“เซเดอร์เร่” รุกตลาดต่างประเทศหนัก หวังโกยรายได้ต่างประเทศ 820 ล้านบาท ปี 2561 พร้อมทุ่มทุนกว่า 10 ล้านบาท ออกงานแสดงสินค้าใหญ่ 2 งาน “แจนยูเอรี่ เฟอร์นิเจอร์ โชว์ 2018” ในประเทศอังกฤษ และ” อินเด็กซ์ ดูไบ 2018” สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ คาดว่า ในอังกฤษจะมีตัวแทนจำหน่ายสินค้าเซเดอร์เร่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 70 ราย และดูไบมีพันธมิตรสนใจนำสินค้าเซเดอร์เร่ไปทำตลาดมากขึ้น ขณะที่ประเทศจีน เตรียมนำสินค้าเซเดอร์เร่ จำหน่ายในเว็บไซต์ “เถาเป่า” เว็บขายสินค้ารายใหญ่ของจีน และเปิดร้านค้าจำลองทางเอ็นเทอร์เน็ต “เวอร์โซ่ สโตร์” และขายสินค้าในรายการทีวี “ชอปปิ้ง ชาแนล” เพื่อสะดวกแก่การช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้า กระจายสินค้า และจัดส่งอย่างรวดเร็ว
นายนัยธาดา นันทน์วิธู กรรมการบริหาร บริษัท ทีมเฟอร์น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์หนังปรับนอน แบรนด์ เซเดอร์เร่ เปิดเผยว่า การทำตลาดต่างประเทศของเซเดอร์เร่ ยังต้องพึ่งพาตัวแทนจำหน่าย เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในประเทศออสเตรเลีย ตัวแทนจำหน่ายบางแห่ง สามารถปรับตัวทันการเปลี่ยนแปลงของตลาดโลก แต่มีบางแห่งปรับตัวไม่ทัน ดังนั้น เซเดอร์เร่ มีกลยุทธ์หลัก 3 วิธี เพื่อลดปัญหาการทำตลาดในประเทศออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ จึงมีแผนการสอนทำการตลาดสมัยใหม่ให้แก่ตัวแทนจำหน่าย เพื่อนำโซเชียลมีเดียมาใช้ในการทำธุรกิจ ซึ่งจะมีการสอน ทั้งภาคทฤษฎี และปฏิบัติ
นอกจากนี้ ยังส่งออนไลน์เทรนนิ่งไปให้ความรู้ในตัวสินค้า คาดว่าจะทำให้ตัวแทนจำหน่ายต่างๆมียอดขายเพิ่มขึ้น 10% หลังจากนั้นจะส่งเสริม และสนับสนุน ด้านการตกแต่งร้านให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น เพื่อให้ร้านค้าเกิดภาพลักษณ์ที่ดี และสามารถแข่งขันกับร้านเฟอร์นิเจอร์รายอื่นๆ เป็นอย่างดี และโน้มน้าวให้ตัวแทนจำหน่าย หันมาลงทุนเปิดร้านในรูปแบบ “เซเดอร์เร่ ไลฟ์สไตล์ ช้อป” ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายเก้าอี้หนังปรับนอน สินค้าไลฟ์ไสต์ที่ทำจากเครื่องหนัง ผสมผสานกับการขายกาแฟ โดยจะออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาดูงานที่ โชว์รูมเซเดอร์เร่ เมกาบางนา เพื่อเป็นการต่อยอดในการเปิดสาขาเซเดอร์เร่เต็มรูปแบบในแต่ละเมือง
