ผู้จัดการรายวัน 360 - “นิวเจน แอร์เวย์ส” เดินหน้าแผนเชิงรุก หลังICAO ปลดล็อกธงแดงไทย เพิ่มฝูงบินอีกปีละ 4 ลำ เพิ่มเส้นทางบินในประเทศ ชูโคราชเป็นฮับสู่หัวเมืองใหญ่ พร้อมเพิ่มเส้นทางบินต่างประเทศสู่ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย และขยายเส้นทางบินหลักสู่จีนเพิ่มอีก คาดรายได้ปี 60 นี้ทะลุ 8,000 ล้านบาท
นายเจริญพงษ์ ศรประสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบิน นิวเจนแอร์เวย์ส ของไทย เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเร่งดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้ทั้งในไทยและต่างประเทศเต็มที่ หลังจากที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ หรือไอเคโอ (ICAO) ได้ประกาศปลดธงแดงหน้าชื่อประเทศไทย หรือการถอดประเทศไทยออกจากรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยด้านการบินพลเรือน ตั้งแต่วันที่ 6 ต.ค. 2560 เป็นต้นมา
โดยปีหน้า (2561) จะเพิ่มฝูงบินอีก 4 ลำ ซึ่งมีค่าจ่ายนำเข้าลำละ 100 กว่าล้านบาทโดยเฉลี่ย แต่ยังไม่รวมค่าเช่าเครื่องที่มีสัญญาเฉลี่ย 6-8 ปี จากที่ขณะนี้ฝูงบินเช่าทั้งหมด 12 ลำ แบ่งเป็น โบอิ้ง 787-400 จำนวน 4 ลำ และ 787-800 จำนวน 8 ลำ ทำให้เพิ่มจำนวนที่นั่งขึ้น 30% และจะเพิ่มฝูงบินอีกเฉลี่ยปีละ 4 ลำ
ส่วนแผนเพิ่มเส้นทางบินจะเพิ่มเส้นทางบินในประเทศไทย โดยเลือกนครราชสีมาหรือโคราช เป็นจุดศูนย์กลางในการบินเชื่อมต่อภูมิภาค 2 จังหวัด คือ โคราช-เชียงใหม่ โคราช-ภูเก็ต บริการวันที่ 3 ธันวาคมนี้ ซึ่งจะเพิ่มจำนวนผู้โดยสารอีกปีละ 200,000 ราย เนื่องจากโคราชเป็นจังหวัดที่มีขนาดจีดีพีประมาณ 290,000 ล้านบาท เป็นอันดับสองรองจากกรุงเทพฯ และยังมีแผนที่จะขยายเส้นทางบินอีกในหัวเมืองต่างๆ ที่มีศักยภาพ เช่น สุราษฎร์ธานี หัวหิน อู่ตะเภา เป็นต้น และมีแผนที่จะใช้โคราชเป็นฐานบินตรงไปต่างประเทศด้วย แต่ยังติดขัดที่รันเวยส์สนามบินที่โคราชมีความยาวเพียงแค่ 2,100 เมตรเท่านั้น คงต้องรอการขยายในอนาคต
ส่วนแผนเส้นทางบินต่างประเทศ นายเจริญพงษ์กล่าวว่า ในปี 2561 จะเปิดอีก 3 เส้นทางบินตรง คือ ไต้หวัน 1 เส้นทางบิน อยู่ระหว่างพิจารณาเมืองไทเปกับไท่จง, เกาหลีใต้ 1 เส้นทางบินสู่โซล และอินเดีย 3 เส้นทางบิน ซึ่งทั้ง 3 ประเทศนี้ช่วงแรกจะเปิดบริการแบบเช่าเหมาลำก่อนหรือชาร์เตอร์ไฟลต์แล้วจะปรับมาเป็นบินประจำเวลา ซึ่งตลาดเหล่านี้มีปริมาณผู้โดยสารจำนวนมาก ขณะที่ปัจจุบันยังมีสายการบินบริการไม่เพียงพอ
“เรามีแผนที่จะขยายตลาดเอเชียมากขึ้นด้วยเพื่อรองรับตลาดนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่มาเที่ยวประเทศไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นฐานบินและศูนย์กลางในภูมิภาคนี้ พิจารณาจากภาคเหนือ มีประเทศจีน มีประชากรมากกว่า 1,300 ล้านคน ภาคตะวันตก มีตลาดอินเดีย มีประชากรมาก และภาคใต้เชื่อมต่ออินโดนีเซียประชากรมากกว่า 200-300 ล้านคน และกลุ่มอาเซียนที่มีประชากรกว่า 600 ล้านคน ล้วนเป็นตลาดที่สำคัญทั้งสิ้น” นายเจริญพงษ์กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีเส้นทางบินต่างประเทศ 38 เส้นทาง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นตลาดคนจีนเป็นหลัก สัดส่วนมากกว่า 90% ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มทัวร์เกือบ 100% และมีกำลังซื้อสูง โดยบินตรงสู่เมืองรองต่างๆ ของจีนกว่า 26 เมือง เช่น เมืองหนานหนิง กุ้ยหลิน กุ้ยหยาง หางโจว เทียนสิน เป็นต้น
ทั้งนี้ มีปริมาณผู้โดยสารชาวจีนเมื่อปีที่แล้วที่ใช้บริการนิวเจนประมาณ 800,000 คน และคาดว่าปีนี้นักท่องเที่ยวจีนจะมีกว่า 1.5 ล้านคน ที่ใช้บริการนิวเจน ซึ่งนิวเจนมีส่วนแบ่งตลาดที่เป็นลูกค้าจีนใช้บริการประมาณ 7-8% เท่านั้น ถือว่ายังน้อยมาก จากตัวเลขที่มีนักท่องเที่ยวจีนเดินทางท่องเที่ยวไทยมากกว่า 15 ล้านคนต่อปี
สำหรับผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2560 นี้บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,320 ล้านบาท เติบโต 58% เป็นผลมาจากการขยายฝูงบินที่ 10 ช่วงต้นปี โดยตั้งเป้าหมายว่าภายในปี 2560 นี้จะมีจำนวนผู้โดยสารเป็น 1.5 ล้านคน เติบโต 74% และคาดว่ารายได้รวมจะมีประมาณ 8,000 ล้านบาท เติบโต 78% จากปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 4,500 ล้านบาท โดยเป้าหมายรายได้รวมภายใน 5 ปีจากนี้คือ 65,000 ล้านบาท ซึ่งภายในปี 2561 คาดว่าจะมีเส้นทางบินรวม 50 เส้นทาง และสัดส่วนตลาดคนจีน 70% ตลาดเส้นทางบินในประเทศ 10% ที่เหลืออื่นๆ