xs
xsm
sm
md
lg

“ไวตาบูสท์” ลุยดูแลสุขภาพรายบุคคลถึงบ้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ไวตาบูสท์ เปิดตัวธุรกิจใหม่ บริการดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลแบบส่งตรงถึงบ้าน เน้นจุดแข็ง 4 ประการ คือ ง่าย-ปลอดภัย-สะดวก-ประหยัด มีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเลือกและจัดปริมาณให้เหมาะสมกับคนคนนั้นมากที่สุด ตั้งเป้ารายได้สิ้นปีแรก 10 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งตลาดอาหารเสริมและวิตามิน 1% ในอีก 5-7 ปี พร้อมแผนบุกตลาดพม่าสิงหาคมนี้

พญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย สมาชิก American Board of Anti-Aging / Regenerative Medicine (ABAARM) กรรมการผู้จัดการและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไวตาบูสท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันในวงการแพทย์ด้านเวชศาสตร์ชะลอวัยยอมรับกันว่าการกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมีสุขภาพที่ดี เพราะในปัจจุบันคุณค่าทางอาหารในผักผลไม้ที่เรารับประทานลดลงจากกระบวนการในการปรุงอาหารจนเหลือน้อยมาก และการรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ รับประทานผักผลไม้ครบทุกสีในแต่ละวันเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเนื่องจากไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบของคนยุคนี้ที่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย พอเหนื่อยก็ไปหาของอร่อยรับประทาน (งานสำรวจของสำนักโรคไม่ติดต่อ กระทรวงสาธารณสุขก็พบว่ามีคนไทยเพียงร้อยละ 26 ที่รับประทานอาหารครบห้าหมู่ และรับประทานผักผลไม้เพียงพอ)

ถึงแม้จะรับประทานครบก็อาจจะขาดวิตามินบางตัวที่มีน้อยมากในอาหารต้องได้รับจากแสงแดด เช่น วิตามิน D ซึ่งจากที่เราได้ตรวจเลือดผู้ใช้บริการมาเจ็ดเดือน เราพบว่าร้อยละ 98 ขาดวิตามินแร่ธาตุหรือมีวิตามินแร่ธาตุเกินอยู่ในระดับอันตราย ไม่ตัวใดก็ตัวหนึ่ง ที่น่าสนใจคือพบว่าร้อยละ 95 ขาดวิตามิน D หรือมีวิตามินดีไม่เพียงพอ (< 30 ug/L) เนื่องจากคนยุคนี้ชอบหลบแดดและทาครีมกันแดด ซึ่งการขาดวิตามิน D เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้คนเป็นโรคกระดูกพรุน โรคซึมเศร้า โรคมะเร็งบางชนิดกันมากขึ้น

ไวตาบูสท์มีทีมแพทย์ เภสัชกร พยาบาล และนักกำหนดอาหารที่เชี่ยวชาญในการใช้วิตามินช่วยดูแลสุขภาพ โดยเราให้บริการปรุงวิตามินสูตรเฉพาะบุคคล (Personalized vitamin) ซึ่งปรุงจากวัตถุดิบอาหารเสริมนำเข้าพรีเมียมกว่า 100 ชนิด ซึ่งแต่ละคนจะได้รับชนิดและปริมาณ (dosage) วิตามินแตกต่างกันตามอายุ เพศ น้ำหนัก, เป้าหมายด้านสุขภาพ, ระดับวิตามิน แร่ธาตุและสารต้านอนุมูลอิสระในเลือด, ไลฟ์สไตล์, ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น แอลกอฮอล์ บุหรี่ ความเครียด เพื่อให้เหมาะกับร่างกายคนคนนั้นมากที่สุด

