ผู้จัดการรายวัน 360 - “อีฟ โรเช” เปิดเกมรุกแผน 5 ปี ทุ่ม 300 ล้านบาทปูพรมให้ครบ 150 สาขา ขยายฐานธุรกิจ รุกออนไลน์-กลุ่มคนรุ่นใหม่ ยันไทยตลาดสำคัญ บริษัทแม่ชูไทยหัวหอกเปิดแฟลกชิปสโตร์ คอนเซ็ปต์ใหม่แห่งแรกในเอเชีย
นายเอียน ลองเด้น กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีฟ โรเช (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารร้านสุขภาพความงาม อีฟ โรเช จากประเทศฝรั่งเศส เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนธุรกิจ 5 ปีจากนี้ (2561-2565) จะใช้งบลงทุนรวม 300 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาร้านอีฟ โรเช ในไทยให้ครบ 150 สาขา และจะมีอัตราการเติบโตรายได้เฉลี่ย 10% ต่อปีต่อเนื่อง จากสิ้นปีนี้ (2560) ที่คาดว่าจะมีร้านเปิดครบ 85 สาขา
ปีนี้วางแผนเปิด 8 สาขา เปิดไปแล้ว 4 สาขา เหลืออีก 4 สาขาที่จะเปิดในช่วงเดือนธันวาคมนี้ คือ เซ็นทรัลอีสต์วิลล์ เซ็นจูรี่ และที่นครปฐม ส่วนอีกสาขาคือที่เซ็นทรัลพระรามสามเป็นสาขาเดิมที่ทำการรีโนเวตใหม่ตามศูนย์การค้าที่รีโนเวตใหญ่ ส่วนแผนในปีหน้า (2561) คาดว่าจะเปิด 12 สาขามากกว่าปีนี้ เพื่อให้มีครบ 97 สาขา โดยใช้งบการตลาด 10% และเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนรายได้ ปัจจุบันมีสาขาในกรุงเทพ 60% และต่างจังหวัด 40%
ทั้งนี้ บริษัทฯจะใช้กลยุทธ์ในเชิงรุกเพื่อขยายธุรกิจ นอกจากการขยายสาขาเพิ่มแล้ว จะขยายฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ด้วย เพิ่มจากเดิมที่เป็นกลุ่มอายุ 34-40 ปีเป็นหลัก ซึ่งจะขยายในกลุ่มของคนรุ่นใหม่หรือยังเกอร์ (Younger) อายุ 24-30 ปีมากขึ้น ซึ่งอาจจะต้องมีการใช้เรื่องราคาต่ำมาทำตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าบ้าง เช่น ผลิตภัณฑ์แฮร์แคร์ จากเดิมราคา 240 บาท เหลือ 199 บาท เป็นต้น เป็นการปรับราคาลงถาวร
รวมไปถึงการขยายตลาดช่องทางออนไลน์ด้วย ซึ่งจะทำธุรกิจผ่านพันธมิตรที่เป็นมาร์เกตเพลซเป็นหลัก ขณะนี้ทำแล้วกับ 4 ราย คือ ลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีท ชอปปี และคอนวี่ ในปีหน้าก็จะยังมีการขยายพันธมิตรมาร์เกตเพลซเพิ่มต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม อีฟโรเชในไทยยังไม่มีแผนที่จะทำออนไลน์ด้วยตัวเอง ส่วนที่ฝรั่งเศสได้ทำช่องทางออนไลน์เองแล้ว ซึ่งช่องทางออนไลน์นี้จะสอดคล้องกับการขยายกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นคนรุ่นใหม่ที่ชอบการซื้อสินค้าทางออนไลน์ โดยตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้จากออนไลน์ประมาณ 6% ในอนาคต จากขณะนี้มีสัดส่วนน้อยมากไม่ถึง 2% และจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 50% ต่อเนื่องใน 3 ปีนี้
