วิกฤติทีวีดิจิทัลโฆษณาเงียบ ดึงโฮมช้อปปิ้งเสียบพยุงรายได้

ผู้จัดการรายวัน360- งบโฆษณาสื่อทีวี 50,000 ล้านบาท เลี้ยงทีวี23ช่องไม่ไหว ทีวีดิจิทัลปรับเกมกู้รายได้ เหตุโฆษณาไม่เข้า ดึงโฮมช้อปปิ้งเช่าเวลา ทางรอดสุดท้าย หลังปีนี้เม็ดเงินโฆษณาสุดฝืดติดลบ 13% ลูกค้ารัดเข็มขัดปรับลดงบโฆษณา แถมออนไลน์เข้าเบียดตอดเม็ดเงินโฆษณาไปอีกมากกว่า 10,000 ล้านบาท

นายภวัต เรืองเดชวรชัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มีเดีย อินไซต์ จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบัน(ปี2560)จำนวนช่องทีวีดิจิทัลที่มีอยู่ 22 ช่อง +ช่อง5 เป็น 23 ช่อง โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มบน ประกอบด้วย ช่อง7 ช่อง3ออริจินัล และช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี 2.กลุ่มกลาง คือ ช่องโมโน29, ช่อง8, ช่องวัน, ช่องไทยรัฐทีวี และช่องอัมรินทร์ ทีวี และ 3.กลุ่มล่าง ซึ่งมีรวมกันกว่า 17 ช่อง

โดยเรตติ้งของช่อง7 สูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2.19 และช่องวอยซ์ทีวีต่ำสุดอยู่ที่ 0.2 ซึ่งในแง่ของการลงทุนและบริหารจัดการแต่ละช่องจะใช้ไม่ต่ำกว่า 3,000 - 4,000 ล้านบาทต่อปี ขณะที่เม็ดเงินโฆษณารวมบนสื่อทีวีมีอยู่เพียง 50,000 ล้านบาท เฉลี่ยรายได้ให้แต่ละช่องจะอยู่ที่ 2,300 ล้านบาท ถือว่าไม่เพียงพอต่อการลงทุนและการดำเนินการ

ทั้งนี้มองว่ากลุ่มทีวีดิจิทัลจะต้องมีการปรับแผนรับมือเพื่อให้อยู่ต่อไปได้ โดยทิศทางปีหน้าจะเห็นการปรับตัวของช่องทีวีเหล่านี้ในรูปแบบของการเทคโอเวอร์ หรือขายหุ้นหาผู้ร่วมทุมเข้ามา โดยปีหน้ายังจะมีแนวโน้มที่จะได้เห็นกลุ่มนักลงทุน เข้ามาซื้อหุ้นในธุรกิจทีวีเช่นช่วงปีที่ผ่านมา
เหตุผลหลักที่เลือกลงทุนในช่องทีวีดิจิทัลนั้น มองว่าเป็นการลงทุนเพื่อแสวงหากำไรเพราะมองเป็นธุรกิจที่มีโอกาส และเพื่อเอื้อต่อธุรกิจที่มีอยู่ รวมถึงพัฒนาคอนเทนต์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น แต่ในแง่การใช้งบโฆษณายังใช้เหมือนเดิมไม่มีการปรับลดลง

อย่างไรก็ตามในมุมมองของเอเจนซี่ เชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้อุตสาหกรรมโฆษณารวมน่าจะมีมูลค่าราว 87,000 ล้านบาท ติดลบ 13% โดยในเดือนต.ค. ช่วง 10 วันแรกลูกค้ายังพอมีการใช้เม็ดเงินโฆษณาอยู่ ส่วนในครึ่งเดือนหลังจะเงียบลงหรือปรับโฆษณาเป็นเชิงคอร์ปอเรตร่วมแสดงความไว้อาลัย และพอเข้าสู่พ.ย.-ธ.ค. สถานการณ์การใช้งบโฆษณาจะกลับมาปกติ

**ดึงโฮมช้อปปิ้งพยุงรายได้**
นอกจากการใช้กลยุทธ์หลัก อย่าง การร่วมทุนหาพันธมิตรมาเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทีวีดิจิทัลที่เห็นตั้งแต่ปลายปีก่อนไปจนถึงปีหน้าแล้ว ในครึ่งปีหลังนี้ ยังพบว่า ทีวีดิจิทัลหลายช่อง หันมาให้เช่าเวลาแก่ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งเพิ่มขึ้น ซึ่งมีให้เห็นจากทีวีดิจิทัลทั้ง 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น ช่องเวิร์คพ้อยท์ทีวี,ช่องวัน, ช่อง8, ไทยรัฐทีวี, ช่อง9โมเดิร์นไนน์ รวมถึงช่องนาว26

