่วนบริษัทฯ ตั้งเป้าโต 20%

นายโจเซฟ เคซี โล กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องครัวจากอเมริกา เปิดเผยว่า บริษัทแม่ของไมเร็กซ์คือ ไมย์เออร์กรุ๊ป ได้ปรับกลยุทธ์ด้านการตลาดออนไลน์ใหม่ทั่วโลก โดยจะหันมาใช้แพลตฟอร์มเดียวกันทั่วโลก หรือโกลบอลแพลตฟอร์ม เพื่อความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพในการทำตลาด จากเดิมแต่ละประเทศจะทำแพลตฟอร์มของตัวเอง

โดยตั้งทีมงานขึ้นมาด้วยบุคลากรจาก 6 ประเทศวางกลยุทธ์และพัฒนาวางระบบแพลตฟอร์ม ประกอบด้วย อเมริกา อังกฤษ ออสเตรเลีย อินเดีย ฮ่องกง และไทย ซึ่งทั้ง 6 ประเทศนี้ถือเป็นตลาดกลยุทธ์ของไมย์เออร์ด้วย คาดว่าจะพัฒนาแพลตฟอร์มและพัฒนาวางระบบต่างๆ แล้วเสร็จภายในปีนี้ ส่วนแพลตฟอร์มเดิมในแต่ละประเทศที่ทำออนไลน์ผ่านมาร์เกตเพลซก็ยังทำต่อไป

ทั้งนี้ เดิมในประเทศไทยทำตลาดออนไลน์ผ่านเว็บของตัวเอง และจำหน่ายผ่านมาร์เกตเพลสหลายราย เช่น ชอปปี้ ลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีท เป็นต้น และออนไลน์ผ่านคู่ค้ารีเทลคือ เซ็นทรัลกรุ๊ป กับเดอะมอลกรุ๊ป ซึ่งสัดส่วนยอดขายออนไลน์ประมาณ 5% จากยอดขายรวม และตั้งเป้าหมายเติบโตทางด้านช่องทางออนไลน์ 15% หลังจากใช้โกลบอลแพลตฟอร์ม โดยใช้งบการตลาด 5%

ส่วนช่องทางออฟไลน์ที่เป็นรีเทล ปัจจุบันมีมากกว่า 600 จุดขาย ผ่านทางห้างใหญ่ๆ เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ และมีโชว์รูม 2 แห่ง คือที่โรงงานที่แหลมฉบัง และที่ออฟฟิศใหญ่ที่เพิ่งลงทุนไปประมาณ 5 ล้านบาทบนถนนศรีนครินทร์ เป็นการเช่าอาคารและโกดังสินค้า ซึ่งย้ายมาจากเดิมที่อยู่บางนา-ตราด โดยสัดส่วนยอดขายของบริษัทฯ มาจากออนไลน์ 5% และเติบโต 15% ส่วนอีก 95% มาจากออฟไลน์

นายโจเซฟกล่าวด้วยว่า ปีนี้ยังลงทุนอีก 100 กว่าล้านบาท ตามแผน 5 ปี ลงทุนปีละ 100 ล้านบาท (ปี 2560-2564) จะเน้นเครื่องจักรใหม่ระบบอัตโนมัติเพื่อลดแรงงานคน ล่าสุดบริษัทแม่ตั้งโรงงานที่อเมริกา โดยจะผลิตเพิ่มเติมในส่วนที่การผลิตจากเมืองไทยไม่เพียงพอและรองรับออเดอร์ของคู่ค้า โดยเฉพาะวอลมาร์ทที่มีนโยบายจะซื้อสินค้าที่ผลิตในอเมริกามาจำหน่ายมากขึ้น ด้วยงบกว่า 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วง 10 ปีข้างหน้า สอดคล้องกับนโยบายการลงทุนของนายโดนัลด์ ทรัมป์

ไทยเป็นฐานผลิตใหญ่ที่สุดจาก 3 ประเทศที่มีอยู่ คือ ไทย จีน อิตาลี โดยไทยส่งออก 90% ป้อนตลาดโลก 30 ประเทศ โดยมีตลาดอเมริกาใหญ่ที่สุดส่งไป 70%

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีสินค้าที่ทำตลาดในประเทศไทยขณะนี้ 4 แบรนด์หลัก คือ เพรสทีจ และไมย์เออร์ เป็นแบรนด์ระดับกลางถึงบน ราคา 500-1,500 บาท มีสัดส่วน 70% และอีก 2 แบรนด์ คือ อโนลอน กับ เซอคูลอน จับกลุ่มพรีเมียม ราคามากกว่า 1,500 บาทขึ้นไป สัดส่วนยอดขาย 30% จากรายได้รวม ขณะที่อีก 1 แบรนด์รองคือ ฟาร์เบอร์แวร์ เป็นตลาดเฉพาะมากๆ ขณะที่ไมย์เออร์กรุ๊ปมีมากกว่า 20 แบรนด์ ในอนาคตอาจจะเป็นไปได้ที่จะนำแบรนด์ใหม่เข้ามาทำตลาดหากมีความเหมาะสม

