เมกา โฮม ปรับกลยุทธ์สาขา ชูเชียงรายเป็นสาขาต้นแบบ ที่ไม่เพียงแค่ขายสินค้า แต่ยังมีการใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องสัมมนาเพื่อให้ความรู้แก่ลูกค้าที่เป็นช่าง พร้อมกับเปิดพื้นที่บางส่วนให้เป็น “โค เวิร์คกิ้งสเปซ” ที่มี Wi-Fi บริการฟรี เพื่อให้ลูกค้าได้เข้ามาใช้เป็นพื้นที่ทำงานระหว่างมาซื้อสินค้า หวังใช้เป็นทีเด็ดในการมัดใจลูกค้าเพื่อให้เข้ามาใช้บริการประจำ
นางสุพรศรี นาคธนสุกาญจน์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการและบริหารกลุ่มสินค้า บริษัท เมกา โฮม เซ็นเตอร์ จำกัด ผู้บริหารเมกา โฮม ศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้าง และของใช้ภายในบ้านครบวงจร กล่าวว่า การเปิดสาขาเชียงราย ซึ่งเป็นสาขาที่ 12 ของบริษัทนั้น เป็นการบุกตลาดอย่างต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี 2560 โดยเปิดอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 10 ส.ค. (วันนี้) สาขานี้จะมีความแตกต่างจากสาขาอื่นๆ ของเมกา โฮม ตรงที่จะมีการใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นห้องสัมมนาเพื่อให้ความรู้กับบรรดาช่าง ซึ่งจะมีการจัดอบรมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการเปิดพื้นที่ที่เป็น "โค เวิร์คกิ้ง สเปซ" โดยจะมีฟรีไวไฟให้กับลูกค้าเพื่อให้สามารถเข้ามาทำงานในระหว่างรอรับสินค้า
"สาขาเชียงรายจะเป็นสาขาต้นแบบสำหรับสาขาใหม่ๆ ที่จะเปิด โดยเราจะมีการรีโนเวทสาขาเดิมพร้อมกับเพิ่มพื้นที่ในส่วนดังกล่าวเข้าไป เพื่อให้บริการลูกค้าซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งความแตกต่างที่เมกา โฮม ทำขึ้นมาเพื่อให้บริการลูกค้า"
การปรับกลยุทธ์ในส่วนของสาขาใหม่นี้ ส่วนหนึ่งเป็นการรองรับพฤติกรรมการใช้บริการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป โดยลูกค้าทั้งที่เป็นเจ้าของบ้าน ผู้รับเหมา และช่าง ต่างมีการหาข้อมูล พร้อมกับเปรียบเทียบราคาจากสื่อออนไลน์มากขึ้น ทำให้ใช้เวลาในการเดินเลือกซื้อสินค้าน้อยลง ซึ่งการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในครั้งนี้ นอกจากจะเพิ่มพื้นที่การให้บริการใหม่ๆ รวมถึงการอบรมให้ความรู้แก่บรรดาช่างเพื่อสร้างความผูกพันในระยะยาวกับลูกค้าแล้ว เมกา โฮม ยังมีการปรับเปลี่ยนในเรื่องของการสื่อสารกับลูกค้า โดยจะใช้สื่อโซเชียลมีเดียเข้ามาเป็นตัวสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น ซึ่งจะมีการเปิดให้ลูกค้าสามารถออเดอร์สินค้าล่วงหน้าก่อนที่จะเข้ามาที่สโตร์ เพื่อทำให้ลูกค้ามีความสะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง
นอกจากการปรับเปลี่ยนในเรื่องของการให้บริการแล้ว เมกา โฮม ยังมีการปรับรูปแบบในการนำเสนอสินค้าที่เน้นในเรื่องของนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ในเรื่องของการลดระยะเวลาในการทำงานให้กับบรรดาช่างหรือเจ้าของบ้าน ทำให้สินค้าสำเร็จรูปที่สามารถช่วยลดระยะเวลาในการติดตั้งถูกนำมาขายในสโตร์มากขึ้น
ตัวอย่างในเรื่องนี้ก็คือ การร่วมมือพันธมิตรอย่าง The CUBE ผลิตร้านค้าสำเร็จรูปที่เจาะเข้าไปยังกลุ่มคนที่ต้องการจะมีร้านค้า หรือร้านกาแฟของตัวเอง รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรีสอร์ต และคนที่จะขยายบ้านเพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว ซึ่งเมกา โฮม ถือเป็นรายแรกที่นำร้านค้าสำเร็จรูปมาทำตลาด
ร้านค้าสำเร็จรูปนี้มีไซส์ให้เลือกรวมถึงระดับราคาที่หลากหลายตั้งแต่ 150,000-585,000 บาท โดยจะใช้เวลาในการติดตั้งประมาณ 3 วัน ทำให้ช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างให้กับลูก แถมยังช่วยประหยัดเงิน ทำให้มีกระแสตอบรับค่อนข้างดี โดยเมกา โฮม มองว่าในช่วงที่เหลือของปีนี้น่าจะทำยอดขายได้ประมาณ 100 หลัง
ภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวส่งผลต่อกำลังซื้อในตลาด ทำให้ยอดขายในครึ่งปีแรกของเมกา โฮม เติบโตประมาณ 20% โดยเป้าหมายเดิมที่วางไว้ว่าในปีนี้จะมีการเติบโตของยอดขาย 30% หรือมียอดขายรวมที่กว่า 9 พันล้านบาท ทำให้ต้องมีการปรับเป้าการเติบโตลง
“ช่วงที่เหลือของปีนี้เราจะเติบโตจากการขยาย Catchment Area ใหม่ อย่างการเปิดสาขาที่ 12 ที่จังหวัดเชียงราย ถือเป็นการเข้าไปในตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตค่อนข้างดี เพราะมีกำลังซื้อทั้งในจังหวัดเชียงราย และประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่า สปป.ลาว เลยไปถึงจีน ไม่เพียงเท่านั้น เรายังมองการเติบโตจากการเข้าไปหาดีมานด์หรือกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขาย อาทิ การทำตลาดร้านค้าสำเร็จรูปที่เป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงกำลังซื้อกลุ่มใหม่ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ได้เป็นอย่างดี” สุพรศรีกล่าว และทิ้งท้ายว่า
“เรื่องของการแข่งขันนั้น ราคาที่แต่ละค่ายนำเสนอจะไม่หนีกัน อยู่ที่ว่าใครจะมี Value Added ให้กับลูกค้ามากกว่ากัน เป็นแนวโน้มของการแข่งขันที่เราจะได้เห็นมากขึ้นนับจากนี้ไป”