โดยโฮมช้อปปิ้งรายการแนะนำสินค้าหลักที่นิยมเช่าซื้อเวลาบนฟรีทีวี คือ ทีวี ไดเร็ค ตามมาด้วยโอ ช้อปปิ้ง ไทเกอร์ ช้อปปิ้ง และสินค้าของ ไลฟ์สตาร์ ในกลุ่ม “อาร์เอส” ที่ต่อยอดมาเป็นแบรนด์ “ช็อป 1781” ซึ่งมีการแนะนำสินค้าผ่านรายการต่างๆของทางช่อง8 ส่วนช่อง9โมเดิร์นไนน์ ปีหน้าจะได้เห็นรายการแนะนำสินค้าของทางโคเรีย คิง อีกครั้งหลังเริ่มกลับทำตลาดใหม่ในช่วงปลายปีนี้

นายซอง นัก เจ ประธานบริหาร บริษัท จีเอ็มเอ็ม ซีเจ โอ ช้อปปิ้ง จำกัด บริหารช่อง “โอ ช้อปปิ้ง” กล่าวว่า ในความเป็นจริงทิศทางฟรีทีวีในระดับโลกกำลังอยู่ในช่วงขาลง แต่ของไทยกลับสวนทาง เพราะมีฟรีทีวีดิจิทัลเพิ่มเป็น 20 กว่าช่อง แต่เม็ดเงินโฆษณามีอยู่เท่าเดิม ทำให้รายได้จากโฆษณาถูกแบ่งส่วนเพิ่มขึ้น บวกกับปัจจุบันช่องทางออนไลน์มาแรง เอเจนซี่เองรู้และเข้าใจ พร้อมดึงงบโฆษณาไปใช้กับช่องทางออนไลน์มากขึ้นด้วย ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อทีวีแต่ละช่องยิ่งลดน้อยลงไปอีก ขณะที่สื่อโฆษณาบนออนไลน์มีมากกว่า 10,000 ล้านบาท

จากปัญหาที่เกิดขึ้น มองว่าทีวีดิจิทัลในเมืองไทยยังแก้ปัญหาได้ไม่ดี เทียบกับต่างประเทศจะเลือกต่อยอดคอนเทนต์ไปในรูปแบบของวิดีโอ ออน ดีมานด์ แต่สำหรับประเทศไทยกลับทำไม่ได้ ส่งผลให้โฮมช้อปปิ้งเป็นตัวเลือกหนึ่งที่หลายๆช่องเลือกใช้ ในรูปแบบให้เช่าเวลา เพื่อสร้างรายได้

แต่ทั้งนี้มองว่าการดึงโฮมช้อปปิ้งเข้าไปนั้น ถือเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น และในระยะยาวจะกลับมาสู่ผังรายการปกติ เพราะส่วนหนึ่งทางกสทช.เอง ได้มีการควบคุมรายการแนะนำสินค้าหรือโฮมช้อปปิ้งในสื่อฟรีทีวีว่าควรอยู่ในระดับใดไว้แล้ว

สำหรับโอ ช้อปปิ้ง ปัจจุบันมีช่องรายการโอ ช้อปปิ้ง ออกอากาศในแพลทฟอร์มทีวีดาวเทียม คือ กล่องGMM Z ช่อง0 และจาน PSI ทางช่อง 43 นอกจากนี้ยังได้เช่าเวลาออกอากาศในช่องทีวีดิจิทัลไว้หลายช่อง เช่น ช่องวัน, ช่องGMM25, ไทยรัฐทีวี และช่อง นิว 26 ซึ่งปีหน้าคาดว่าจะเพิ่มช่องทางเช่าเวลาในช่องฟรีทีวีเพิ่มขึ้นด้วย และเชื่อว่าปีหน้าโฮมช้อปปิ้งแบรนด์อื่นๆจะเช่าซื้อเวลาทางฟรีทีวีมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งการเช่าเวลาสำหรับแนะนำสินค้า 30-40 นาทีต่อ1รายการนั้น ย่อมได้ผลกว่าการซื้อสปอตโฆษณาเพียง30วินาที

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโฮมช้อปปิ้ง ในรูปแบบ ช่องรายการแนะนำสินค้า มีมากกว่า 7 ราย ที่ออกอากาศในแพลทฟอร์มเคเบิลทีวีและทีวีดาวเทียม ได้แก่, ทีวี ไดเร็ค, TVD ชอป, โอ ช้อปปิ้ง, ทรู ช่อปปิ้ง, ไฮ ช้อปปิ้ง, ช้อป แชนแนล และไทเกอร์ ช้อปปิ้ง เฉพาะทั้ง 7 รายนี้ ครองส่วนแบ่งกว่า 80% ของตลาดโฮมช้อปปิ้ง 10,600 ล้านบาท

โดยในช่วงงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในเดือนต.ค. นี้ ทางกลุ่มผู้ประกอบการช่องโฮมช้อปปิ้งทั้งหมด พร้อมใจกัน งดออกอากาศในวันที่ 13 ต.ค. และในวันที่ 25-27 ต.ค. นี้ เพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี น้อมถวายความอาลัย และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้