ผู้จัดการรายวัน 360 - “แมคโดนัลด์” เปิดแผนรุกปีจอ ทุ่มงบรวม 1,000 ล้านบาทผุดเพิ่ม 20 สาขา เน้นไดรฟ์ทรู พร้อมงัดนวัตกรรมมาบริการต่อเนื่อง สร้างความแข็งแกร่งรับเทรนด์เทคโนโลยี ประเดิมปีจอ ผนึก “โอมิเซะ” พัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์
นายเฮสเตอร์ ชิว ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แมคไทย จำกัด ผู้บริหารธุรกิจร้าน “แมคโดนัลด์” เปิดเผยถึงแผนธุรกิจปี 2561 ว่า ได้วางงบประมาณการลงทุนไว้รวม 800-1,000 ล้านบาท ที่จะนำทั้งการขยายสาขาใหม่ การปรับปรุงสาขาเดิม และการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ มาใช้
ล่าสุดบริษัทฯ ได้จับมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับทางโอมิเซะ (Omise) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบรับชำระเงินออนไลน์ เพื่อพัฒนาระบบชำระเงินออนไลน์สำหรับการสั่งซื้ออาหารผ่านทางเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจโดยเฉพาะกรณีที่ลูกค้าสั่งซื้ออาหารทางออนไลน์ ซึ่งพบว่ามีอัตราเพิ่มขึ้น 10-15% ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายที่จะลดสัดส่วนลูกค้าที่ชำระเงินสด จากปัจจุบันมีประมาณ 60-65% ให้เหลือ 50% ในช่วงกลางปี 2561 นี้
บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาระบบใหม่มานำเสนอรองรับการบริการลูกค้า ซึ่งแมคโดนัลด์ถือเป็นรายแรกที่ได้ติดตั้งเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ และเมนูบอร์ดแบบวิดีโอวอลล์ระบบดิจิตอลที่สาขา ซึ่งขณะนี้ได้ติดตั้งไปแล้ว 79 สาขา และจะเพิ่มอีก 60 สาขาภายในปีนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกรวดเร็วให้แก่ลูกค้า รวมทั้งเป็นการสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งในธุรกิจอาหารบริการด่วนที่มีการแข่งขันสูงมาก
รวมไปถึงการพัฒนาและปรับปรุงเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ ปัจจุบันมีผู้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่ของร้านแมคโดนัลด์แล้วประมาณ 2 แสนดาวน์โหลด คาดว่าสิ้นปี 2561 นี้จะเพิ่มเป็น 5 แสนยอดดาวน์โหลด ซึ่งเป็นแอปฯ เพื่อให้บริการการรับชำระเงินแบบไร้เงินสดหลากหลายรูปแบบ ล่าสุดได้ขยายแพลตฟอร์มการชำระเงินแบบดิจิตอล โดยการร่วมมือกับพันธมิตรหลายราย เช่น เอ็มเปย์, บลูเพย์, อาลีเพย์ และทรูมันนี่วอลเล็ท เพื่อให้บริการรับชำระเงินค่าอาหารในร้านแมคโดนัลด์ผ่านคิวอาร์โค้ด ซึ่งแมคโนนัลด์ถือเป็นรายแรกในธุรกิจอาหารจานด่วนที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ปี 2554 ที่ให้บริการรับชำระแบบไร้เงินสด ทั้งบัตรเครดิตวีซ่าเพย์เวฟ, บัตรแรบบิท และแรบบิท ไลน์ เพย์
ส่วนการขยายสาขาปีนี้ตั้งเป้าหมายเปิดอีก 15-20 สาขา ทุกรูปแบบร้านที่มีอยู่ อย่างไรก็ตามจะเน้นร้านสาขารูปแบบไดรฟ์ทรูมากที่สุด 50% มองทำเลสาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล และหัวเมืองหลักในจังหวัดใหม่ๆ รองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ จากปัจจุบันมีอยู่แล้ว 252 สาขา แยกเป็นสาขาไดรฟ์ทรูประมาณ 82 สาขา และสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง 79 สาขา
จากแผนธุรกิจปีนี้ที่เพิ่มสาขาใหม่ เพิ่มนวัตกรรมต่างๆ คาดว่าจะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก เนื่องจากปีที่แล้วกำลังซื้อผู้บริโภคน้อยลง กระทบต่อธุรกิจร้านอาหารบ้างจึงเติบโตแค่หลักเดียว แต่บริษัทฯ ยืนยันว่ายังไม่มีการปรับราคาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วมาถึงปีนี้