ผู้จัดการรายวัน 360 - “ทีเอฟเอส” สยายปีกลุยตลาดเมกอัพมัลติแบรนด์ เปิดร้านใหม่ “เนเจอร์คอลเลคชั่น” ประเดิม 6 สาขาทดลองตลาดอีก 6 แบรนด์ที่นำเข้ามาในเครือแอลจี มั่นใจไม่ซ้ำซ้อนตลาดเดอะเฟสชอป ปีหน้าเปิดสาขาใหม่อีก 25 แห่ง ดึง “แต้ว-ณฐพร” เป็นพรีเซ็นเตอร์ ส่งคุชชันใหม่ลุยตลาด
นายพิธาน องค์โฆษิต ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทีเอฟเอส (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องสำอางแบรนด์ เดอะเฟสชอป จากเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะขยายธุรกิจในรูปแบบมัลติแบรนด์มากขึ้นในอนาคต หลังจากที่ปีนี้ (2560) ได้เริ่มแล้วแต่ยังไม่เต็มรูปแบบ ถือเป็นช่วงของการเริ่มต้นเท่านั้น
โดยปีนี้ได้เปิดร้าน “เนเจอร์คอลเลคชั่น” ร้านมัลติแบรนด์ที่บริษัทฯ เป็นผู้นำเข้ามาจำหน่ายเป็นสินค้าเครือแอลจีเช่นเดียวกับเดอะเฟสชอป แต่ตลาดและสินค้าจะไม่ซ้ำซ้อนกัน มีแบรนด์ Isa Knox, CareZone, CNP, Tomaru, Beyond และ VOV ปัจจุบันเปิดรนใหม่นี้แล้วที่ สีลมคอมเพล็กซ์, แฟชันไอส์แลนด์, เซ็นทรัลพัทยา, เซ็นทรัลโคราช, เซ็นทรัลมหาชัย และปลายปีเปิดที่เซ็นทรัลเชียงราย
ขณะที่ในปีหน้ามีแผนลงทุนอีกไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท เพื่อขยายสาขาใหม่รวม 25 สาขา เพื่อให้ครบ 110 สาขาตามเป้าหมายในสิ้นปีหน้า อาจจะมีร้านมัลติแบรนด์บ้างเล็กน้อยไม่มากนักขึ้นอยู่กับทำเล แต่จะยังคงเน้นหนักการเปิดร้านแบรนด์เดอะเฟสชอปเป็นหลัก เน้นเปิดในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อให้สัดส่วนรายได้จากต่างจังหวัดอยู่ที่ 70% และในกรุงเทพฯ 30% จากขณะนี้มีรวม 78 สาขา และในสิ้นปีนี้จะเป็นไม่ต่ำกว่า 85 สาขา
นายพิธานกล่าวว่า ตลาดเครื่องสำอางในไทยยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีแม้จะมีการแข่งขันที่รุนแรงก็ตาม แต่ก็ต้องสร้างความชัดเจนและวางกลยุทธ์ให้ดี ซึ่งมูลค่ารวมมากกว่า 2.7 แสนล้านบาท โดยแยกเป็น ตลาดเมกอัพ 2 แสนล้านบาท และตลาดสกินแคร์ 7 หมื่นล้านบาท ตลาดรวมยังเติบโตประมาณ 15% โดยตลาดกลุ่มคุชชัน ที่มีมูลค่ากว่า 15,000 ล้านบาท ในกลุ่มเมกอัพยังเป็นตลาดที่เติบโตดีมาก
ล่าสุดบริษัทฯ จึงเปิดตัว มิราเคิล ฟินนิช คุชชั่น 6 สูตรใหม่ ราคา ตลับละ 649 บาท ถูกกว่าในเกาหลีใต้ที่ขาย 700 กว่าบาทต่อตลับ อีกทั้งได้เปิดตัว “แต้ว-ณฐพร เตมีรักษ์” เป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่และเป็นคนแรกที่เป็นคนไทยแบบโลคอล ครั้งแรกของเดอะเฟสชอป จากเดิมที่ใช้พรีเซ็นเตอร์เป็นคนเกาหลีมาตลอด ตั้งเป้าหมายยอดขายคุชชันใหม่นี้ 5-6 แสนตลับ และเป็นสินค้าที่มีสัดส่วนรายได้ 15% ของบริษัท
“การดึง แต้ว-ณฐพร มาเป็นพรีเซ็นเตอร์จะทำให้เราขยายฐานตลาดต่างจังหวัดได้ดี สอดคล้องกับที่เราขยายสาขาในต่างจังหวัดมากขึ้นด้วย เพราะเป็นดาราที่เล่นละครมาหลายบทบาท ทั้งคนอีสาน คนเหนือ
และได้รับความนิยมอย่างดี และมีบุคลิกสดใสร่าเริง เป็นธรรมชาติ สอดคล้องกับภาพลักษณ์แบรนด์อย่างดี” นายพิธานกล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2560 นี้ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 650 ล้านบาท ซึ่งช่วง 10 เดือนแรกทำยอดขายแล้ว 600 ล้านบาท คาดว่าในปีหน้าจะมีรายได้รวมเติบโต 30-35% หรือประมาณ 850 ล้านบาท ขณะที่ปีที่แล้วมีรายได้ 500 ล้านบาท