ผู้จัดการรายวัน 360 - “เล่งหงษ์” ส่งต่อรุ่นที่สามเข้าบริหาร สยายปีกแตกแบรนด์ใหม่ ขยายฐาน เล็งปั้นแบรนด์ “เล่งหงษ์คิทเช่น” เจาะศูนย์การค้า และ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” ลุยซูชิ พร้อมขยายเล่งหงษ์ออริจินัลอีก ผนึกฟู้ดแพนด้าบริการส่งอาหาร
นายณธีพัฒน์ อรุณศิริสกุล หรือ เฮียซ้ง เล่งหงษ์ ประธานบริหาร ภัตตาคารเล่งหงษ์ เปิดเผยว่า ธุรกิจดำเนินมาครบปีที่ 55 แล้วในปี 2560 นี้ โดยมี 2 สาขาหลัก คือ ที่ถนนพระรามสองเปิดบริการเมื่อปี 2535 และสาขาสุขุมวิท 62 เปิดบริการปี 2548 การบริหารจะส่งต่อเข้ารุ่นที่สามตั้งแต่นี้เป็นต้นไป รวมถึงจากนี้ก็จะมีแผนการขยายธุรกิจเพิ่มขึ้นเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจด้วย เพราะเชื่อมันว่าธุรกิจอาหารยังมีโอกาสและการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจจะไม่ดีและส่งผลกระทบบ้างก็ตาม
สำหรับทายาทรุ่นที่สามที่เข้ามารับช่วงกิจการต่อคือลูกทั้งสามคน คือ นางสาวภิญสินี อรุณศิริสกุล ลูกสาวคนโต ดูแลด้านการตลาด การจัดซื้อ นางสาวภิมนิภา อรุณศิริสกุล คนรอง ดูแลด้านการผลิต วัตถุดิบ การเงิน และนายณัฐพัชร์ อรุณศิริสกุล ลูกชายคนเล็ก ดูแลด้านประชาสัมพันธ์ และรายการทีวี
โดยภายในช่วง 3-5 ปีจากนี้วางแผนที่จะเปิดสาขาใหม่ของภัตตาคารเล่งหงษ์อีก 2 สาขา เป็นแบบสแตนด์อะโลนทั้งในใจกลางเมืองและชานเมือง ใช้พื้นที่อย่างต่ำสาขาละ 1 ไร่ครึ่ง-2 ไร่ครึ่ง ลงทุนเฉลี่ย 40-50 ล้านบาทต่อสาขา โดยเน้นการเช่าที่ดินอย่างต่ำ 12 ปีขึ้นไป ขณะนี้มองทำเลบนย่านถนนราชพฤกษ์ และถนนที่เกิดใหม่มีหมู่บ้านคนรุ่นใหม่จำนวนมาก
ขณะเดียวกันได้จดลิขสิทธิ์แบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 2 แบรนด์ คือ “เล่งหงษ์ คิทเช่น” เป็นธุรกิจร้านอาหารจีนแนวโมเดิร์น กับแบรนด์ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” เป็นร้านอาหารซูชิญี่ปุ่นเกรดพรีเมียม
สำหรับแบรนด์ เล่งหงษ์ คิทเช่น จะเป็นภัตตาคารจีนสมัยใหม่ย่อส่วนลงจากภัตตาคารเล่งหงษ์เดิม เพื่อจับกลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่ ครอบครัว ที่ต้องการรับประทานอาหารจีนแบบมีความสะดวกสบาย ง่ายๆ มีเมนูประมาณ 70-100 เมนู น้อยกว่าภัตตาคารเล่งหงษ์ออริจินัลที่มีประมาณ 200 กว่าเมนู โดยคิทเช่นนี้จะเน้นเปิดในศูนย์การค้า คอมมูนิตีมอลล์ และพลาซาทั่วไป พื้นที่อย่างต่ำ 200-300 ตารางเมตร ลงทุนเฉลี่ย 20 ล้านบาทต่อสาขา วางเป้าหมายเปิดให้ได้ 3 สาขาภายใน 5 ปี คาดว่าปีหน้าจะเปิดบริการสาขาแรกได้
ส่วนแบรนด์ “ลิวโฮ ซูชิ บาย เล่งหงษ์” จะเป็นอาหารญี่ปุ่นแนวซูชิ จะเน้นเปิดแบบสแตนด์อะโลน พื้นที่อย่างต่ำ 200-300 ตารางวา ลงทุนประมาณ 10 ล้านบาทต่อสาขา มองทำเลถนนราชพฤกษ์ คาดว่าจะเปิดสาขาแรกปีหน้าเช่นกัน ส่วนรายการกินเที่ยวอะราวเดอะเวิลด์ ทุกวันจันทร์ เวลา 23.00 น. ทางช่อง 3SD ช่อง 28 ยังคงดำเนินตามปกติ และคาดว่าช่วงปี 2561 จะมีการขยายธุรกิจทางด้านรายการทีวีด้วย
ทั้งนี้ จากการเพิ่มช่องทางการติดต่อให้มากขึ้น เช่น เฟซบุ๊ก, ไลน์แอด และแอปพลิเคชัน Panda Food ที่ร่วมมือกันเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเพื่อตอบรับกับยุคดิจิตอลในการจัดส่งอาหารเพื่อขยายรายได้ รวมทั้งเมื่อเปิดบริการแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นแล้วมั่นใจว่าจะช่วยสร้างรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10% แน่นอน จากปัจจุบันนี้มีเพียงภัตตาคารเล่งหงษ์ออริจันัล 2 สาขา รายได้ไม่เติบโตเท่าใดนักช่วง 2-3 ปีนี้เพราะภาวะเศรษฐกิจไม่ค่อยดีร้านอาหารก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ซึ่งสัดส่วนรายได้มาจาก นั่งรับประทานในร้าน 90% และรับจัดเลี้ยงทั้งในและนอกสถานที่ 10% โดยระดับราคาอาหารชุดหรือโต๊ะจีนที่ขายดีอยู่ระหว่าง 5,000-8,000 บาทต่อโต๊ะ กว่า 80% ขณะที่ราคาสูงสุดคือ 15,000 บาท
ล่าสุดจัดโปรโมชัน เป็ดปักกิ่งต้นตำรับ 55 ปี จากเล่งหงษ์ฯ จากราคาปกติ 900 บาท เหลือ 599 บาท ข้าวหน้าเป๋าฮื้อ จากปกติ 400 บาท ลดเหลือ 299 บาท (สำหรับ 1-2 ท่าน) เป็นต้น