สนข.สรุปผลดำเนินงานระบบตั๋วร่วม”บัตรแมงมุม” พร้อมส่งไม้ต่อให้รฟม. เร่งเดินหน้า ตั้งบริษัทลูก และติดตั้งในระบบรถไฟฟ้า ก่อนเดินหน้าแจก 2 แสนใบทดลองใช้งาน เผย แบงก์-ร้านสะดวกซื้อ สนใจร่วมบัตรแมงมุม ขณะที่เตรียมหาช่องทาง ให้บัตรคนจนใช้กับรถไฟฟ้าได้ ตามนโยบาย”นายกฯ”
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดการสัมมนาสรุปผลการดำเนินงานโครงการดำเนินงานบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม (Program Management Services: PMS) ว่า เป็นการสรุปผลการดำเนินงานก่อนที่สนข.จะส่งต่อให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งรฟม.จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) วันที่ 18 ก.ย. เพื่อดำเนินการจัดการนส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งการเตรียมลงนามในMOUกับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือ บีทีเอส และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อ เริ่มติดตั้งระบบตั๋วร่วมใน รถไฟฟ้าบีทีเอสและสีน้ำเงิน โดยในช่วงแรก สนข.ได้ผลิตบัตรแมงมุมต้นแบบ จำนวน 2 แสนใบซึ่งจะโอนให้รฟม.ไปบริหารจัดการ กำหนดเงื่อนไขในการแจกฟรี กับประชาชนกลุ่มใด เนื่องจากเป็นบัตรที่ไม่มีค่ามัดจำ สามารถนำไปเติมเงินในส่วนค่าเดินทางได้ทันที
ทั้งนี้จากที่ สนข. ได้ประชุมร่วมกับผู้ประกอบการในภาคขนส่งและนอกภาคขนส่ง ทั้งธนาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านสะดวกซื้อ เกี่ยวกับระบบตั๋วร่วม (บัตรแมงมุม) ภาคเอกชนให้ความสนใจมาก โดยเฉพาะธนาคาร ซึ่งมีผู้ถือบัตรเป็นสมาชิกของธนาคารจำนวนมากอยู่แล้ว สามารถนำชิพของระบบแมงมุมเข้าไปใส่ซึ่งทำให้สามารถใช้ระบบขนส่งร่วมได้ จะเป็นแนวทางในการเพิ่มจำนวนผู้ถือบัตรแมงมุมอีกทาง
นายชัยวัฒน์ ย้ำว่า นโยบายเฟสแรกจะเริ่มใบ้บัตรแมงมุมกับภาคขนส่งก่อน โดย 1 ต.ค.60 ใช้กับบัตรมีผู้มีรายได้น้อย ในระบบรถเมล์ ขสมก. และรถไฟฟรี รถบขส. โดยจะมีการยกเลิกโครงการรถเมล์ฟรี รถไฟฟรี เพื่อจัดสรรงบประมาณได้ตรงกับผู้มีรายได้น้อยที่ขึ้นทะเบียนไว้ ซึ่งขณะนี้สนข.ได้ทยอยผลิตบัตรแมงมุมกับบัตรผู้มีรายได้น้อย จำนวน 1.37 ล้านใบเพื่อส่งมอบและแจกจ่ายกับประชาชนในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ในเดือนก.ย.นี้ ส่วนรถไฟฟ้า 4สาย จะมีการปรับปรุงระบบ ส่วน สายสีน้ำเงิน MRT และ BTS เนื่องจากมีจำนวนสถานีมาก และมีเวลาในการติดตั้งระบบน้อย ประมาณ 3 ชม.ต่อวัน ช่วงหลัง 01.00-04.00 น. เท่านั้น ซึ่งจะหารือให้ทยอยติดตั้ง1-2 ช่องเพื่อเปิดใช้ก่อน
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีมีนโยบาย ให้สามารถใช้บัตรผู้มีรายได้น้อยกับระบบรถไฟฟ้าได้ด้วย ซึ่งจะมีการหารือถึงแนวทางในการบริหารจัดการ โดยขณะนี้ นโยบายบัตรผู้มีรายได้น้อยวงเงินที่รัฐบาลช่วยเหลือผ่านบัตรสำหรับเดินทางต่อเดือน รถเมล์500 บาท รถไฟ 500 บาทและรถบขส. 500 บาท โดยวงเงินขนส่งแต่ละประเภทจะไม่สามารถใช้ข้ามระบบกันได้ และตัดยอดทุกเดือน และนำไปใช้แทนกันไม่ได้ เนื่องจากบัตรจะระบุชื่อ มีรูปถ่ายเจ้าของบัตร หากจะนำไปใช้กับรถไฟฟ้าจะขยายกระเป๋าหรือวงเงินอย่างไร ทั้งนี้จะขึ้นกับกระทรวงการคลังที่จะพิจารณาในการให้สวัสดิการและวงเงินงบประมาณที่มี
"ตอนนี้ บัตรคนจนมีเงิน 500 บาทต่อเดือนสำหรับใช้บริการรถไฟ ซึ่งหากแอร์พอร์ตลิงก์ ที่อยู่ภายใต้การรถไฟฯ ปรับปรุงระบบเสร็จ กระเป๋าเงินในส่วนของรถไฟก็อาจจะสามารถใช้แอร์พอร์ตลิงก์ร่วมด้วย เป็นต้น ส่วนรถเมล์นั้น ยอมรับว่า การใช้งานในช่วงแรกอาจจะมีปัญหาเพราะเป็นของใหม่และมีผู้โดยสารอื่นที่ไม่ได้ถือบัตรคนจนด้วยขณะที่ กายภาพของรถ การขึ้นลง ไม่เอื้อ ซึ่งขสมกง จะต้องบริหารจัดการและซักซ้อมให้ดี เชื่อว่าเมื่อเริ่มคุ้นชินจะปรับตัวกันได้ และในอนาคตหากจังหวัดในภูมิภาค มีระบบขนส่งมวลชน เช่นรถไฟฟ้ารางเบาที่ภูเก็ต จะต้องนำระบบบัตรแมงมุม ซึ่งเป็นมาตรฐานกลางเข้าไปติดตั้งในบัตรโดยสาร เช่นกัน "นายชัยวัฒน์กล่าว
นายเผด็จ ประดิษฐเพชร ผู้อำนวยการสำนักงานโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม สนข.กล่าวว่า สนข.ได้ทำงานเรื่องตั๋วร่วมมากว่า 56 เดือน และจะเริ่มใช้ร่วมกับบัตรคนจนได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ ขณะที่กระทรวงการคลังเร่งให้สนข.โอนสิทธิ์ศูนย์บริหารจัดการรายได้กลางให้รฟม. และเร่งให้รฟม.จัดตั้งบริษัทลูกขึ้นมาบริหารตั๋วร่วม ทั้งนี้ ระบบตั๋วร่วมของไทย ได้กำหนดเป็นมาตรฐานกลาง และให้หน่วยงานต่างๆ ภาคเอกชน นำไปใช้ในการออกบัตร ซึ่งหน้าตาของบัตรจะมีความหลากหลาย แต่จะมีโลโก้แมงมุมแสดงในบัตรที่ได้นำชิพตั๋วร่วมไปติดไว้ ซึ่งมีหลายประเทศใช้รูปแบบนี้ ขณะที่มีหลายประเทศใช้ระบบบัตรรูปแบบเดียว เช่น T-Money ของเกาหลี ซึ่งจะมีหน่วยกลางในการออกบัตร