ความจริงแล้ววิตามินปรุงเฉพาะบุคคลไม่ใช่เรื่องใหม่ในประเทศไทย มีการให้บริการนี้ในโรงพยาบาลและคลินิกเอกชนมาเป็นเวลาสิบกว่าปีแล้วและได้ผลลัพธ์ดีมากต่อผู้ใช้บริการ แต่ยังมีข้อจำกัดในเรื่องราคาที่สูงมาก ค่าวิตามินเดือนละหลัก 15,000-30,000 บาทต่อเดือน จึงทำให้ผู้ใช้บริการจำกัดอยู่ในระดับกลุ่ม A และ B+ และยังไม่ได้เป็นที่แพร่หลาย แต่ไวตาบูสท์ไม่ได้ต้องการที่จะไปแย่งลูกค้ากลุ่มนั้นจากโรงพยาบาล เป้าหมายของเราคือต้องการที่จะจับตลาดกลุ่มผู้ที่ซื้อวิตามินและอาหารเสริมรับประทานเองอยู่แล้วให้มีทางเลือก โดยโปรแกรมเสริมสุขภาพของไวตาบูสท์มีให้เลือกตามเป้าหมายสุขภาพของแต่ละคน และโปรแกรมเสริม (Add-on program) ”
พ.ญ.พลอยลดา ธนาไพศาลวรกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและเวชศาสตร์ชะลอวัย สมาชิก American Board of Anti-Aging / Regenerative Medicine
ไวตาบูสท์มีรูปแบบธุรกิจสองรูปแบบ ลูกค้ารายบุคคล เป็นระบบสมาชิก (subscription) สามารถสมัครรับบริการได้ตั้งแต่ 1/3/6/12 เดือน หรือจะขอใช้บริการครั้งเดียวก็ได้ โดยค่าบริการผลิตวิตามินและจัดส่งถึงบ้านจะอยู่ที่ 1,100-7,100 บาทต่อเดือน และมีค่าตรวจเลือดจะอยู่ที่ 4,000-10,000 บาทต่อครั้งซึ่งปีหนึ่งควรตรวจอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และหลังจากรับประทานวิตามินไป 3-6 เดือนก็ควรเจาะเลือดในรายการที่มีปัญหาเพื่อติดตามผล

ตลาดลูกค้าองค์กร ไวตาบูสท์ยังมีโปรแกรมดูแลสุขภาพของผู้บริหารและพนักงานในองค์กรต่างๆ โดยในปัจจุบันมีบริษัทในตลาดหลักทรัพย์และ start-up ชื่อดังหลายเจ้าให้เราเข้าไปช่วยแก้ pain point ด้านสุขภาพของผู้บริหารและพนักงานที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย พักผ่อน หรือรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งถ้าสุขภาพของคนในองค์กรดีบริษัทก็จะมี Productivity มากขึ้นลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้มหาศาล ซึ่งหลังจากได้ลองทำตลาดแล้วก็ถือว่าได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และไวตาบูสท์ยังมีบริการรับจ้างผลิต (OEM) วิตามินเฉพาะบุคคลให้แก่คลินิกและโรงพยาบาลอื่นๆ
ศรัณย์ ชัยปาณี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไวตาบูสท์ (ประเทศไทย) จำกัด
นายศรัณย์ ชัยปาณี ประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการ และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไวตาบูสท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จุดเด่นของไวตาบูสท์ เราเน้นหลัก 4 ประการ คือ ง่าย-ปลอดภัย-สะดวก-ประหยัด

1. ง่าย - เราทำให้การรับประทานวิตามินแบบได้ผลและปลอดภัยเป็นเรื่องง่าย ผู้ใช้ไม่ต้องปวดหัวว่าจะเลือกรับประทานอะไร ปริมาณเท่าไหร่ นานเท่าไหร่ และผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาในการจัดวิตามินและอาหารเสริมลงกล่องยาในแต่ละวัน

2. ปลอดภัย - เราออกแบบโปรแกรมระบบปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) ที่ชื่อว่า Vitalyzer มาช่วยแพทย์ในการคำนวณปริมาณ ชนิดของอาหารเสริมที่เหมาะสมของแต่ละคน และยังมีระบบช่วยจดจำและหยุดการกินต่อเนื่องโดยอัตโนมัติของวิตามินบางตัวที่อาจสะสมในร่างกาย

3. สะดวก - เรามีบริการส่งพยาบาลวิชาชีพไปเก็บตัวอย่างเลือดถึงบ้านเพื่อประหยัดเวลาการเดินทาง เข้าคิวรอ และเรายังมีบริการส่งวิตามินรายเดือนไปถึงบ้านโดยขนส่งเอกชน

