xs
xsm
sm
md
lg

เมล์ NGV อลเวง “รฟม.” ไม่รออัยการ จ่อฟ้องแพ่ง “เบสท์รินฯ” เร่งย้ายรถ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


รฟม. เตรียมยื่นฟ้องแพ่ง “เบสท์รินฯ” ย้ายรถ NGV ออกจากศูนย์ซ่อมพระราม 9 โดยด่วน หลังประเมิน ล่าช้า เลยกำหนดส่งมอบพื้นที่ กระทบก่อสร้างเดปโป้ สายสีส้ม ต้องปรับแผนก่อสร้างใหม่ ให้กระทบน้อยที่สุด  

วันที่ 18 ธ.ค. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้เรียกผู้บริหาร การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ประชุมถึงกรณีการที่ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ได้นำรถยนต์โดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 83 คัน เข้ามาจอดในพื้นที่ของ รฟม. ซึ่งจะต้องส่งมอบให้ผู้รับเหมาก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง (เดปโป้) รถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตะวันออก) ช่วง ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย - มีนบุรี (สุวินทวงศ์)
          โดย นายฤทธิกา สุภารัตน์ รองผู้ว่าการ (บริหาร) รักษาการแทนผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้การก่อสร้างสายสีส้ม เลยกำหนดที่ต้องส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาแล้ว โดยที่ผ่านมา ได้มีหารือร่วมกันทั้งระหว่าง รฟม. กับ ขสมก. และหารือ 3 ฝ่ายร่วมกับ บริษัท เบสท์รินฯ ด้วย แต่บริษัท เบสท์รินฯ ยังไม่นำรถออกจากพื้นที่ แม้ล่าสุด รฟม. ส่งเรื่องถึงอัยการให้ดำเนินการฟ้องร้องให้แล้ว

ทั้งนี้ ในส่วนของอัยการมีกระบวนการดำเนินการที่อาจจะต้องใช้เวลา ดังนั้น ได้มีการพิจารณาอีกทางเลือกหนึ่ง คือ รฟม. ดำเนินการฟ้องร้องเอง เพราะถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เนื่องจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าได้เดินหน้าไปแล้ว การที่ รฟม. ฟ้องร้องเองอาจจะรวดเร็วกว่า โดยฝ่ายกฎหมาย รฟม. จะต้องเตรียมเรื่องสำหรับการฟ้องแพ่ง เพื่อขอให้เบสท์รินฯ นำรถออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุด โดยคาดว่าจะยื่นคำร้องไปที่ศาลภายในเดือน ธ.ค. นี้  

โดยก่อนหน้านี้ ขสมก. ได้ขอให้มีคำสั่งไต่สวนหรือมีคำสั่งให้บริษัท เบสท์รินฯ ย้ายรถออกจาก รฟม. แต่ยังไม่คืบหน้า ซึ่งการย้ายรถไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากรถเมล์ NGV ดังกล่าวเป็นรถชานต่ำ ที่พื้นรถค่อนข้างต่ำ ไม่สามารถนำรถยกมาลากได้ การย้ายจะต้องใช้กุญแจสตาร์ทขับออกไปอย่างเดียว ซึ่งกุญแจน่าจะอยู่ที่เบสท์รินฯ ซึ่งหากย้ายออกไปได้ทั้ง ขสมก. และ เบสท์รินฯ สามารถหาพื้นที่จอดได้เอง” นายฤทธิกา กล่าว
          อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา รฟม. ได้แก้ปัญหาในการใช้พื้นที่ดังกล่าว โดยให้ผู้รับเหมาไปใช้พื้นที่ก่อสร้างในจุดอื่นๆ ไปก่อน แต่ขณะนี้ ผู้รับเหมาต้องใช้พื้นที่แล้ว ขณะที่ภาพรวมของการก่อสร้างยังไม่ถือว่าล่าช้า เพราะมีการปรับแผนเพื่อให้สามารถดำเนินการก่อสร้างไปได้ โดย รฟม. ที่ปรึกษา และผู้รับเหมา ร่วมกันพิจารณา แต่หากล่าช้าไปมากกว่านี้ อาจจะกระทบต่อการก่อสร้างหรือผู้รับเหมามีความเสียหาย มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ซึ่งรฟม.จะต้องพิสูจน์อีก
          สำหรับบริเวณดังกล่าวเป็นของ สัญญาที่ 5 กลุ่ม CKST JOINT VENTURE เป็นผู้รับจ้างงานก่อสร้างอาคารศูนย์ซ่อมบำรุงและอาคารจอดแล้วจรบริเวณสถานีบ้านม้า จอดรถได้ประมาณ 1,200 คัน วงเงิน 4,831.24 ล้านบาท

รายงานข่าวแจ้งว่า ตามกำหนดต้องส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2560 ซึ่ง รฟม. ได้ขีดเส้นให้ ขสมก. ย้ายรถยนต์โดยสาร NGV ออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 12 ตุลาคม 2560 ซึ่งการส่งมอบพื้นที่ให้ผู้รับเหมาก่อสร้างล่าช้า จะมีค่าเสียหายประมาณ เดือนละ 5 ล้านบาท ซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้น รฟม. อาจจะต้องเรียกเก็บจาก ขสมก.
กำลังโหลดความคิดเห็น