ส่วนการทำตลาดในประเทศอังกฤษ เซเดอร์เร่มีแผนจะนำสินค้าไปจัดแสดงในงานประจำปี คือ งานแจนยูเอรี่ เฟอร์นิเจอร์ โชว์ 2018 ในวันที่ 21-24 มกราคม 2561 ณ เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ บนเนื้อที่ 260 ตร.ม. งบลงทุน 4.5 ล้านบาท ซึ่งสินค้าที่นำไปจัดแสดงเป็นสินค้าเหมาะกับผู้สูงอายุ เช่น เก้าอี้หนังปรับนอน โซฟาปรับนอน เก้าอี้สำนักงาน เป็นต้น คาดว่าจะมีตัวแทนจำหน่ายนำสินค้าเซเดอร์เร่ไปจำหน่าย ประมาณ 60-70 ราย และลูกค้าเก่านำสินค้าไปจำหน่ายเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สินค้าแบรนด์เซเดอร์เร่มีความแข็งแกร่ง รวมทั้งส่งเสริมให้ตัวแทนจำหน่ายของเซเดอร์เร่รู้จักการใช้โซเชียลมีเดียอย่างถูกวิธีในการทำธุรกิจเพื่อประหยัดงบประมาณ และมีประสิทธิภาพสูงสุด
ด้านกลุ่มประเทศความร่วมมืออ่าวอาหรับ Gulf Cooperation Council หรือ GCC เซเดอร์เร่ ได้เข้าไปปักหมุดทำการตลาดในเมืองดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศแรก และมีแผนใช้เมืองดูไบในการขยายธุรกิจ เพื่อเจาะเข้าไปยังกลุ่มประเทศ GCC ต่างๆ ทั้งนี้ เตรียมนำสินค้าจัดแสดงในงาน “อินเด็กซ์ดูไบ 2018” วันที่ 26-29 มีนาคม 2561 คาดว่าจะทำให้เซเดอร์เร่รู้จักกับพันธมิตรต่างๆ ง่ายขึ้น และบริษัทพันธมิตรสนใจนำสินค้าเซเดอร์เร่ไปทำการตลาดมากขึ้น
สำหรับกลุ่มประเทศในยุโรป เซเดอร์เร่จะเดินทางไปจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทที่ประเทศเดนมาร์ก เพราะเป็นประเทศต้นกำเนิดสินค้าแบรนด์เซเดอร์เร่ และเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตและขยายฐานไปยังกลุ่มประเทศใกล้เคียง และแถบยุโรปต่างๆ ง่ายขึ้น ทั้งนี้ กำลังเร่งสร้างคลังเก็บสินค้า หรือ แวร์เฮ้าส์ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายสินค้าไปจุดสำคัญๆ พร้อมทั้งเตรียมเปิดโชว์รูมที่อมาร์เกอร์ทร็อป (Amagertorb) ในเมืองโคเปนเฮเกน ซึ่งเป็นย่านชอปปิ้งหลักของเดนมาร์ก ทำเลดี มีสินค้าแบรนด์ดังๆจำนวนมาก ส่งผลให้สินค้าเซเดอร์เร่มีภาพลักษณ์ที่ดีตามมา และเป็นสากลมากขึ้น
“กลุ่มประเทศอาเซียน ตลาดยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศจีนเป็นประเทศที่ผู้ซื้อมีกำลังซื้อสูง และมีนักธุรกิจหลายคนสนใจเข้าไปทำธุรกิจ เซเดอร์เร่จึงมีแผนที่จะนำสินค้าเข้าไปในกลุ่มบริษัทสถาปนิกใหญ่ๆ ในจีน และร่วมโปรเจกต์กันเพื่อสินค้าของเซเดอร์เร่จะได้ถูกนำมาใช้ในธุรกิจมากขึ้น นอกจากนี้ยังจะนำดาราดังๆ ในประเทศจีนมาเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าเพื่อส่งเสริมการขาย รวมทั้งขายสินค้าในรูปแบบอีคอมเมิร์ซในร้านค้าจำลองทางอินเทอร์เน็ต หรือเวอร์โซ่ สโตร์ และนำสินค้าเซเดอร์เร่ จำหน่ายในเว็บไซต์ “เถาเป่า” เว็บขายสินค้ารายใหญ่ของจีน เพื่อสะดวกแก่การชอปปิ้งเลือกซื้อสินค้า พร้อมทั้งนำสินค้าจำหน่ายในรายการทีวี “ชอปปิ้ง ชาแนล” เพราะสร้างกระแสตอบรับได้ดี และสร้างชื่อเสียงให้แก่แบรนด์เซเดอร์เร่อย่างง่ายดาย กระจายสินค้าและจัดส่งอย่างรวดเร็ว หากสำเร็จเชื่อมั่นว่าตลาดในจีนจะเติบโตอีก 1 เท่าตัว” นัยธาดากล่าว