กพท.เผย ICAO ประชุมวันนี้ พิจารณามาตรฐานการบินประเทศไทย คาดแจ้งผลในสัปดาห์หน้า ขณะที่หากผ่านจะปลดธงแดงออกจากชื่อประเทศไทยไม่เกิน 27 ต.ค.นี้ พร้อมเดินหน้ามอบ AOC ใหม่ให้สายการบินเอ็มเจ็ท และเค-ไมล์ เป็นรายที่ 10 และ 11 พร้อมเร่งตรวจสอบ 10 สายการบินที่เหลือให้เสร็จใน ธ.ค.นี้
วันนี้ (6 ต.ค.) นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานและสักขีพยานในการมอบใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (AOC) ให้แก่ บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด ผู้ให้บริการสายการบิน MJets และ บริษัทเค-ไมล์ แอร์ จำกัด ผู้ให้บริการสายการบิน K-Mile Air โดยนายอาคมกล่าวว่า สายการบิน MJets และสายการบิน K-Mile Air เป็นสายการบินที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศใหม่ (Re-AOC) รายที่ 10 และ 11 ซึ่งได้ผ่านการตรวจประเมินจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ตามมาตรฐานขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ซึ่งจะทำให้ทั้ง 2 สายการบินสามารถทำการบินระหว่างประเทศได้
โดยสายการบิน MJets ให้บริการเที่ยวบินเช่าเหมาลำ Private Jet ส่วนสายการบิน K-Mile Air ให้บริการขนส่งสินค้า ซึ่งเป็นรายเดียวที่ได้รับ Re-AOC โดยช่วงเดือน ก.ย.ที่ผ่านมาต้องระงับการบินเนื่องจากเป็นช่วงที่ยื่น ICAO ในการตรวจสอบ ICVM เพื่อปลดธงแดง ทำให้ต้องงดการอนุญาตการบินระหว่างประเทศกับสายการบินที่ยังไม่ได้รับ AOC ทำให้อาจจะกระทบต่อรายได้บ้าง ซึ่งขณะนี้ทั้ง 2 สายการบินสามารถทำการบินได้ตามปกติ
ขณะนี้ยังมีสายการบินที่อยู่ระหว่างการตรวจประเมินอีก 10 สาย ซึ่งได้มอบให้ กพท.ปรับตารางเพื่อเร่งรัดการตรวจให้เร็วขึ้น ทั้งกระบวนการในส่วนของสายการบินเอง ที่ต้องเตรียมข้อมูลให้พร้อมกรณีมีการแก้ไข ขณะที่ กพท.จะต้องเตรียมเจ้าหน้าที่ตรวจสอบให้พร้อมเช่นกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถตรวจสอบ 10 สายการบินและออก AOC ใหม่ได้ภายในเดือน ธ.ค. 2560 นี้ จากเดิมที่จะแล้วเสร็จในเดือน ม.ค. 2561
นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการ กพท.กล่าวว่า เงื่อนไขของ ICAO ในการตรวจสอบ ICVM เพื่อปลดธงแดงจะกำหนดให้ประเทศไทยงดการอนุญาตการบินระหว่างประเทศกับสายการบินที่ยังไม่ได้รับ AOC ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2560 เป็นต้นมา แต่ กพท.ก็ยังคงดำเนินการตรวจสอบสายการบินมาอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่า กพท.ไม่ได้ทิ้งสายการบินที่ยังอยู่ในกระบวนการตรวจสอบ ขณะที่สายการบิน MJets และ K-Mile Air มีความพยายามในการแก้ไข ปรับปรุง การดำเนินงานของตนให้ได้ตามมาตรฐาน และได้เสียสละในการหยุดบินชั่วคราวเพื่อภาพรวมของการแก้ไขปัญหาของประเทศ และเชื่อว่า MJets จะเป็นตัวแทนที่สำคัญของไทยในการให้บริการ Air Taxi และ K-Mile Air จะเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวของไทยในการให้บริการ Air Cargo ในอนาคตตลอดไป
อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ (6 ต.ค.) ทางองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศได้มีการประชุมที่สำนักงานใหญ่ในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา เพื่อพิจารณาเรื่องปลดธงแดงของประเทศไทย และคาดว่าจะสรุปผลแจ้งมาที่ไทยได้ในสัปดาห์หน้า หรือภายใน 15 วันหลังจากที่ ICAO ได้เข้ามาตรวจซ้ำ และจะแปลเป็น 6 ภาษาเพื่อแจ้งเวียนไปยังประเทศสมาชิก ซึ่งหากผลการบินของไทยผ่านมาตรฐานแล้วจะมีการนำธงแดงออกจากหน้าชื่อประเทศไทยในเว็บของ ICAO ภายใน 30 วัน หรือไม่เกินวันที่ 27 ต.ค.นี้
นอกจากนี้ กพท.เตรียมเปิดให้สายการบินเส้นทางภายในประเทศ จำนวน 10 สายและผู้ให้บริการเฮลิคอปเตอร์ 7 ราย มายื่นขอ Re-AOC ใหม่ได้ตั้งแต่ ม.ค. 2561 ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานการบินให้ครอบคลุมทั้งหมด
ด้านนายธนกฤต สิงหะคเชนทร์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบิน บริษัท เอ็มเจ็ท จำกัด กล่าวว่า หลังจากนี้บริษัทจะทำการตลาดมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเครื่องบิน โดยปัจจุบันมีเครื่องบินแอร์บัส 4 ลำ สำหรับให้บริการ Private Jet
นายเกล็ดชัย เบญจอาธรศิริกุล ประธานบริหารบริษัท เค-ไมล์ แอร์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทเป็นสายการบินขนส่งสินค้า มีความเชี่ยวชาญในด้าน Express ซึ่งมีการเติบโตตามธุรกิจ E-Commerce ซึ่งการได้รับ AOC ใหม่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการขยายตลาดและสร้างความเชื่อมั่นของลูกค้าให้กลับมาใช้บริการ ที่ผ่านมาบริษัทต้องระงับการบิน ซึ่งได้ประสานกับสายการบินอื่นในการขนส่งสินค้าให้ลูกค้า ดังนั้นลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ แต่ยอมรับว่าทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่มขึ้นบ้าง โดยปัจจุบันมีเครื่องบินโบอิ้ง 737 จำนวน 3 ลำ