xs
xsm
sm
md
lg

CENTEL ไตรมาส 3/2560 กำไรสุทธิยังคงเติบโต รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 2.9% แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.5%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

CENTEL ไตรมาส 3/2560 กำไรสุทธิยังคงเติบโต รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 2.9% แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
CENTEL ไตรมาส 3/2560 กำไรสุทธิยังคงเติบโต รายได้โดยรวมเพิ่มขึ้น 2.9% แต่กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14.5% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2560
รายได้รวม 4,854.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.9% จากธุรกิจอาหารเป็นสำคัญ สืบเนื่องจากการบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้นทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด กอปรกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายมากขึ้น โดยการเติบโตเกิดจากสาขาเดิม (SSS) และการเพิ่มจำนวนสาขาใหม่ ขณะที่กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย, ภาษี, ค่าเสื่อมราคา และรายการตัดจ่าย (EBITDA) โต 9.3% เทียบปีที่ผ่านมา โดยมีอัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) เพิ่มขึ้นจาก 19.4% เป็น 20.6% โดยอัตราการทำกำไรที่ดีขึ้นเป็นผลจากการฟื้นตัวของธุรกิจอาหาร รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังคงได้รับประโยชน์จากการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน โดยดอกเบี้ยจ่ายลดลง 17.6 ล้านบาท เทียบปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิเติบโต 14.5% เทียบปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 368.5 ล้านบาท ณ ไตรมาส 3/2560

ธุรกิจโรงแรมรายได้คงที่อยู่ที่ 2,093.9 ล้านบาท โดยโรงแรมในประเทศไทยมีรายได้เพิ่มขึ้น ในขณะที่โรงแรมในมัลดีฟส์มีรายได้ที่ลดลดซึ่งเป็นผลจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นทำให้ภาวะการแข่งขันสูงขึ้น อย่างไรก็ดี EBITDA ของธุรกิจโรงแรมปรับดีขึ้นเล็กน้อย โดยเติบโต 1.8% เทียบปีก่อนอยู่ที่ 596.7 ล้านบาท และอัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) ดีขึ้นจาก 28.0% เป็น 28.5% อย่างไรก็ดี ถึงแม้ภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลง แต่กำไรส่วนที่เป็นส่วนได้เสียที่ไม่มีอำนาจควบคุมเพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของโรงแรมมัลดีฟส์ 5 ดาว ทำให้ไตรมาส 3/2560 ธุรกิจโรงแรมมีกำไรสุทธิ 177.1 ล้านบาท

ธุรกิจอาหารรายได้รวมเติบโต 5.3% เทียบปีก่อน ขณะที่ EBITDA โต 22.8% เทียบปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 402.7 ล้านบาท โดยอัตราการทำกำไร (EBITDA Margin) ดีขึ้นอย่างชัดเจนจาก 12.5% เป็น 14.6% ซึ่งเป็นผลจากการเติบโตของยอดขาย และจากการควบคุมต้นทุนการผลิตและค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรสุทธิจากการดำเนินงานเติบโต 32.2% เทียบปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 191.4 ล้านบาท

สำหรับแนวโน้มธุรกิจโรงแรมจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4 โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงแรมต่างจังหวัดสามารถเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของราคาห้องพัก กอปรกับปีก่อนโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ บีช รีสอร์ท ภูเก็ต ปิดดำเนินการชั่วคราวเป็นเวลา 3 สัปดาห์ในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม ขณะที่การดำเนินงานโรงแรมในกรุงเทพฯ และมัลดีฟส์ฟื้นตัวตามลำดับ โดยโรงแรมกรุงเทพฯ แม้รายได้จากการจัดประชุมสัมมนามีการชะลอตัวในเดือนตุลาคม แต่แนวโน้มดีในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม สำหรับมัลดีฟส์อัตราการเติบโตรายได้ห้องพักต่อจำนวนห้องทั้งหมด (RevPar) ยังคงติดลบ แต่มีแนวโน้มดีขึ้นเทียบกับครึ่งแรกของปี

ธุรกิจอาหารแม้จะชะลอตัวในช่วงเดือนตุลาคมเนื่องจากเทศกาลกินเจ แต่คาดว่าเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศของภาครัฐบาล รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายอย่างต่อเนื่อง กอปรกับแผนการขยายสาขาเกือบ 40 สาขาในไตรมาส 4 ล้วนเป็นปัจจัยส่งเสริมการเติบโต ทั้งการเติบโตสาขาเดิม (SSS) และการเติบโตทุกสาขา (TSS)

แนวโน้มปี 2561 ธุรกิจโรงแรมยังคงเน้นเติบโตจากการเพิ่มขึ้นของราคาห้องพัก ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการทำกำไรปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกันจะมีการรับรู้รายได้เพิ่มขึ้นจากโรงแรมใหม่ คือ โคซี่ เฉวง สมุย จำนวน 151 ห้อง ซึ่งมีแผนเปิดดำเนินการภายในเดือน ธันวาคม 2560 นี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจาสัญญากับ บริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) สำหรับสิทธิการเช่าอาคารและศูนย์ประชุมโรงแรมเซ็นทารา ศูนย์ราชการ และคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ จำนวน 204 ห้อง ซึ่งบริษัทฯ คาดว่าถ้าเป็นไปตามกำหนดจะสามารถเซ็นสัญญาเข้าดำเนินการภายในต้นปี สำหรับธุรกิจอาหารคาดว่าจะเติบโตจากการเติบโตสาขาเดิม (SSS) และการเติบโตทุกสาขา (TSS) ผ่านการขยายสาขา โดยปัจจัยสนับสนุนมาจากแนวโน้มการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ สืบเนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง การใช้จ่ายภาครัฐ และการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปลายปี
กำลังโหลดความคิดเห็น