xs
xsm
sm
md
lg

“สตีเบล” งัด 5 กลยุทธ์ดันโตดับเบิล สู้ตลาดเครื่องทำน้ำอุ่นไม่โต-แข่งดุ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องกรองน้ำ และเครื่องเป่ามือ จากเยอรมนี
ผู้จัดการรายวัน 360 - “สตีเบล เอลทรอน” เปิดเกมรุกสวนทางตลาดรวมเครื่องทำน้ำอุ่นโตน้อย เหตุแข่งขันราคากันหนัก แบรนด์เดิมขยายช่องทางมากขึ้น ดัน 5 กลยุทธ์หลักปักธงสู้ พร้อมเป้าหมายอีก 5 ปีรายได้เป็นสองเท่า สู่ 2,000 ล้านบาท

นายโรลันด์ เฮิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตีเบล เอลทรอน เอเซีย จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่น เครื่องกรองน้ำ และเครื่องเป่ามือ จากเยอรมนี เปิดเผยว่า ตลาดรวมเครื่องทำน้ำอุ่นในไทยมีปริมาณรวม 600,000 ยูนิตต่อปี อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมปี 2560 นี้ตลาดรวมเติบโตน้อยมากหรือแทบจะไม่เติบโตเลย ขณะที่ 2-3 ปีก่อนยังมีการเติบโต 5%

เนื่องจากปีนี้เศรษฐกิจยังไม่ค่อยดี และตลาดรวมแข่งขันรุนแรงโดยเฉพาะมีแบรนด์เดิมที่ขยายช่องทางเพิ่มในร้านที่ยังไม่เคยวางขายทำให้ในร้านค้าเดิมมีแบรนด์เข้ามาวางขายมากกว่าเดิมส่งผลให้โอกาสในการขายขอแบรนด์เดิมลดลงด้วยส่วนหนึ่ง เพราะผู้บริโภคมีทางเลือกแบรนด์มากขึ้น และมีแบรนด์ที่เกิดใหม่เข้ามาด้วยแต่ไม่มากนัก อีกทั้งการแข่งขันด้านราคาก็รุนแรงโดยเฉพาะต่ำกว่า 3,000 บาทลงมาที่เป็นตลาดแมส ส่วนสตีเบลจะเน้นราคาที่สูงกว่านั้น ที่ขายดีคือ 3,000-3,500 บาท

อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีหน้า (2561) ตลาดรวมน่าจะฟื้นตัวดีขึ้น อีกทั้งอัตราการครอบครองเครื่องทำน้ำอุ่นของคนไทยยังไม่มากแค่ 50% จากครัวเรือนทั้งหมด จึงยังมีโอกาสอีกมาก และเป็นสินค้าที่มีหน้าขายต่อเนื่องตลอด รวมไปถึงการทำตลาดโปรโมชันของผู้ประกอบการมากขึ้นในปีหน้า

ทั้งนี้ บริษัทฯ วางแผนเชิงรุก ตั้งเป้าหมายระยะยาว 5 ปีจากนี้หรือภายในปี 2565 จะมียอดขายเติบโตสองเท่าจากปัจจุบันที่มียอดขายประมาณ 1,100 ล้านบาท หรือสามารถจำหน่ายเครื่องทำน้ำอุ่นไปแล้วกว่า 350,000 เครื่อง โดยมาจากยอดขายในไทย 60% และอีก 40% มาจากการส่งออก ส่วนปี 2560 คาดว่าสตีเบลจะเติบโต 10% และยังเป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งมากกว่า 25%

บริษัทฯ วางแผนดำเนินการด้วย 5 กลยุทธ์หลัก คือ 1. การขยายช่องทางออนไลนและอี-คอมเมิร์ซ 2. การออกสินค้าใหม่และขยายกลุ่มสินค้าใหม่ 3. การมีคู่ค้าทางธุรกิจที่ดีและสำคัญรวมทั้งการขยายต่อเนื่อง 4. การบริการหลังการขาย และ 5. การทำการตลาดแบบผสมผสาน

ช่องทางออนไลน์ และอี-เมิร์ซ จะขยายช่องทางการตลาดและการจัดจำหน่ายไปยังตลาดอี-คอมเมิร์ซหรือออนไลน์มากขึ้นเพราะเป็นช่องทางการตลาดที่สำคัญเพื่อเพิ่มศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคในปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ สามารถขยายช่องทางการจัดจำหน่ายครอบคลุมแพลตฟอร์มตลาดออนไลน์ที่สำคัญทั้งหมด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการทำกับพาร์ตเนอร์ที่ทำธุรกิจด้านนี้อยู่แล้ว เช่น ลาซาด้า อีเลฟเว่นสตรีท ชอปมี โฮมโปร วีมอลล์ และอื่นๆอีก และจะร่วมมือกับคู่ค้าในการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ใหม่ๆ ต่อเนื่อง

ช่องทางออนไลน์เติบโตดีและเป็นเทรนด์ที่เราต้องทำ เช่นเดียวกับต่างประเทศ เช่นจีนออนไลน์โตมากกว่า 30% แต่ยังไม่ใช่ช่องทางหลัก สัดส่วนยอดขายจากออนไลน์มี 5% ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 10% ในอีก 5 ปีจากนี้

ส่วนการออกสินค้าใหม่ ล่าสุดเปิดตัวกลุ่มใหม่คือ ปั๊มน้ำสตีเบลบูส 4 รุ่น ราคาตั้งแต่ 7,990 8,990 10,990 และ 12,990 บาท ส่วนสินค้าที่ออกขายในปี 2560 คือ เครื่องทำน้ำอุ่นซีรีส์ WL มีจอแอลซีดี รุ่น WL35EC ขนาด 3,500 วัตต์ ราคา 6,990 บาท รุ่น WL45EC ราคา 7,490 บาท และล่าสุดคือ สตีเบลเฮาส์ ระบบเครื่องกรองน้ำ ขนาด 20 นิ้ว มี 2 รุ่น ราคา 3,990 บาท และ 4,590 บาท

สำหรับพาร์ตเนอร์หรือคู่ค้า จะเน้นทั้งโมเดิร์นเทรด ที่มีสัดส่วน 60% และเทรดิชันนัลเทรด 40% และจะขยายต่อเนื่อง และจะมีการขยายศูนย์บริการอีกมากในปีหน้า จากขณะนี้มีศูนย์บริการพาร์ตเนอร์มากกว่า 10 ราย และการทำตลาดผสมผสานทุกช่องทาง เช่น ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ มียอดติตตามไลก์แล้ว 68,000 คน เป้าหมายปีนี้เป็น 700,000 คน และปีหน้าเพิ่มเป็น 1 ล้านคน

นอกจากนั้นยังมีความพร้อมด้านกำลังผลิต หลังจากที่โรงงานที่สองที่อยุธยาสามารถเดินเครื่องผลิตได้แล้วจะมีกำลังผลิตเต็มที่ 2 โรงงานในอยุธยาเป็น 600,000 ยูนิตต่อปี ซึ่งปัจจุบันยังผลิตแค่ 400,000 ยูนิตต่อปีเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น