บอร์ด ทอท.อนุมัติอัตราค่าเช่าที่ดินธนารักษ์ ย้อนหลัง 5 ปีจ่าย 1,400 ล้าน ส่วนปี 61 ประเมินจ่ายกว่า 900 ล้าน และเตรียมแผนพัฒนาการพัฒนาเชิงพณิชย์สุวรรณภูมิ ที่ดิน 723 ไร่ ส่วนแปลง 37 คาดเปิดประมูลปลายปี 61 พร้อมแยกจุดส่งมอบสินค้า (Pick Up Counter) สุวรรณภูมิ เปิดประมูลในปี 62 ตัดครหาผูกรวมสัมปทานดิวตี้ฟรี
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) ทอท.ที่มีนายประสงค์ พูนธเนศ เป็นประธานวันที่ 20 ก.ย. ได้มีมติเห็นชอบการกำหนดอัตราค่าตอบแทนในการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุแปลงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นผลการประชุมระหว่าง ทอท.กับกรมธนารักษ์ โดยการคำนวณค่าตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี (รอบปีงบประมาณ 2556-2560) ให้คำนวณตามฐานของสัญญาเดิมปรับเพิ่มขึ้นตามค่าเฉลี่ยดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (Average Headline CPI) ซึ่งจะทำให้ ทอท.ต้องชำระค่าตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ประมาณ 1,380 ล้านบาท ซึ่งบอร์ดอนุมัติกรอบไว้ไม่เกิน 1,400 ล้านบาท
สำหรับปีงบประมาณ 2561-2565 ให้คำนวณค่าตอบแทนจากมูลค่าทรัพย์สิน (Return on Asset : ROA) เพิ่มเติมจากวิธีการส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) โดยแบ่งประเภททรัพย์สินเป็นทรัพย์สินที่เป็น Commercial จะคิด ROA ร้อยละ 3 ของมูลค่าทรัพย์สิน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นพาณิชย์บริการ (Free Zone) จะคิด ROA ร้อยละ 0.01 ของมูลค่าทรัพย์สิน และพื้นที่ว่างเปล่าที่จะนำไปพัฒนาโครงการใหม่เฉพาะ Commercial จะคิด ROA ร้อยละ 2 ของมูลค่าทรัพย์สิน โดยจะปรับค่าตอบแทน ROA เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 ของอัตราค่าตอบแทนเดิมทุก 3 ปี โดยค่าตอบแทนเพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2561 เป็นเงินประมาณ 900.27 ล้านบาท/ปี
และบอร์ด ทอท.ยังเห็นชอบแนวทางการดำเนินการแก้ไขข้อจำกัดของการพัฒนาโครงการบนที่ดินแปลงถนนวัดศรีวารีน้อย 723 ไร่ โดยให้มีการดำเนินการเรื่องการแก้ไขผังเมืองให้เสร็จเรียบร้อยก่อน โดยการพัฒนาที่ดิน 723 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บนถนนวัดศรีวารีน้อย จังหวัดสมุทรปราการนี้ ทอท.ได้จัดซื้อโดยใช้งบลงทุนกว่า 2,034 ล้านบาทเพื่อรองรับการโยกย้ายราษฎรออกจากพื้นที่โครงการก่อสร้างท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ปัจจุบันยังคงมีสภาพเป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีการใช้ประโยชน์ ซึ่ง ทอท.ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลทรัพย์สิน
โดยจะดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องหรือสนับสนุนการดำเนินกิจการท่าอากาศยานหรือขนส่งทางอากาศ คือ ศูนย์กลางการขนส่งและกระจายสินค้า (Airport Logistics Park), ศูนย์กลางการประชุมและแสดงสินค้า (Convention and Exhibition Center), ศูนย์จำหน่ายสินค้าจากโรงงาน (Premium Outlet Center), ศูนย์รวมชุมชนตลาดไทยโบราณและพิพิธภัณฑ์ (Old THAI Style Market & Museum), ศูนย์กลางสำนักงาน (Office Complex) และกลุ่มอาคารที่พักอาศัย (Residence)
คาดว่าจะสามารถเปิดให้เอกชนเสนอรูปแบบการลงทุนโครงการเชิงพาณิชย์ในพื้นที่แปลง 37 ซึ่งมีประมาณ 800-900 ไร่ ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงปลายปี 61
***ได้เวลาแยก Pick Up Counter สุวรรณภูมิเปิดประมูลปี 62
นอกจากนี้ บอร์ดยังมีนโยบายในส่วนของจุดส่งมอบสินค้า (Pick Up Counter) ให้เป็นไปในลักษณะใช้ร่วมกัน (Common Use) เช่นเดียวกับที่ดำเนินการ ณ ท่าอากาศยานภูเก็ต ซึ่งการเปิดประมูล Pick Up Counter ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในปี 62 ก่อนสัมปทานพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และร้านค้าปลีกในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิของกลุ่มคิงเพาเวอร์จะหมดสัญญาในเดือน ก.ย. 63 ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่มีการวิพากษณ์วิจารณ์ก่อนหน้านี้
ส่วนพื้นที่ร้านค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และร้านค้าปลีก เมื่อสัญญาแต่ละท่าอากาศยานสิ้นสุดลงให้ดำเนินการโดยวิธีประมูล โดยดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิจะเริ่มประมูลหาเอกชนเข้าดำเนินการในเดือน ก.พ. 61 โดยพื้นที่ดิวตี้ฟรีในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ที่มีขนาด 1.1 หมื่น ตร.ม., อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 พื้นที่ 5 พัน ตร.ม. และอาคารแซตเทิลไลต์ 3 พัน ตร.ม. รวมทั้งหมด 1.9 หมื่น ตร.ม. ส่วนพื้นที่ร้านค้าปลีกในอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 มีขนาด 2 หมื่น ตร.ม. อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 มีพื้นที่ 2 หมื่น ตร.ม. และอาคารแซตเทิลไลต์ มีพื้นที่ 4 พัน ตร.ม. รวมทั้งหมด 3.4 หมื่น ตร.ม.
นายนิตินัยกล่าวว่า คาดว่าในงวดปี 61 (ต.ค. 60-ก.ย. 61) จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตอย่างน้อย 5% โดยคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารอยู่ที่ 135 ล้านคน และรายได้จะเติบโตมากกว่า 10% จากงวดปี 60 (ต.ค. 59-ก.ย. 60) โดยแบ่งสัดส่วนเป็นผู้โดยสารต่างประเทศ 56% และผู้โดยสารในประเทศ 44% ซึ่งแนวโน้มผู้โดยสารต่างประเทศจะมีสัดส่วนสูงขึ้น