นู สกิน เดินหน้ารุกการสื่อสารผ่านออนไลน์ เปิดตัวแอปพลิเคชัน “Nu Skin AR” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในการเข้าถึงข้อมูลสินค้าแบบ One Stop Service ตอกย้ำความสำเร็จจากการตอบรับของผู้บริโภคหลังยอดขายสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดมีสัดส่วนยอดขายออนไลน์เพิ่มเป็น 50% ภายในสิ้นปีนี้
นางวิภาดา ตั้งปกรณ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท นู สกิน เอ็นเตอร์ไพร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดของธุรกิจนู สกิน ยังคงมีอัตราการเติบโต ปัจจัยสำคัญมาจากการรุกตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัทจึงเล็งเห็นโอกาสทางธุรกิจและใช้กลยุทธ์การสื่อสารมากระตุ้นยอดขายผ่านระบบออนไลน์ให้มากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับเทรนด์การทำธุรกิจในยุคดิจิตอล โดยล่าสุดได้เปิดตัวแอปพลิเคชันภายใต้ชื่อ “Nu Skin AR” ซึ่งจะเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นู สกิน สามารถเรียนรู้และเข้าใจผลิตภัณฑ์ได้ง่ายๆ เพียง 4 ขั้นตอน หรือเรียกได้ว่าเปรียบเสมือนโปรแกรมคอยทำหน้าที่เป็นคลังข้อมูลให้แก่นักธุรกิจ สมาชิกและผู้บริโภคได้เข้าถึงข้อมูลของผลิตภัณฑ์ตลอดจนได้เรียนรู้วิธีการใช้งานของสินค้าในแต่ละชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
“การพัฒนาแอปพลิเคชัน “Nu Skin AR” เป็นหนึ่งในกลยุทธ์ของนู สกิน ที่จะบุกตลาดครึ่งปีหลัง เพื่อจูงใจลูกค้าในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย อย่างที่ทราบกันว่าปัจจุบันพฤติกรรมการจับจ่ายใช้สอยหรือไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่จะผูกติดกับสื่อออนไลน์ ดังนั้น นู สกินจึงให้ความสำคัญในการที่จะทำอย่างไรเพื่อให้สินค้าของเราสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างสะดวกและสามารถเกิดการสั่งซื้อสินค้าผ่านออนไลน์ ที่สำคัญผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลสินค้าและเรียนรู้วิธีใช้จากโปรแกรมได้เลย ซึ่งจากข้อมูลภายในพบว่า ลูกค้ามากกว่า 60% ของนู สกิน เข้าถึงข้อมูลดิจิตอลของบริษัทผ่านสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ทั้งนี้เราคาดว่าจากกลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นอีกโอกาสของนู สกิน ที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีผ่านกลยุทธ์ดิจิตอล โดยที่การทำตลาดในระบบแบบออฟไลน์ก็ยังคงทำควบคู่กันไปเพื่อให้เกิดประสิทธิผลสูงสุดต่อผู้บริโภคในทุกกลุ่มเป้าหมาย” นางวิภาดากล่าว
สำหรับด้านการใช้งานของแอปพลิเคชัน “Nu Skin AR” ใช้งานง่ายไม่ยุ่งยากและเข้าถึงผลิตภัณฑ์ได้ใน 4 ขั้นตอน ภายใต้คอนเซ็ปต์ “โหลด เลือก สแกน เรียนรู้” เมื่อทำการติดตั้งแอปพลิเคชันแล้วผู้ใช้สามารถเรียกดูข้อมูลสินค้าต่างๆ ของ นู สกิน เพียงถ่ายรูปผลิตภัณฑ์ที่ต้องการ จากนั้นแอปพลิเคชันจะทำการสแกนรูปภาพและประมวลผลเพื่อส่งรายละเอียดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดมาปรากฏบนมือถือสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของผู้ใช้งานทันที ซึ่งนอกจากจะเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าและผู้แทนจำหน่ายแล้ว ยังถือเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย ลดต้นทุนการใช้กระดาษและสิ่งพิมพ์ในรูปแบบเดิมๆ ยิ่งไปกว่านั้นยังถือเป็นการลงทุนระยะยาวได้อีกด้วย เนื่องจากในตัวของแอปพลิเคชันจะมีฟังก์ชันเพื่อกดสั่งซื้อสินค้าผ่านทางออนไลน์ ช่วยเพิ่มความสะดวก และเป็นการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่ม end user ของนู สกิน อย่างแท้จริง ตลอดจนช่วยผู้แทนจำหน่ายนู สกิน ในการบริการลูกค้าที่ต้องการสั่งซื้อสินค้าซ้ำ และเพียง 5 วันที่เปิดตัวฯ มียอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากกว่า 1,500 ดาวน์โหลด โดยคาดว่าจะมีมากถึง 10,000 ดาวน์โหลดภายในสิ้นปี
นางวิภาดากล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันยอดขายของการสั่งซื้อออนไลน์เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยมีสัดส่วนอยู่ 40% และคาดว่าจะมีสัดส่วนการเติบโตเพิ่มเป็น 50% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งที่ผ่านมา นู สกินได้มุ่งเน้นการทำตลาดผ่านกลยุทธ์ดิจิตอลมากว่า 5 ปี เริ่มต้นจากระบบชอปผ่านออนไลน์ การสร้างระบบออฟฟิศ ซึ่งเป็นระบบที่อำนวยความสะดวกให้ผู้แทนจำหน่ายสามารถตรวจสอบยอดขายและคอมมิชชันผ่านทางระบบออนไลน์ การสร้างแอปพลิเคชันต่างๆ ได้แก่ “NU Connect” ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่รวบรวมสื่อต่างๆ ของนู สกิน ไว้เป็นห้องสมุด “Nu Skin TR90” เป็นแอปพลิเคชันที่ใช้ควบคู่กับโปรแกรมเพื่อควบคุมน้ำหนัก รวมทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย ช่องทางต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้ง Facebook Instagram Twitter YouTube และ LINE ซึ่งสมาชิกที่ติดตามมากกว่า 50,000 ราย ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “Nu Skin AR” พร้อมให้ดาวน์โหลดเพื่อใช้งานได้แล้วตั้งแต่เดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ทั้งระบบไอโอเอส (iOS) และระบบแอนดรอยด์ (Android) สำหรับผู้ที่ต้องการดาวน์โหลดผ่าน App Store และ Play Store