xs
xsm
sm
md
lg

“สมคิด” ลั่นปี 61 พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย ดัน ศก.ท้องถิ่นเพิ่มรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“สมคิด” ลั่นปี 2561 รัฐบาลพร้อมพลิกโฉม ศก.ไทยมุ่งดูแลเศรษฐกิจท้องถิ่นลดเหลื่อมล้ำ หลังจีดีพีไทยโตต่อเนื่องแล้วเพื่อให้เกิดภาวะสมดุลทาง ศก.อย่างแท้จริง ก.เกษตรฯ พร้อมพลิกบทบาทปฏิรูปเกษตรกรรมกำหนดโซนนิ่ง จัดทำ Big Data ก.เกษตรทำการตลาด ควบคู่การพัฒนาสินค้าชุมชนเชื่อมท่องเที่ยวและก้าวสู่โลกดิจิตอล ชี้ไม่เปลี่ยนวันนี้ไทยตกขอบเวทีโลกแน่

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แสดงปาฐกถาพิเศษหัวข้อ” พลิกโฉมเศรษฐกิจไทย สู่ยุคดิจิตอล” จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ปี 2561 ภารกิจที่รัฐบาลจะโฟกัสให้มากขึ้นคือการสร้างเศรษฐกิจฐานรากที่จะลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ของคนไทยโดยเฉพาะการดูแลราคาสินค้าเกษตรเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งอย่างแท้จริงเพราะเศรษฐกิจเปรียบเสมือนรถไฟรางคู่ที่ต้องที่จะต้องมุ่งพัฒนาทั้งเศรษฐศาสตร์สมัยใหม่ Modern Economy และ เศรษฐกิจท้องถิ่น หรือLocal Economy ที่จะต้องมาบรรจบกันแต่ที่ผ่านมาไทยละเลยในส่วนของ Local Economy มาค่อนข้างมากจึงทำให้เศรษฐกิจไม่สมดุล

“เราดูแล Modern Economy มาพอสมควรแล้วที่มุ่งเน้นการลงทุนและการส่งออกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจนทำให้สัดส่วนการส่งออกต่อจีดีพีสูงกว่า 60% ซึ่งไม่สมดุล และจีดีพีไตรมาส 4 ปลายปี 60 คาดการณ์ว่าจะโตระดับ 4.5%ก็จะทำให้ทั้งปี 2560 ก็จะโตได้ระดับ 4% แต่จากนั้นก็จะโตได้ระดับ 5% ซึ่งรัฐบาลนี้เข้ามาทำหน้าที่เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจทรุดเราทำเศรษฐกิจโตมาได้ระดับหนึ่งแล้ว และจุดนี้ก็พอดีที่ไทยจะไปสู่การเลือกตั้งเราก็จะต้องใช้เวลาที่เหลือปฏิรูปเพราะถ้าทำได้ดีก็เหมือนหว่านเมล็ดพืชรอให้รัฐบาลใหม่สานต่อแต่ถ้าไม่ทำไทยจะตกเวทีทันที เราจึงรอไม่ได้ ซึ่ง 2 ปีแรกเราก็เหมือนมาจูนเพื่อซ่อมรถต่อไปเราจะเปลียนรถก็ต้องปฏิรูป” นายสมคิดกล่าว

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยตลอดเวลาที่ไม่สมดุลทำให้ไทยเป็นเมืองสองนครา คือ มีเมืองทันสมัย กับเมืองล้าสมัย ดังนั้น ปี 2561 จึงต้องโฟกัสให้เชื่อมโยงกันเพื่อยกระดับความเป็นอยู่ด้วยการเน้นเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยหลังจากช่วยให้ประชาชนมีรายได้จุนเจือตนเองจากบัตรคนจน แล้วก็จะต้องปฏิรูปอาชีพเกษตรกรรมอย่างจริงจังที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะยกเครื่องเกษตรกรรมของไทยโดยร่วมกับหน่วยงานทั้งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ต้องกำหนดพื้นที่ว่าจังหวัดใดเหมาะสมกับพืชชนิดใดและจัดหาพันธุ์พืชที่เหมาะสม กระทรวงพาณิชย์จะเน้นในเรื่องของการตาด และร่วมกันจัดทำ Big Data เพื่อที่จะทำให้ทราบถึงปริมาณผลผลิตในอนาคตเพื่อไม่ให้เกิดภาวะล้นตลาดจนที่สุดนำไปสู่ระบบการจำนำซึ่งไม่ต้องการเช่นนั้น

นอกจากนี้จะต้องพัฒนาสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยว และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเช่น กรมทางหลวงจะต้องสร้างถนนเมืองรองไปไม่ใช่กระจุกแต่เมืองหลักเช่นปัจจุบัน ขณะเดียวกัน กระทรวงมหาดไทยก็จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนโดยล่าสุดนายกฯกำลังจะขอความร่วมมือให้ลงไประดับจังหวัดว่าจะทำอะไรในการพัฒนาที่เป็นการเอากล้องไปโฟกัสให้เห็นชัดๆ

“รัฐจะทำงบประมาณกลางปีว่าด้วยการยกระดับการเกษตรและโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะกระจายไปยังเมืองรองที่จำเป็นจะต้องร่วมมือกับตามแนวทางประชารัฐเพื่อให้ใช้ได้ในปีนี้เราจะพลิกให้คนที่ยากจนกลายเป็นทรัพย์สินที่มีค่าให้ได้ ขณะเดียวกัน กระทรวงเศรษฐกิจก็ต้องโชว์ ครม.ว่าจะทำอะไรบ้างเอาให้เห็นไปเลยเพื่อนำร่องกระทรวงอื่นๆ และจะร่วมถึงรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้องด้วย” นายสมคิดกล่าว

สำหรับภาคธุรกิจเมื่อผู้บริโภคเปลี่ยน การใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไปเพราะเทคโนโลยีใหม่ๆ ธุรกิจก็จำเป็นต้องเปลี่ยนด้วย ดังนั้น นโยบายรัฐจะมุ่งส่งเสริมการเปลี่ยนเอสเอ็มอีไปสู่ดิจิทัล มีการเชื่อมโยงด้วยการพัฒนาไปสู่ IoT (Internet of Things) โดยปีนี้จะต้องโหมพัฒนาระบบค้าขายที่จะต่อยอดจากร้านธงฟ้าที่จะทำให้มีการค้าขายผ่านระบบอีคอมเมิร์ซให้มากขึ้นเพื่อการจำหน่ายสินค้าชุมชนโดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งรัฐและเอกชนช่วยเหลือร่วมกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น