ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดแอร์ 3 หมื่นล้านบาท ติดลบ 9% แย่สุดในรอบ 10 ปี “แคเรียร์” มุ่งนำเสนอสินค้าใหม่ ดันรายได้รวมโต 7% สู่4.8 พันล้านบาทในสิ้นปี
นายสมศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแอร์สิ้นปี 2560 คาดว่าจะติดลบประมาณ 9% หรือมีมูลค่าประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปี 2559 ที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมตลาดแอร์บ้านติดลบสูงถึง 15% เพราะสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการทำตลาด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็อยู่ในภาวะชะลอตัวจึงทำให้ภาพรวมตลาดปีนี้ติดลบต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
“หากแยกระหว่างแอร์บ้านกับแอร์เชิงพาณิชย์ ปีนี้ตลาดแอร์บ้านถือว่าติดลบค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแอร์เชิงพาณิชย์ที่ยังขยายตัวดี เติบโตอยู่ที่ 4% แต่การเติบโตดังกล่าวก็ไม่สามารถกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดแอร์โตได้ เนื่องจากสัดส่วนยอดขายแอร์บ้านมีมากถึง 2 หมื่นล้านบาท ส่วนแอร์เชิงพาณิชย์มี 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น”
ในส่วนของยอดขายแอร์ของ “แคเรียร์” ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีจากการออกสินค้าใหม่ที่มากกว่าปี 2559 ถึง 8 รุ่น การขยายช่องทางขายเพิ่มจากปัจจุบันขายผ่านตัวแทนจำหน่ายประมาณ 200 ราย สัดส่วน 80% และขายในห้างสรรพสินค้า 20% และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาที่เน้นออนไลน์มากขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวม 4.8 พันล้านบาท เติบโต 7%
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในปี 2561 คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว เติบโตประมาณ 3-7% เนื่องจากเชื่อว่าสภาพอากาศน่าจะเป็นใจในการทำตลาดมากกว่าปีนี้ และเศรษฐกิจน่าจะกลับมาฟื้นตัว เพราะภาครัฐจะมีการใช้งบลงทุนโครงการเมกะโปรเจคต์อีกหลายโครงการ อาทิ รถไฟรางคู่ การก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ประกอบกับการแข่งขันช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่คาดว่าจะรุนแรง เน้นโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 12 เดือน และให้ของแถม เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการแต่ละรายค่อนข้างประสบปัญหาในด้านของยอดขายที่ต่ำกว่าเป้าหมายจะเป็นส่วนสำคัญให้เกิดการแข่งขันสูงต่อไปจนถึงปีหน้า
นายสมศักดิ์ รัมมณีย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแอร์สิ้นปี 2560 คาดว่าจะติดลบประมาณ 9% หรือมีมูลค่าประมาณ 2.7 หมื่นล้านบาท ลดลงจากปี 2559 ที่มีมูลค่า 3 หมื่นล้านบาท เนื่องจากภาพรวมตลาดแอร์บ้านติดลบสูงถึง 15% เพราะสภาพอากาศไม่เอื้อต่อการทำตลาด ขณะเดียวกันเศรษฐกิจก็อยู่ในภาวะชะลอตัวจึงทำให้ภาพรวมตลาดปีนี้ติดลบต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
“หากแยกระหว่างแอร์บ้านกับแอร์เชิงพาณิชย์ ปีนี้ตลาดแอร์บ้านถือว่าติดลบค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแอร์เชิงพาณิชย์ที่ยังขยายตัวดี เติบโตอยู่ที่ 4% แต่การเติบโตดังกล่าวก็ไม่สามารถกระตุ้นให้ภาพรวมตลาดแอร์โตได้ เนื่องจากสัดส่วนยอดขายแอร์บ้านมีมากถึง 2 หมื่นล้านบาท ส่วนแอร์เชิงพาณิชย์มี 1 หมื่นล้านบาทเท่านั้น”
ในส่วนของยอดขายแอร์ของ “แคเรียร์” ช่วง 8 เดือนที่ผ่านมา ยังมีอัตราการเติบโตที่ดีจากการออกสินค้าใหม่ที่มากกว่าปี 2559 ถึง 8 รุ่น การขยายช่องทางขายเพิ่มจากปัจจุบันขายผ่านตัวแทนจำหน่ายประมาณ 200 ราย สัดส่วน 80% และขายในห้างสรรพสินค้า 20% และการทำกิจกรรมส่งเสริมการขาย เปลี่ยนรูปแบบการโฆษณาที่เน้นออนไลน์มากขึ้น ทำให้คาดว่าปีนี้จะมียอดขายรวม 4.8 พันล้านบาท เติบโต 7%
นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมตลาดเครื่องปรับอากาศในปี 2561 คาดว่าจะกลับมาฟื้นตัว เติบโตประมาณ 3-7% เนื่องจากเชื่อว่าสภาพอากาศน่าจะเป็นใจในการทำตลาดมากกว่าปีนี้ และเศรษฐกิจน่าจะกลับมาฟื้นตัว เพราะภาครัฐจะมีการใช้งบลงทุนโครงการเมกะโปรเจคต์อีกหลายโครงการ อาทิ รถไฟรางคู่ การก่อสร้างรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรืออีอีซี ประกอบกับการแข่งขันช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่คาดว่าจะรุนแรง เน้นโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 12 เดือน และให้ของแถม เนื่องจากตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาผู้ประกอบการแต่ละรายค่อนข้างประสบปัญหาในด้านของยอดขายที่ต่ำกว่าเป้าหมายจะเป็นส่วนสำคัญให้เกิดการแข่งขันสูงต่อไปจนถึงปีหน้า