“อีฟ โรเช มองประเทศไทยเป็นตลาดที่สำคัญที่เรามีการลงทุนต่อเนื่อง โดยอีฟ โรเช แบ่งการลงทุนนอกฝรั่งเศส 3 ระดับ ซึ่งประเทศไทยอยู่ในระดับต้นๆ ที่น่าลงทุน พร้อมกับเป็นประเทศที่เป็นแม่แบบในหลายครั้งหลายอย่างให้กับเอเชีย” นายเอียนกล่าว
ทั้งนี้ อีฟ โรเช ได้ทำการปรับรูปแบบของร้านใหม่ทั่วโลก คอนเซ็ปต์ เดอะ โบทานิคัล บิวตี้ แล็บ สโตร์ ( The Botanical Beauty Lab Store) โดยไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียที่เปิดตัวโมเดลแฟลกชิปสโตร์คอนเซ็ปต์ใหม่นี้ ที่ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งนโยบายของบริษัทแม่จะให้เปิดแฟลกชิปแบบนี้แค่ 1-2 แห่งต่อประเทศเท่านั้น และไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตอกย้ำความสำคัญของประเทศไทยอย่างมาก
แฟลกชิปสโตร์สาขานี้มีพื้นที่เกือบ 160 ตารางเมตร จากเดิมที่พื้นที่ใหญ่สุดแค่ 100 กว่าตารางเมตรเท่านั้น มีสินค้าประมาณ 700 เอสเคยู บรรยากาศการตกแต่งโปร่งโล่ง มองเห็นสินค้าชัดเจน วางสินค้าแบบเรียบง่ายหางาย มีผลิตภัณฑ์ตัวอย่างให้ทดลอง พื้นที่แบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหน้าเป็นการขายผลิตภัณฑ์ทั้งบำรุงผิวหน้า ผิวกาย ทำความสะอาดผิว เมกอัพ น้ำหอม เป็นต้น และส่วนหลังร้านเป็นห้องบริการตัว ห้องนวดบริหารผิวพรรณ และสาขานี้จะมีสินค้าที่เอ็กซ์คลูซีฟด้วย ถือเป็นสาขาที่ 81 ในไทย เปิดเป็นทางการเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2560
นายเอียนกล่าวต่อว่า ส่วนสาขาใหม่ๆ บริษัทก็จะเปิดให้เป็นคอนเซ็ปต์ใหม่เช่นกัน แต่ไม่ได้เป็นแฟลกชิปสโตร์ และคาดว่าจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อีฟ โรเช เติบโตต่อเนื่องและแตกต่างจากแบรนด์อื่น โดยปีนี้ยอดซื้อของลูกค้าถ้าเป็นสินค้าจะอยู่ที่ 1,200 บาทต่อบิล ถ้าเป็นส่วนของการบริการจะอยู่ที่ 2,500 บาทต่อบิล
อย่างไรก็ตาม ตลาดใหญ่ของอีฟ โรเช ยังคงเป็นภาคพื้นยุโรป เช่น ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ เยอรมนี เบลเยียม เป็นต้น ขณะที่รายได้รวมในเอเชีย 2% ของรายได้รวมทั่วโลก ซึ่งอีฟ โรเช ตั้งเป้าหมายเพิ่มเป็น 10% ภายใน 5 ปีจากนี้เพราะถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพในอนาคต โดยอีฟ โรเชมี 2 โมเดลในการทำธุรกิจนอกฝรั่งเศส คือ 1. การลงทุนเองของอีฟ โรเช ฝรั่งเศส เช่น ในไทย เป็นต้น 2. การให้สิทธิ์พาร์ตเนอร์หรือคู่ค้าทำธุรกิจ เช่น ฮ่องกง มองโกเลีย เป็นต้น ซึ่งล่าสุดในฮ่องกงได้เปลี่ยนแปลงโมเดล โดยทางอีฟ โรเชได้เข้าไปลงทุนบริหารเองทั้งหมดแล้ว