สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 เดินหน้าส่งรายการโดนใจแฟนๆ รับปี 2561 พร้อมปรับเวลาการออกอากาศใหม่ อัดแน่นไปด้วยข่าวสาร สาระ ความบันเทิง และสอดแทรกเนื้อหาการส่งเสริมจริยธรรม คุณธรรม ปลูกฝังสร้างจิตสำนึกแก่สังคมในทุกด้าน ผ่านช่วงเวลาต่างๆ อย่างครบเครื่องครบรส ทางช่อง 7 HD กด 35
นายสมเกียรติ เจริญภิญโญยิ่ง กรรมการรองกรรมการผู้จัดการ และรักษาการกรรมการผู้จัดการ เผยว่า “หลังจากเดินหน้ายุติการแพร่ภาพในระบบแอนะล็อกในเฟส 2 เมื่อ 31 ธันวาคม ปีที่ผ่านมา ในปี 2561 นี้ช่อง 7 สีได้ปรับผังรายการ และนำคอนเทนต์ใหม่ๆ ลงจอต้อนรับศักราชใหม่ อัดแน่นทั้งคอนเทนต์ความบันเทิง-วาไรตีสุดฮอตของไทยและต่างประเทศ พร้อมภาพยนตร์เรื่องยาว ภาพยนตร์ชุดจากฝั่งเอเชีย และฝั่งตะวันตกมากันครบเครื่อง เพิ่มความเข้มข้นให้รายการข่าว ชวนเติมเต็มอาหารสมองด้วยสารคดีคุณภาพมากมาย ขาดไม่ได้กับกีฬาเด็ดโดนใจ สอดรับไลฟ์สไตล์กลุ่มผู้ชมกว้างขึ้น"
"สำหรับปีนี้ผู้ชมช่อง 7 สีจะได้รับชมรายการบันเทิงทุกวัน โดยในช่วงเช้าวันจันทร์-ศุกร์ พบกับรายการ สนามข่าวบันเทิง เวลา 09.40 น. ต่อด้วย รายการเที่ยงบันเทิง ในเวลา 12.45 น. ส่วนในช่วงเย็นพบกับรายการ เจาะประเด็นบันเทิง เวลา 16.00 น. สำหรับวันเสาร์-อาทิตย์ พบกับรายการ สนามข่าว เสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.00-06.40 น.
นอกจากนี้ รายการดาวเด่นของปีนี้ ยังมีรายการที่ประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ที่ปีนี้จะสามารถรับชมได้ทางหน้าจอ ช่อง 7 HD กด 35 ได้แก่ รายการ สปอตไลท์ ออน ทีวี (SPOTLIGHT On TV) ซึ่งเป็นการชวนดาราคนดังมาทำความรู้จักผ่านกิจกรรมสุดฮิปแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ทุกวันพุธ เวลา 23.10 น. และไปสนุกกับรายการสดๆ บทไม่มี On TV เป็นรายการที่จะพาคุณผู้ชมไปค้นความลับ จับตัวตนที่น่ารักของคนในวงการ นำเสนอแบบกึ่งเรียลิตี ถ่ายทำกันสดๆ แบบ un cut แบบไม่มีบทให้รู้ตัวมาก่อน เป็นประจำทุกวันศุกร์ เวลา 23.10 น.
“รายการใหม่แกะกล่องปีนี้ ได้แก่ รายการเฮ มันโชว์ (Golden Tambourine) ซึ่งเป็นรายการลิขสิทธิ์นำเข้าจากเกาหลี การแข่งขันร้องเพลงระหว่างทีมซูเปอร์สตาร์ กับทีมพิธีกร T4 ประกอบด้วย เอกกี้-เอกชัย, ฟรอยด์-ณัฏฐพงษ์, ซานิ-นิภาภรณ์ และ เป็กกี้ ศรีธัญญา ที่จะมาร่วมเติมความฮาสุดขั้วในรูปแบบการแข่งขันที่รั่วสุดขีด และการกลับมาอีกครั้งของรายการแข่งขันทำอาหารที่โด่งดังที่สุดในประเทศไทย ที่เปิดโอกาสและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนไทยทุกคนที่มีฝันจะเป็นเชฟมืออาชีพได้เข้ามาแข่งขันกันในรายการนี้ ในมาสเตอร์เชฟ ประเทศไทย ซีซั่น 2 (Master Chef ThailandSeason 2) ซึ่งหลังจากซีซั่นแรกประสบความสำเร็จอย่างมาก เหล่าคอมเมนเตเตอร์สายโหดและพิธีกรที่คุ้นเคยจะกลับมาครบทีม เตรียมความพร้อมมาเรียกความสนุกต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เร็วๆ นี้”
สำหรับคอภาพยนตร์ ปีนี้จะได้จุใจไปกับทัพภาพยนตร์ชื่อดังทั้งไทยและต่างประเทศนำมาให้ชมอย่างคับคั่ง ทั้งจากรายการบิ๊กซีนีมา ทุกวันเสาร์ เวลา 22.30 น. รายการเวิลด์ซีนีมา ทุกวันศุกร์ เวลา 01.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 02.20 น. ส่วนคอซีรีส์เรื่องดัง เราประเดิมเวลาใหม่ทุกวันจันทร์ เวลา 23.10 น. ด้วย สงครามริษยา (The Lady In Dignity) ซีรีส์ที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่อง jTBC แซง Strong Woman Do Bong Soon ซึ่งเป็นการประชันบทบาทกันอย่างเข้มข้นของนักแสดงชื่อดังระดับเอเชีย คิม ฮีชอน ปะทะ คิม ซอนอา ส่วนแฟนๆ ภาพยนตร์จีนชุด มังกรหยกศึกอภินิหารเจ้าอินทรี ก็ยังออกอากาศให้ชมต่อเนื่อง ทุกวันจันทร์-พุธ เวลา 09.50 น.
ด้านรายการสำหรับเยาวชน ปีนี้ช่อง 7 สีเอาใจแฟนรายการดิสนีย์คลับ นำเหล่าตัวการ์ตูนยอดฮิต และเหล่าพิธีกร โบกัส-ธีระธันญ์, พีพี-พีรพล, มิว-นันท์นภัส, เจ็มส์ จิรายุ และแน้น-มนัชนันท์ ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาพบกับน้องๆ ทุกวันเสาร์ เวลา 06.55-08.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 06.55-07.25 น.
นอกจากนี้ รายการพิเศษของทางสถานียังคงมีมาอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การประกวด THAI SUPERMODEL CONTEST 2018 (ไทยซูเปอร์โมเดลคอนเทสต์ 2018) เวทีการประกวดเพื่อค้นหาสุดยอดนางแบบบนรันเวย์ระดับประเทศ เปิดรับสมัครในวันที่ 20 มกราคม 2561 ซึ่งแฟนรายการสามารถติดตามการตัดสินรอบสุดท้ายได้ในวันที่ 30 มีนาคม 2561 และคอยพบกับการกลับมาอีกครั้งของรายการคอนเสิร์ตยอดฮิต รายการ 7 สีคอนเสิร์ต ออนทัวร์ พร้อมมาสร้างความสุขผ่านเสียงเพลงจากคนดังทั่วประเทศ เร็วๆ นี้