ขสมก.เผย “กลุ่มร่วมทํางาน SCN-CHO” โดยการจับมือกันของ “ช.ทวี-สแกน อินเตอร์” ยื่นเสนอราคา ประมูลรถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน วงเงิน 4.02 พันล้านเพียงรายเดียว เร่งตรวจเอกสารพร้อมพิจารณาเดินหน้าหรือยกเลิก หากเดินหน้าลุยเจรจาต่อรองราคา เร่งปิดดีลเสนอบอร์ดให้ทัน 20 ธ.ค.นี้
นายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการในตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า จากที่ ขสมก.ได้กำหนดให้ผู้สนใจยื่นเสนอราคาประมูล โครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) พร้อมซ่อมแซมและบำรุงรักษารถโดยสาร จำนวน 489 คัน ราคากลาง 4,020 ล้านบาท ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ในวันที่ 7 ธ.ค. ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 (พ.ร.บ.จัดซื้อฯ 60) จากการประมูลรอบแรกแล้วไม่มีผู้เสนอราคานั้น ปรากฏว่ามีผู้ยื่นเสนอราคา 1 ราย คือ กลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO (Consortium SCN-CHO) ซึ่งมีบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO ร่วม กับบริษัท สแกน อินเตอร์ จํากัด (มหาชน) หรือ SCN
โดยหลังจากนี้จะเป็นขั้นตอนการตรวจสอบเอกสารของกลุ่มร่วมทำงาน SCN-CHO คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันที่ 8 ธ.ค.นี้ ในขณะเดียวกัน คณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างฯ ที่มีนางพนิดา ทองสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร รักษาการในตำแหน่งรองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร ขสมก.เป็นประธาน จะประชุมเพื่อพิจารณากรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ซึ่งตาม พ.ร.บ.จัดซื้อฯ มี 2 ทางเลือก คือ ยกเลิกการประมูล หรือเดินหน้าต่อหากมีความจำเป็นเร่งด่วน หากกกรรมการจัดซื้อฯ ได้ข้อสรุปอย่างไรให้นำเสนอหัวหน้าหน่วยงาน หรือ ผอ.ขสมก.พิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ การจัดหารถเมล์ NGV เป็นเรื่องเร่งด่วนที่อยู่ในความสนใจของสังคม หากพิจารณาแล้วเห็นว่าควรเดินหน้าต่อก็สามารถเจรจาต่อรองกับผู้เสนอราคาได้ โดยจะต้องพยายามเจรจาให้อยู่ภายในกรอบราคากลาง ขณะที่ตามระเบียบสูงกว่าราคากลางได้ไม่เกิน 10% จากนั้นจะต้องเสนอผลขออนุมัติจากคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก.ด้วย เนื่องจากโครงการมีวงเงินเกินอำนาจของ ผอ.ขสมก. ซึ่งจะเร่งให้ได้ข้อยุติก่อนที่จะมีการประชุมบอร์ด ขสมก.ในวันที่ 20 ธ.ค.
อย่างไรก็ตาม การที่มีเอกชนยื่นเสนอราคาเพียงกลุ่มเดียว เข้าใจว่าเอกชนต้องประเมินในหลายประเด็นของเงื่อนไขที่จูงใจหรือไม่ เพราะนอกจากราคารถแล้วยังมีสัญญาการซ่อมบำรุงระยะ 10 ปี และจะต้องวางหลักประกันวงเงิน 10% ของมูลค่าโครงการ หรือประมาณ 420 ล้านบาท ไว้ตลอดระยะเวลา 10 ปี อีกด้วย
โดยนายกริน ชัยวิสุทธิ์ ผู้บริหารบริษัท ช.ทวี จำกัด (มหาชน) เเจ้งว่า บริษัทฯ จะนำเข้ารถโดยสารยี่ห้อ BLK ของบริษัท Jiangxi KAMA Business Bus Co., Limited จากประเทศจีน ตั้งอยู่ที่เมืองหนานชาง มาใช้ในโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) 489 คันในครั้งนี้