ขสมก.ปรับแผนจัดหารถ 3,000 คัน หั่นซื้อรถเมล์ไฟฟ้า (EV) จาก 200 คัน เหลือ 35 คัน พร้อมลดก่อสร้างสถานีประจุไฟฟ้าเหลือ 1 แห่งเพื่อความคุ้มค่า เดินหน้า NGV 489 คัน ส่วนรถโดยสารไฮบริดจำนวน 2,153 คัน ( เช่า 1,000 คัน /ซื้อ 1,153 คัน)
รายงานข่าวจากกระทรวงคมนาคมเปิดเผยว่า โครงการจัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 200 คัน พร้อมการก่อสร้างสถานีประจุไฟฟ้า วงเงิน 2,272.22 ล้านบาทขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ซึ่งอยู่ในแผนปฏิบัติการคมนาคมขนส่ง (Action Plan) ปี 2560 ล่าสุด ขสมก.ได้ปรับแผนการจัดหารถเมล์ไฟฟ้าเหลือ 35 คัน และก่อสร้างสถานีจ่ายไฟฟ้า พร้อมบำรุงรักษาจาก 4 แห่ง ได้แก่ บริเวณทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา บริเวณใต้ทางด่วนสาธุประดิษฐ์ บริเวณอู่รถเมล์พระราม 9 และบริเวณอู่รถเมล์บรมราชชนนีนั้น เหลือ 1 แห่ง ที่อู่พระราม 9 หลังจากศึกษาเปรียบเทียบความคุ้มค่าจากการเดินรถแล้ว
ทั้งนี้ จากการปฏิรูปเส้นทางรถเมล์ ซึ่งกำหนดให้ ขสมก.เดินรถ 127 เส้นทางนั้น ขสมก.ได้ทำแผนการจัดการเดินรถที่มีประสิทธิภาพ โดยมีรถจำนวน 3,000 คัน ประกอบด้วย 1. จัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (NGV) จำนวน 489 คัน วงเงิน 4,020 ล้านบาท 2. จัดหารถโดยสารไฟฟ้า (EV) จำนวน 200 คัน 3. จัดหารถโดยสารใหม่ทดแทนรถเดิม จำนวน 1,665 คัน และ 4. ปรับปรุงรถโดยสารเดิม จำนวน 646 คัน โดยประเมินจะใช้เงินลงทุนราว 4,300 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่ากรอบงบประมาณเดิมในแผนการจัดหารถเมล์ NGV จำนวน 3,183 คัน ที่มีวงเงิน 13,162.2 ล้านบาท
ขสมก.ได้ว่าจ้าง บริษัท พีทีที เอเนอร์ยี่ โซลูชั่นส์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาโครงการศึกษาเปรียบเทียบความคุ้มค่าจากการเดินรถ ในทางเทคนิคและด้านเศรษฐศาสตร์พบว่า รถจำนวน 3,000 คันควรประกอบด้วย รถเมล์ NGV จำนวน 489 คัน รถเมล์ไฟฟ้าจำนวน 35 คัน ส่วนที่เหลือจำนวน 2,476 คัน ประกอบด้วย รถโดยสารไฮบริด จำนวน 2,153 คัน (เช่า 1,000 คัน และซื้อ 1,153 คัน) และการ Repowering รถโดยสาร NGV เดิม จำนวน 323 คัน
อย่างไรก็ตาม การจัดหารถเมล์ของ ขสมก.เป็นส่วนหนึ่งของแผนฟื้นฟูองค์กรเพื่อลดปัญหาขาดทุนและแก้หนี้สินกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งนายประยูร ช่วยแก้ว รองผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถองค์การ รักษาการ ผอ.ขสมก. ระบุว่า จะรายงานความคืบหน้าต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการ (บอร์ด) ขสมก. วันที่ 15 พ.ย.นี้