4. ประหยัด - บริการของเรามีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการไปซื้ออาหารเสริมชนิดเดียวกันและเกรดระดับเดียวกันรับประทานเอง โดยค่าวิตามินเริ่มตั้งแต่ 1,100-7,100 บาทต่อเดือนแล้วแต่โปรแกรมและแพกเกจ และบริการของเรายังมีราคาถูกกว่าศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยอื่นอยู่มากพอสมควร
สุวิชชา เนติวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไวตาบูสท์ (ประเทศไทย) จำกัด
นายศรัณย์ ชัยปาณี ได้เสริมเกี่ยวกับแนวทางการทำการตลาดว่า กลยุทธ์การตลาดในช่วงแรกจะเป็นการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการรับประทานอาหารเสริมสูตรเฉพาะบุคคลซึ่งถือเป็นเรื่องใหม่สำหรับตลาดซึ่งต้องอาศัยการอธิบายผ่านการทำคอนเทนต์ โดยการทำการตลาดจะเป็นการทำประชาสัมพันธ์แบบ IMC (integrated marketing communication) จะแบ่งเป็น online และ offline โดยด้านออนไลน์จะเน้นโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง Facebook, Instagram, Line@ เพราะเข้าถึงตรงสู่มือถือผู้บริโภค และทำออฟไลน์ควบคู่กันไปโดยการออกบูทตามที่ต่างๆ และออกอีเวนต์ที่เกี่ยวกับด้านความงาม และสำหรับลูกค้าชาวต่างชาติ เรากำลังทำตลาดกลุ่ม expats ที่อยู่ในประเทศไทย โดยการนำเสนอลูกค้ากลุ่มองค์กร และเริ่มทำ health and wellness tourism โดยสร้างศูนย์ Wellness Center ที่เอกมัยและทำโปรโมชันร่วมกับบริษัททัวร์ต่างๆ เพื่อขยายฐานลูกค้า

นายสุวิชชา เนติวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ไวตาบูสท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ไวตาบูสท์ยังมีบริการแอปพลิเคชัน Vitaboost ซึ่งทำหน้าที่สมุดพกสุขภาพเก็บข้อมูลสุขภาพต่างๆ ไว้ในมือถือ และสามารถสมัครขอรับบริการวิตามินปรุงเฉพาะบุคคลได้โดยตรงจากในแอปพลิเคชันผ่านบัตรเครดิตอีกด้วย

นายศรัณย์ ชัยปาณี เปิดเผยข้อมูลวิจัยจากศูนย์ Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ ปี 2015 พบว่า ตลาดอาหารเสริมและวิตามินในประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านบาท และในปี 2016 พบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6.6 หมื่นล้านบาท และมีแนวโน้มว่าจะโตขึ้นเรื่อยๆ ไวตาบูสท์อยากจะเข้าไปในตลาดกลุ่มนี้ จึงเริ่มธุรกิจบริการดูแลสุขภาพแบบเฉพาะบุคคลแบบ Home Service และเป็นรูปแบบใหม่ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะไวตาบูสท์มีบริการส่งบุคลากรทางการแพทย์ไปเจาะเลือดถึงบ้านและส่งวิตามินสูตรเฉพาะบุคคลถึงบ้าน อำนวยความสะดวกและประหยัดเวลาให้ผู้ใช้บริการ เนื่องจากเข้าถึงง่ายและราคาไม่แพงจึงได้รับความสนใจจากผู้ใช้บริการจำนวนมากหลังจากเปิดตัวอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อ มิ.ย. 2560

นอกจากนั้น ไวตาบูสท์ได้เริ่มศึกษาบุกตลาดพม่า โดยได้เริ่มจ้างแพทย์ชาวพม่าตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 เพื่อดำเนินการจัดตั้งและขออนุญาตต่างๆ เพื่อเอาโมเดลของเราไปทดลองในตลาดพม่า และเรามีแผนที่จะบุกตลาด CLMV ด้วย

สำหรับเป้าหมาย รายได้ในปี 2560 ตั้งเป้าที่ 10 ล้านบาท และปี 2561 ตั้งเป้าที่ 25 ล้านบาท ส่วนผู้ใช้บริการตั้งเป้า 500 คนในปี 2560 (ปัจจุบันหลังเริ่มให้บริการ ม.ค.-ก.ค. 2560 มีผู้ใช้บริการ 230 คน) ฐานลูกค้าปัจจุบันมาจากคนที่รู้จักไวตาบูสท์จาก social media, การออกบูท, Words of mouth จากผู้ใช้ไวตาบูสท์ที่ใช้ดีแล้วบอกต่อ มีอายุตั้งแต่ 20-75 ปี โดยตั้งเป้าว่าไวตาบูสท์จะมีส่วนแบ่งตลาด 1% ของตลาดอาหารเสริมและวิตามินภายใน 5-7 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น