นายโจเซฟกล่าวว่า ยอดขายโดยรวมเมื่อปีที่แล้ว (2560) ในเอเชียส่วนใหญ่จะทรงๆ ตัวไม่ได้เติบโตมากนัก ประเทศไทยก็เช่นกันเติบโตหลักเดียว มีเพียงตลาดซีแอลเอ็มวีที่เพิ่งเปิดตลาดได้ 2 ปีที่โตมากสุด เพราะฐานตลาดยังเล็กอยู่ แต่ปี 2561 นี้มองว่าสถานการณ์ในไทยเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น ทั้งสภาพเศรษฐกิจรวม ค่าจีดีพีที่ดี กำลังซื้อฟื้นตัว การออกสินค้าใหม่ ตั้งเป้าแชร์เพิ่มเป็น 15% จากปีที่แล้วมีแชร์ 10% และรายได้โต 20%

สำหรับตลาดรวมเครื่องครัวในไทยมีมูลค่าประมาณ 8,000 ล้านบาท แบ่งเป็นกลุ่มตลาดระดับบน 20% และตลาดระดับกลางลงล่าง 80% ปีนี้คาดว่าตลาดรวมจะโต 7% มากกว่าปีที่แล้วที่โต 5%

บริษัท ไมเร็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าเครื่องครัวรายใหญ่อันดับต้นๆ ในประเทศไทย สินค้าเครื่องครัวหลากหลายตอบโจทย์การใช้งานทุกไลฟ์สไตล์แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งาน และดีไซน์ของแต่ละแบรนด์ มีทั้งเครื่องครัวเคลือบผิวลื่น เครื่องครัวสเตนเลส ปัจจุบันสินค้าเครื่องครัวในเครือไมย์เออร์ที่จัดจำหน่ายในประเทศไทยมีทั้งหมด 5 แบรนด์ คือ Anolon, Circulon, Meyer, Prestige และ Farberware แบรนด์เครื่องครัวคุณภาพสูงและยอดขายอันดับหนึ่งในอเมริกาที่มีมายาวนานกว่า 130 ปี เครื่องครัวแต่ละแบรนด์แตกต่างกันทั้งดีไซน์ และการใช้ประโยชน์ที่หลากหลาย ซึ่งคุณสมบัติมีรายละเอียดดังนี้

1. Anolon (อะโนลอน) แบรนด์เครื่องครัวคุณภาพสูง มีความคงทนสูง เป็นชุดเครื่องครัวอะลูมิเนียมฮาร์ดอะโนไดซ์ (Hard Anodized) เคลือบผิวลื่น (Non Stick) ที่มีคุณภาพกระจายความร้อนได้ดีและทั่วถึง เสริมฐานเครื่องครัวด้วยทองแดง ตอบโจทย์การใช้งาน ดีไซน์เรียบหรูและทันสมัย

2. Circulon (เซอร์คูลอน) แบรนด์เครื่องครัวอะลูมิเนียมฮาร์ดอะโนไดซ์ (Hard Anodized) เคลือบผิวลื่น (Non Stick) ที่มีคุณภาพ เครื่องครัวคุณภาพ โดดเด่นด้านดีไซน์พร้อมนวัตกรรม Hi-Low Wave Innovation เสริมฐานด้วยแผ่นสะตนเลสคุณภาพดีหนาเต็มแผ่น เรียกว่า Friction Bonded Base (ฟริกชัน บอนด์ เบส)

3. Meyer (ไมย์เออร์) แบรนด์เครื่องครัวคุณภาพ เน้นประโยชน์ใช้สอยในครัวเรือน มีความหลากหลายสามารถเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ผลิตจากอะลูมิเนียมอย่างหนา เคลือบผิวลื่นคุณภาพสูง เสริมฐานของเครื่องครัวด้วยแผ่นสเตนเลสคุณภาพหนาเต็มแผ่น Full cap base ซึ่งสามารถกระจายความร้อนได้ดีทั่วถึง

4. Prestige (เพรสทีจ) แบรนด์อุปกรณ์เครื่องครัวสเตนเลสครบครัน ได้รับความนิยมสูงสุดที่ประเทศอังกฤษ เป็นผลิตภัณฑ์เครื่องครัวคุณภาพสูง ผลิตจากสเตนเลสเกรดพิเศษคุณภาพสูง คงทน แข็งแรง ปลอดภัย ส่วนฐานของเครื่องครัวเสริมแผ่นอะลูมิเนียมหนาเพื่อนำและกระจายความร้อนให้ดี

5. Farberware (ฟาร์เบอร์แวร์) เครื่องครัวคุณภาพสูงมาตรฐานส่งออกอเมริกา และได้รับความนิยมสูงสุดในประเทศอเมริกาเช่นกัน ด้วยจุดเด่นในเรื่องการออกแบบที่ร่วมสมัย ทั้งในรูปแบบเครื่องครัวสเตนเลส และเครื่องครัวเคลือบผิวลื่นกันติด (non-stick)

สินค้าทั้ง 5 แบรนด์ในเครือไมย์เออร์ กรุ๊ป ซึ่งแต่ละแบรนด์เจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน และตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้จริง เน้นเรื่องคุณภาพของสินค้าเป็นหลัก ต่างกันชัดเจนคือดีไซน์ของแต่ละแบรนด์และสามารถตอบโจทย์สำหรับผู้ใช้งานไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไป