ไทยแอร์เอเชียมั่นใจ Q4 ผลประกอบการดีมาก คาดปี 60 กำไรใกล้เคียงปี 59 ยอมรับราคาน้ำมันขึ้น 20% ทำต้นทุนเพิ่มบ้าง ขณะที่ปี 61 รับเครื่องบินใหม่ 5 ลำ ดันรายได้โต 17% เดินหน้าเปิดเส้นทางบินข้ามภาคเพิ่ม ชี้คู่แข่งน้อย ช่วยเพิ่มรายได้ ลั่นพร้อมบินไปทุกจังหวัดเพื่อหนุนท่องเที่ยวกระจายรายได้ ขอรัฐพัฒนาสนามบินรองรับให้พร้อม เล็งเปิดบินอินเดียเพิ่ม 2-3 เมือง ส่งท้ายปี เตรียมเปิดบิน ”ดอนเมือง-ระนอง” เริ่มต้น 590 บาท จองตั๋วได้แล้ว เริ่มบิน 16 ก.พ. 61
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยแอร์เอเชีย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2560 คาดว่าจะอยู่ระดับที่ดี กำไรสุทธิใกล้เคียงกับปี 2559 โดย 3 ไตรมาสแรกมีกำไรและในไตรมาส 4/60 ค่อนข้างดีมาก จำนวนผู้โดยสารทั้งปีที่19.7 ล้านคนสูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ 19.5 ล้านคน อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) ที่ 86% สูงกว่าที่ตั้งเป้าไว้ 84% ขณะที่ราคาน้ำมันปี 2560 ปรับเพิ่มขึ้นจากปีก่อนประมาณ 20% โดยมีราคาเฉลี่ยที่ 65 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ทำให้มีต้นทุนเพิ่ม ซึ่งได้ทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมัน (hedging) ไว้ที่ประมาณ 70% ขณะที่ปี 2561 ได้ hedging ไว้ประมาณ 20% โดยจะขอประเมินความเหมาะสมก่อนที่จะทำเพิ่ม ซึ่งคาดว่าราคาน้ำมันของปี 2561 จะไม่เพิ่มสูงมากนัก อาจจะเพิ่มจากปี 2560 ประมาณ 1-2 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งน้ำมันคิดเป็นต้นทุนในการดำเนินงานทั้งหมดประมาณ 30%
อนึ่ง สิ้นสุดปี 2560 มีเครื่องบินจำนวน 56 ลำ ให้บริการกว่า 75 เส้นทาง (ในประเทศ 35 เส้นทาง ระหว่างประเทศ 40 เส้นทาง) รวม 404 เที่ยวบินต่อวัน โดยเป็นภายในประเทศ240 เที่ยวบิน ปี 2561 ตั้งเป้า Cabin Factorที่ 84% ผู้โดยสาร 22 ล้านคน สำหรับเป้าหมายในปี 2561 จะรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ 320 จำนวน 7 ลำ จะเพิ่มจำนวนที่นั่ง (Capacity) อีก 17% โดยครึ่งหนึ่งรองรับในเส้นทางในประเทศ ซึ่งจะเปิดเส้นทางบินข้ามภาคมากขึ้น เนื่องจากยังเหลืออีกหลายจังหวัดที่มีศักยภาพ รวมถึงเปิดเส้นทางในกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา,ลาว, พม่า และเวียดนาม) และอินเดีย ส่วนรายได้ประเมินว่าจะเติบโตที่ 17%
***เปิดบิน “ดอนเมือง-ระนอง” ราคาเริ่มต้น 590 บาท เริ่มบิน 16 ก.พ. 61
นายธรรศพลฐ์กล่าวว่า บริษัทได้เปิดบินตรงเส้นทาง “ดอนเมือง-ระนอง” ทุกวัน ราคาเริ่มต้น 590 บาทต่อเที่ยว สำรองที่นั่งตั้งแต่วันที่ 12 ธ.ค. 60 เริ่มบินวันที่ 16 ก.พ. 61-31 ม.ค. 2562 เป็นเส้นทางบินภายในประเทศลำดับที่ 35 ของไทยแอร์เอเชีย ซึ่งระนองเป็นจังหวัดฝั่งทะเลอันดามัน เป็นเมืองที่มีออนเซ็นตามธรรมชาติ จนได้รับการบรรจุให้เป็นเส้นทางแนะนำในแคมเปญ “เมืองต้องห้ามพลาด Plus” ของ ททท. มีโอกาสเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยว จำนวนเรือท่องเที่ยว โรงแรม
ทั้งนี้ ไทยแอร์เอเชียพร้อมเปิดบินในจังหวัดอื่นๆ เพิ่ม หากสนามบิน สถานที่ท่องเที่ยวมีความพร้อม เพื่อกระจายการท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของประเทศไปทั่วประเทศ โดยมองว่าจังหวัดที่น่าสนใจ คือ แม่สอด แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ มีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจ แต่สนามบินยังไม่พร้อมรองรับ ซึ่งภาครัฐควรเร่งพัฒนาศักยภาพ
ปัจจุบันเส้นทางในประเทศของบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดมากที่สุด 30.5% เมื่อเทียบกับทุกสายการบิน โดยมีสัดส่วนในการบินข้ามภาคประมาณ 75-80% จาก Hub 5 แห่ง ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ กระบี่ และอู่ตะเภา การบินเป็นโครงข่ายซึ่งมีข้อดี คือ ไม่มีคู่แข่ง ทำรายได้ได้ดี การขนส่งสินค้า (คาร์โก้) ดีเพราะลดระยะเวลามากกว่าขนส่งทางถนน ซึ่งปี 2561จะเปิดเส้นทางข้ามภาคเพิ่ม
ส่วนเส้นทางระหว่างประเทศ จะเปิดจุดบินในอินเดีย 2-3 เมืองจากปัจจุบันมี 7 เมือง ส่วนในกลุ่ม CLMV มองที่พุกาม สีหนุวิลล์ ส่วนในอาเซียน มองที่เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนในประเทศ เตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ที่ชุมพร และหัวหิน
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่เปิดจุดบินใหม่เพิ่มในจีน แต่จะเพิ่มความถี่ในเส้นทางเดิม โดยปัจจุบันมีจุดบินไปจีน 14 เมือง 22 เส้นทางบิน โดยมีรายได้จากเส้นทางบินในจีนถึง 30% จึงไม่ต้องการให้เกิดความเสี่ยงหากเศรษฐกิจจีนมีปัญหา ขณะที่รายได้จากเส้นทางกลุ่มประเทศ CLMV อยู่ที่ 10% และเส้นทางในอาเซียน 10% อินเดีย 2-3% คาดใน 4-5 ปีนี้จะเพิ่มเป็น 15%,15% และ 10% ตามลำดับ ส่วนที่เหลือเป็นรายได้จากเส้นทางในประเทศ 50-60%
สำหรับแผน 3 ปีข้างหน้า จะเพิ่มจำนวนเครื่องบินเฉลี่ยปีละ 5 ลำ เป้าหมายฝูงบินที่ 80 ลำ และอยู่ระหว่างสั่งเครื่องบินแอร์บัส เอ 321 ที่มีจำนวนที่นั่ง 240 ที่นั่ง เข้ามาในช่วง 2 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นเครื่องบินที่ใหญ่กว่าแอร์บัส เอ 320 ที่มีจำนวน 180 ที่นั่ง เป้าหมายเพื่อนำไปบินในเส้นทางที่ไม่สามารถเพิ่มความถี่ได้ เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ ฮ่องกง สิงคโปร์
“ตลาดของโลว์คอสต์ในปีหน้าเชื่อว่าจะยังมีการแข่งขันแต่ไม่รุนแรงมากเหมือนปี 59 โดยจะทำให้สายการบินสามารถทำราคาขายได้เพิ่มขึ้นราว 2-3% และมองว่าปี 2561 จะไม่มีสายการบินรายใหม่เกิดขึ้น แต่อาจจะเห็นบางสายการบินที่ไปไม่ไหว หรืออาจต้องปรับปรุง หรือผ่าตัดครั้งใหญ่ เช่น ลดเที่ยวบิน ยกเลิกบางเส้นทาง” นายธรรศพลฐ์กล่าว