อธิบดี ทล.สั่งแขวงทางหลวงทั่วประเทศเฝ้าระวังน้ำท่วม ห้ามออกนอกพื้นที่ พร้อมสั่งเตรียมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยเพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทางได้ทันที หลังพายุดีเปรสชัน “เซินกา” ปกคลุมไทย เผยล่าสุดถนนถูกน้ำท่วมใน 10 จังหวัด รวม 18 สายทาง จำนวน 29 แห่ง การจราจรผ่านได้ 23 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง
นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีมรสุมพัดผ่านประเทศไทยผลเนื่องมาจากกำลังพายุดีเปรสชัน “เซินกา” (SONCA) ทำให้ไทยตอนบนจะมีฝนตกเป็นบริเวณกว้างกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดพายุลมแรง ดินโคลนถล่ม ต้นไม้ล้ม ทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้รับความเดือดร้อน ทั้งนี้ เพื่อเป็นการป้องกัน แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้สั่งการให้ผู้อำนวยการแขวงทางหลวง (104 แขวงทางหลวง) ทั่วประเทศให้อยู่ในพื้นที่ และเมื่อเกิดเหตุให้อำนวยการ/สั่งการ รวมถึงรายงานให้ศูนย์ภัยพิบัติ ตามหลักเกณฑ์ และให้รายงานผู้บริหารทุก 4 ชั่วโมง จนกว่าเหตุการณ์จะยุติ
อีกทั้งได้สั่งการหมวดทางหลวงทั่วประเทศจัดเตรียมอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัย เพื่อใช้ในกรณีเกิดเหตุภัยพิบัติที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ทาง รวมถึงเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ที่อาจก่อให้เกิดภัยพิบัติและให้เข้าถึงพื้นที่ที่เกิดเหตุทันที เพื่ออำนวยความสะดวกและปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง พร้อมทั้งให้ดูแลพื้นที่สองข้างทางให้มีขีดความสามารถในการระบายน้ำ เช่น ขุดลอกระบบระบายน้ำ กำจัดวัชพืช กิ่งไม้ที่กีดขวางทางไหลของน้ำ เป็นต้น
โดยหากเกิดภัยพิบัติขึ้นหน่วยงานในพื้นที่ต้องเร่งแก้ไขให้การจราจรใช้การได้ในเบื้องต้นทันที พร้อมทั้งสั่งการให้ศูนย์สร้างทาง ศูนย์สร้างและบูรณะสะพาน จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ วัสดุและชิ้นส่วนสะพานเบลีย์ เครื่องจักร /ยานพาหนะ เตรียมพร้อมสนับสนุนทุกหน่วยงานในกรณีถนน หรือสะพานขาด นอกจากนี้ยังได้กำชับให้ติดตั้งป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และอุปกรณ์อำนวยความสะดวก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ และหลังจากเกิดภัยให้ติดตามเร่งสำรวจ ตรวจสอบ รายงานความเสียหาย พร้อมข้อเสนอแนะจัดทำแผนซ่อมบูรณะฟื้นฟูสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน ณ วันที่ 27 กรกฎาคม 2560 ทางหลวงได้ถูกน้ำท่วม จำนวน 10 จังหวัด ได้แก่ จ.หนองบัวลำภู จ.มหาสารคาม จ.จังหวัดขอนแก่น จ.นครราชสีมา จ.ปราจีนบุรี จ.ยโสธร จ.ร้อยเอ็ด จ.อุบลราชธานี จ.มุกดาหาร และ จ.ลพบุรี โดยทางหลวงถูกน้ำท่วม 18 สายทาง จำนวน 29 แห่ง การจราจรผ่านได้ 23 แห่ง ผ่านไม่ได้ 6 แห่ง ได้แก่ พื้นที่ จ.มหาสารคาม (ทางหลวงหมายเลข 219 ตอน บรบือ-ยางสีสุราช ท้องที่ อ.นาเชือก กม.ที่ 30 ระดับน้ำสูง 40-50 ซม. จ.นครราชสีมา (ทางหลวงหมายเลข 2 ตอน ตาลาด-หนองแวงโสกพระ ท้องที่ อ.บัวลาย กม.ที่ 248 ระดับน้ำสูง 50-70 ซม. จ.อุบลราชธานี จำนวน 2 แห่ง (ทางหลวงหมายเลข 2248 ตอน ซำหวาย-บุญฑริก ท้องที่ อ.น้ำยืน กม.ที่ 46-47 ระดับน้ำสูง 50 ซม. และทางหลวงหมายเลข 2248 ตอน ซำหวาย-บุญฑริก ท้องที่ อ.บุญฑริก กม.ที่ 96-97 ระดับน้ำสูง 50 ซม.) จ.มุกดาหาร (ทางหลวงหมายเลข 2287 ตอน คลองหลวง-สานแว้ ท้องที่ อ. ดงหลวง กม.ที่ 22 ระดับน้ำสูง 100 ซม. และ จ.ลพบุรี (ทางหลวงหมายเลข 2247 ตอน จงโก-สำสมพุง ท้องที่ อ.ลำสนธิ กม.ที่ 2 ระดับน้ำสูง 80 ซม.
ทั้งนี้ ประชาชนที่ต้องการสอบถามสภาพเส้นทางการจราจรบนถนนทางหลวงในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย ต้องการความช่วยเหลือ หรือพบเหตุบนทางหลวง เช่น ต้นไม้ล้ม ทางขาด สามารถแจ้งได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ทุกวันฟรีตลอด 24 ชั่วโมง