ผู้จัดการรายวัน 360 - ตลาดรวมสินค้าเด็กติดลบ “ดีนี่” ฮึดสู้โตสวนกระแส 7% เหตุออกสินค้าใหม่ อัดโปรโมชันแรงดึงยอด ปีหน้าทุ่มงบตลาด 350 ล้านบาทลุยเต็มที่ พร้อมทุ่ม 2,000 ล้านบาทผุดโรงงานใหม่ รับขยายตลาดไทย และส่งออก
นางสาวปัทมา ถกลศรี ประธานบริหารฝ่ายการตลาด บริษัท นีโอ คอร์ปอเรท จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าสำหรับใช้ในครัวเรือนของไทย เปิดเผยว่า ตลาดรวมสินค้าที่เกี่ยวกับการดูแลเด็กในไทยปี 2560 มีมูลค่ารวมกว่า 5,800 ล้านบาท แต่ติดลบ 1.1% จากช่วง 2-3 ปีก่อนหน้าเติบโต 5% ขณะที่ตลาดรวมผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าสำหรับเด็กมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 1,000 ล้านบาท เติบโตแค่ 3.5% เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ผู้ประกอบการหลายแบรนด์ไม่มีการออกสินค้าใหม่ ประกอบกับอัตราการเกิดใหม่ของเด็กก็ลดน้อยลงมาตลอดในช่วง 5 ปีที่ผ่านมานี้
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของบริษัทฯ ที่มีผลิตภัณฑ์แบรนด์ดีนี่ทำตลาดอยู่ ในภาพรวมเติบโตถึง 7.7% และเป็นผู้นำตลาดด้วยแชร์ 45% และเติบโต 19% ในตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลผ้าเด็กที่มีมูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยแยกเป็น สินค้าซักผ้าเด็ก มูลค่า 600 ล้านบาท ตลาดรวมโต 1% แต่ดีนี่มีแชร์ 48% เติบโต 18%, กลุ่มปรับผ้านุ่มตลาดรวมมูลค่ากว่า 400 ล้านบาท ตลาดรวมโต 7.4% แต่ดีนี่เติบโต 8.6% เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 33%
สาเหตุที่ดีนี่เติบโตมากและเป็นผู้นำตลาดเนื่องจากการทำตลาดอต่อเนื่อง การทำกิจกรรมเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทั้งคุณแม่และเด็ก การออกสินค้านวัตกรรมต่อเนื่อง การจัดโปรโมชันแรงๆ และการมีช่องทางจำหน่ายของตัวเองด้วย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าบริษัทฯ ได้มีการปรับราคาสินค้าตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว (2559) ประมาณ 10% เพราะวัตถุดิบปรับราคาขึ้น แต่ก็ยังทำให้ยอดขายเติบโตไม่ได้กระทบแต่อย่างใด เพราะพ่อแม่ยุคใหม่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสำหรับลูกตัวเองแม้มีราคาสูงขึ้น
อีกทั้งเราจัดโปรโมชันแรงต่อเนื่อง เช่น ซื้อ 1 แถม 1, ซื้อ 2 แถม 1 แล้วแต่ช่วงเวลา ซึ่งจะทำสอดคล้องกับทางห้างสรรพสินค้าทำ การที่เราทำโปรโมชันแรงห้างก็ชอบ เพราะสามารถดึงคนและสร้างความคึกคักได้ จึงได้ให้พื้นที่มากขึ้น เพิ่มเติมจากเชลฟ์ เป็นพื้นที่พิเศษ ซึ่งเมื่อเรามีพื้นที่มากขึ้น โอกาสในการขายก็มากขึ้น ห้างก็ชอบ ส่วนแบรนด์คู่แข่งอาจจะไม่ค่อยเคลื่อนไหวมากนักไม่ค่อยมีออกสินค้าใหม่ ไม่ค่อยจัดโปรโมชัน อีกทั้งเรายังมีร้านค้าหลักในต่างจังหวัดอีกกว่า 150 แห่งที่เป็นร้านหลัก จากพันกว่าร้านค้า ที่ผู้คนในพื้นที่นั้นต้องไปซื้อสินค้า
โดยปีนี้ได้ตั้งงบลงทุน 2,000 ล้านบาท ขยายโรงงานการผลิตและไลน์ผลิตสินค้าใหม่ของดีนี่อีก 50% ที่ใหม่ที่ลำลูกกา ปทุมธานี เป็นหลายเฟส ซึ่งเฟสแรกจะเสร็จกลางปีหน้า ลงทุน 1,000 ล้นบาท คาดอีก 2 ปีจะแล้วเสร็จทั้งหมด ซึ่งโรงงานใหม่นี้จะมีศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ด้วย มีแผนที่จะขยายตลาดสินค้ากลุ่มพรีเมียมมากขึ้น ขณะนี้ร่วมมือกับเกาหลีและญี่ปุ่นพัฒนาสินค้า คาดว่าปีหน้าจะเปิดตัวได้ 2-3 รายการ
สำหรับช่องทางจำหน่ายดีนี่ ปีนี้ได้เร่งขยายครอบคลุมให้มากที่สุด แยกสัดส่วนช่องทางเป็น โมเดิร์นเทรด 38% ปีหน้าจะเป็น 35%, เทรดิชันนัลเทรด 30% ปีหน้าจะเป็น 30%, ช่องทางส่งออก 31% ปีหน้าจะเป็น 32% และออนไลน์และแผนกเด็ก 1% ปีหน้าเป็น 3% ซึ่งปัจจุบันมีชอปดีนี่ในแผนกสินค้าเด็กที่โรบินสัน 3 สาขา วางแผนจะเปิดชอปดีนี่แบบสแตนด์อะโลนด้วย เป้าหมายให้ครบ 20 สาขาในช่วงแรก ล่าสุดนำครอบครัว “ภูริ-แอน-น้องริชา หิรัญพฤกษ์” มาเป็นพรีเซ็นเตอร์
นอกจากนั้น ในปีหน้า 2561 ใช้งบตลาดรวมสำหรับแบรนด์ดีนี่ 350 ล้านบาท ทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ครบวงจร และจะทำตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง หลังจากได้เริ่มบ้างแล้ว โดยตลาดเป้าหมาย เช่น ซีแอลเอ็มวี ตะวันออกกกลาง จีน อเมริกา เป็นต้น สำหรับปี 2560 นี้ตั้งเป้ารายได้แบรนด์ดีนี่ไว้ที่ 1,500 ล้านบาท เติบโต 20% ซึ่งครึ่งปีแรกเติบโตเกินเป้า ส่วนปี 2561 ตั้งเป้ายอดขายรวมแบรนด์ดีนี่ไว้ที่ 2,000 ล้านบาท เติบโต 33%