ผู้จัดการรายวัน 360 - “เบตาดีน” อัด 70 ล้านบาทตีตลาดสเปรย์ลดอาการอักเสบในช่องปาก หวังปีแรกนั่งแท่นเบอร์ 2 ด้วยแชร์20% แย้มปีหน้าลุยต่อเนื่องผุดสินค้าใหม่อีก 2 รายการ ดันภาพรวมรายได้ปีหน้าสู่ 800 ล้านบาท จากปีนี้ปิดรายได้ 400 ล้านบาทตามแผน
นางวราวรรณ จันทรสมบูรณ์ รองผู้อำนวยการแผนกคอนซูเมอร์ บริษัท มุนดิฟาร์มา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เบตาดีน เปิดเผยว่า หลังบริษัทเข้ามาทำตลาดในไทยเองในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา บริษัทมีการลงทุนด้านการตลาดปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เริ่มตั้งแต่ปี 2560 นี้เป็นต้นไปจากการที่เข้ามารุกเพิ่มสินค้าใหม่เข้าสู่ตลาด ซึ่งปีหน้าตั้งเป้าโตเท่าตัว หรือมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท
ล่าสุดในช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมาได้เปิดตัว 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่มดูแลช่องปากและลำคอ คือ 1. เบตาดีน®โทรตสเปรย์ เป็นสเปรย์พ่นปากลดอาการอักเสบบริเวณช่องปากและลำคอ และ 2. เบตาดีน®การ์เกิล ยาน้ำใช้บ้วนปาก ที่มีจุดขายด้านการฆ่าเชื้อจุลินทรีย์อันเป็นสาเหตุหลักของอาการเจ็บคอ ราคาเริ่มต้น 155 บาท สามารถใช้ได้ทั้งครอบครัว ผู้ใหญ่ และเด็ก 6 ขวบขึ้นไป ภายใต้งบการตลาด 70 ล้านบาท สร้างการรับรู้ในวงกว้าง ปัจจุบันมีจำหน่ายทางร้านขายยาแล้ว 50% จาก 10,000 ร้านทั่วประเทศ และกำลังเข้าสู่ช่องทางโรงพยาบาล
ปัจจุบันภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์รวมดูแลช่องปากและลำคอมีมูลค่า 750 ล้านบาท แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1. ลูกอม 398 ล้านบาท ช่วง 3 ปีที่ผ่านมาตกลงต่อเนื่อง 11% เหตุลูกค้าหันมาใช้สเปรย์แทนมากขึ้น 2. สเปรย์ มีมูลค่า 352 ล้านบาท โต 17% ต่อเนื่องในรอบ 3 ปี โดยในกลุ่มสเปรย์มีผู้เล่นในตลาด 5 ราย ผู้นำมีส่วนแบ่งกว่า 80% เบตาดีนมั่นใจว่าปีแรกจะมีส่วนแบ่ง 20% หรืออันดับ 2 ของตลาด
นางวราวรรณกล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีแผนการเติบโตต่อเนื่อง หรือในปีหน้าเติบโตเท่าตัว หรือไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาท โดยจะมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาอย่างต่อเนื่อง หรืออย่างน้อยอีก 2 รายการในปีหน้า จากปัจจุบันแบรนด์เบตาดีนมีผลิตภัณฑ์อยู่ 3 กลุ่ม คือ 1. ทำความสะอาดรักษาบาดแผล 2. ดูแลสุขภาพ กับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสุขอนามัย “เบตาดีน เนเชอรัล ดีเฟนส์” สำหรับทุกคนในครอบครัว ช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา และ 3. ดูแลช่องปากและลำคอ ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าประเภทคอนซูเมอร์โปรดักต์ ทำรายได้ 80% และอีก 20% มาจากเวชภัณฑ์เฉพาะโรค