ผู้จัดการรายวัน 360 - ศึกไส้กรอก 34,000 ล้านบาทเดือด “เบทาโกร” รุกคืบเจาะผู้บริโภคถึงหน้าโรงเรียนสู้เจ้าตลาด ชิมลางผ่าน “รถทอด” จากแคมเปญ รวยติดล้อกับไส้กรอกเบทาโกร หวังสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากขึ้น มั่นใจปีนี้ยอดขายโต 2 หลัก ใกล้เคียงปีก่อน
นางประถิมา อุเทนพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการ สำนักการตลาด บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดไส้กรอก 34,000 ล้านบาท เติบโตปีละ 3-4% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าระดับ B-C เป็นหลักเกิน 50% ซึ่งภาพรวมตลาดเป็นการเติบโตจากการซื้อสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะผู้เล่นในตลาดโดยเฉพาะกลุ่มโลคัลขนาดสินค้าให้มีรสชาติหลากหลาย และเพิ่มวัตถุดิบขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาด
ในส่วนของเบทาโกร ปัจจุบันมีส่วนแบ่งในตลาด 10-15% โดยจะมุ่งเน้นความหลากหลาย ขณะที่ราคาสินค้าจัดอยู่ในกลุ่มพรีเมียมที่มีราคาสูงกว่าโลคัลเพียง 5-15% เท่านั้น จึงสามารถเข้าช่องทางตลาดสดจนเป็นรายได้หลัก 70-75% และโมเดิร์นเทรด 25%
ล่าสุดปี 2560 นี้พร้อมใช้งบการตลาด 20-30% ของยอดขายในการรุกตลาดต่อเนื่อง ผ่านกิจกรรมและแคมเปญต่างๆ ล่าสุดจัดกิจกรรม “รวยติดล้อกับไส้กรอกเบทาโกร” ในช่วงเดือน ส.ค.นี้ 5 คัน และในสิ้นปีอีก 5 คัน รวมมูลค่าของรางวัล 1 ล้านบาท เฉลี่ยคันละ 1 แสนบาท เพื่อต้องการเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้ขายให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะทำเลหน้าโรงเรียน หรือตามแหล่งชุมขน เป็นต้น ถือเป็นการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และสร้างการรับรู้ได้เป็นอย่างดี
“แคมเปญ รวยติดล้อกับไส้กรอกเบทาโกร เป็นการสร้างห่วงโซ่ธุรกิจให้มีความแข็งแกร่งทั้งระบบ และช่วยคู่ค้ากว่า 500 รายในการผลักดันต่อให้ผู้นำสินค้าไปขายเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น อนาคตอาจจะต่อยอดไปสู่แฟรนไชส์ 'รถทอด' ก็ได้ ซึ่งระดับราคาขายอยู่ในระดับเดียวกับของท้องตลาดที่ทำกันอยู่”
อย่างไรก็ตาม ปีนี้บริษัทยังพร้อมขยายสาขาเบทาโกรชอปอีก 40 สาขา ซึ่งทยอยเปิดให้บริการมาตั้งแต่ต้นปี ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ถึงสิ้นปีน่าจะเปิดได้ครบ 200 สาขา จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 160 สาขา โดยมองว่าจะผลักดันให้ปีนี้กลุ่มสินค้าแปรรูป เช่น ไส้กรอก ไก่ยอ และอื่นๆ จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปกติโตปีละ 10-12% สูงกว่าตลาดที่โต 3-4% ได้